ผู้จัดการรายวัน360- มติศาลรธน.7 ต่อ 2 ฟัน"ธนาธร" พ้น ส.ส.นับตั้งแต่ 23 พ.ค. ชี้พยานแวดล้อมและพฤติการณ์มีข้อพิรุธ ไม่อาจหักล้างคำอ้างโอนหุ้น ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.62 ได้ พร้อมให้ประธานสภาฯ ประกาศเลื่อนรายชื่อส.ส.ในบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปขึ้นมาแทน ด้าน "ธนาธร" แถลงสู้นอกศาล ยก 4 ประเด็นไม่ควรพ้นส.ส. ชี้ศาลใช้ข้อสันนิษฐานมากกว่าข้อเท็จจริงตัดสิน คุยยังเป็นแคนดิเดตนายก พร้อมเดินหน้าทำงานการเมืองต่อไป "วิษณุ"บอกมีช่องเอาผิดอาญา แต่ต้องพิสูจน์กันอีกเยอะ ด้าน กกต. เตรียมสอบเอาผิด พ.ร.ป.เลือกตั้ง ม.151 ปมรู้ว่าไม่มีสิทธิแต่ลงสมัครเลือกตั้ง "ปิยบุตร" ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัย แต่ไม่หวั่น เดินหน้าสู้ทุกมรสุม
วานนี้ ( 20 พ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำวินิจฉัย โดยมีมติ 7 ต่อ 2 ว่า สมาชิกภาพส.ส. ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 ( 6) ประกอบมาตรา 98 ( 3) จากเหตุถือครองหุ้นสื่อบริษัท วี- ลัค มีเดีย จำกัด ขณะลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยให้เหตุผลว่า การที่รธน. กำหนดให้นำลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครส.ส. กรณีการห้ามถือหุ้นสื่อ มาเป็นเหตุแห่งการสิ้นสุดสมาชิกภาพ ก็เพื่อไม่ให้ผู้เป็นเจ้าของสื่อ อาศัยความได้เปรียบ หรือความเป็นเจ้าของกิจการ เผยแพร่ข่าวสารที่เป็นประโยชน์หรือโทษ หรือครอบงำสื่อมวลชน ทำให้สื่อไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลาง ซึ่งการไต่สวนและดำเนินการยื่นคำร้องของกกต. ต่อศาลรธน. เป็นไปตามรธน. มาตรา 82 วรรคสี่ ถือว่าชอบด้วยกฎหมายแล้ว (อ่าน...เปิดคำวินิจฉัยศาลรธน.ให้"ธนาธร"พ้นสภาพส.ส. หน้า 2)
จากกรณีดังกล่าว ส่งผลทำให้สมาชิกภาพของนายธนาธร สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 62 ซึ่งเป็นวันที่ศาลได้สั่งให้นายธนาธร หยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้ถือว่าวันที่ศาลอ่านคำวินิจฉัย (20 พ.ย.) เป็นวันที่ตำแหน่ง ส.ส.ว่างลง ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อเลื่อนรายชื่อส.ส.ในลำดับถัดไปแทนตำแหน่งที่ว่างลงภายใน 7 วัน
"ธนาธร" ตั้งข้อสังเกตใช้ข้อสันนิษฐานมากกว่าข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลรธน. อ่านคำวินิจฉัยให้ นายธนาธร สิ้นสมาชิกภาพ ส.ส. แล้ว นายธนาธร ได้เดินออกจากห้องพิจารณาคดี โดยยังคงแสดงสีหน้ายิ้มแย้ม โบกมือให้กับกลุ่มผู้สนับสนุน ที่ยังตะโกนให้กำลังใจ โดยนายธนาธร ได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ และได้แสดงความคิดเห็น ต่อคำพิพากษาของศาลรธน. ดังนี้
1. ประเด็นใบอนุญาตการพิมพ์ โดยศาลรธน.ได้อ้างถึง พ.ร.บ.การพิมพ์ สื่อสิ่งพิมพ์ว่า บริษัทของตนยังไม่ได้แจ้งยกเลิก ดังนั้นบริษัท วี-ลัค จะทำสื่ออีกครั้งเมื่อไรก็ได้ โดยศาลฯ ยอมรับไปแล้วว่า บริษัท วี-ลัค ไม่มีรายได้แล้ว ในความเห็นของตน ถ้าบริษัท วี-ลัค ยังเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ก็ควรไปตัดสินตอนนั้น ทำไมมาตัดสินตอนนี้ ทั้งที่ศาลฯ ยอมรับว่าบริษัทนี้ ไม่มีรายได้ ไม่มีพนักงาน และปิดตัวลงตั้งแต่ 26 พ.ย.61
2. ศาลฯ พูดถึงเจตนารมณ์รธน. มาตรา 98 ว่า ไม่ให้นักการเมืองให้คุณกับตัวเอง ให้โทษกับผู้อื่น แต่ศาลฯไม่ได้พูดเลยว่า ตนหรือบริษัท วี-ลัค กระทำผิดเจตนารมณ์รธน. อย่างไร
3. เรื่องการจดแจ้ง บอจ.5 กับกระทรวงพาณิชย์ ตามกฎหมาย จะแจ้งเมื่อไรก็ได้ ภายใน 1 ปี การแจ้งช้าหรือเร็ว ไม่ใช่การกระทำผิด โดยบริษัท วี-ลัค ในวันนี้ไม่มีพนักงานแล้ว เอางานไปฝากกับบริษัทอื่น การยื่นบอจ. 5 ช้า ไม่ได้มีครั้งนี้ครั้งเดียว แต่ที่ผ่านมาก็เคยมี ที่สำคัญคือหลังการประชุมผู้ถือหุ้นทุกครั้ง มักจะยื่น บอจ. 5 ในวันที่ 8 ม.ค. ซึ่งเป็นเรื่องปกติ และเป็นหลักปฏิบัติในทุกครั้ง
4. กรณีการนำเช็คค่าหุ้นไปขึ้นเงินของ นางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งนางรวิพรรณ ชี้แจงชัดเจนแล้วว่า นางรวิพรรณ จะเป็นคนโอนเช็คให้กับตน วันนั้นลูกยังอ่อน ศาลฯ บอกว่าสามารถให้คนอื่นไปแทนได้ แต่นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัว ผมจะให้ใครเป็น ก็เป็นเรื่องของผม ที่ผ่านมาแนวทางปฏิบัติของผม ให้ภรรยาเป็นผู้ดำเนินการทุกครั้ง ไม่เคยให้คนอื่นไป เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของครอบครัวผม เราเอาเช็คตัวจริงไปให้กกต. ดูด้วย เพราะเมื่อภรรยารู้ว่ามีเรื่องเกิดขึ้น จึงไม่กล้าเอาเช็คไปขึ้นเงิน เก็บเช็คไว้กับตัว การที่ผมต้องเข้าไปให้การในชั้น กกต. ในวันที่ 30 เม.ย. และให้ทนายความของพรรคไปยื่นให้กกต.ดูด้วย เราแสดงเช็คตัวนี้ให้เจ้าหน้าที่ กกต.ดู แต่เราส่งแค่สำเนาเช็คแนบคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ กกต. เห็นเช็คจริงในวันที่ 30 เม.ย. นั่นคือเหตุผลที่นำเช็คไปขึ้นเงินช้า ซึ่งเจ้าหน้าที่กกต. ก็ไม่ได้โต้แย้งเรื่องนี้แสดงว่าเขาเห็นเช็ค
นอกจากนี้ยังกล่าวด้วยว่า ในศาลรธน. ไม่มีตุลาการคนใดเป็นนักธุรกิจเลย ซึ่งเรื่องการลงทุนในธุรกิจ เป็นเรื่องของรสนิยม นักธุรกิจจะมีรสนิยมในการลงทุนต่างกัน โครงการไหนน่าลงทุน หรือไม่น่าลงทุน มีความรักชอบในความเสี่ยงต่างกัน แบกรับการขาดทุนของตลาดต่างกัน ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน 100 คน มาตัดสินใจเรื่องการลงทุน ก็จะตัดสินใจต่างกัน จะใช้มาตรฐานศาลฯ มาตัดสิน นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ควรจะตัดสินใจลงทุนหรือไม่ ในเรื่องใดคงไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องรสนิยมความชอบในความเสี่ยงที่แตกต่างกัน การที่นางสมพร โอนหุ้นให้ นายทวี จรุงสถิตย์พงศ์ และมีการโอนคืน ข้อเท็จจริงนี้ไม่เกี่ยวข้องกับความสมบูรณ์ของการโอนหุ้นในวันที่ 8 ม.ค. ซึ่งเสร็จสมบูรณ์ไปด้วยตัวมันเองแล้ว
"ดังนั้นเหตุผลที่ศาลยกขึ้นมาวินิจฉัยให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของตนสิ้นสุดลง ล้วนเป็นข้อสันนิษฐาน ไม่มีข้อเท็จจริงที่เป็นวิทยาศาสตร์มาหักล้างเอกสารหลักฐาน ที่เรานำเสนอ ศาลให้น้ำหนักกับข้อสันนิษฐานมากกว่าข้อเท็จจริง ทั้งที่มีข้อเท็จจริงปรากฏเป็นเอกสารหลายข้อ แต่ศาลฯ กลับให้น้ำหนักกับข้อสันนิษฐานมากกว่า และมีข้อสังเกตว่า การอ่านคำวินิจฉัยวันนี้ไม่มีการออกมติ ขององค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด ซึ่งแตกต่างจากการวินิจฉัยคดีอื่นๆ ของศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา"
นายธนาธร กล่าวด้วยว่า พรรคอนาคตใหม่ คือการเดินทาง การเดินทางไม่ได้สิ้นสุดลง ตนยังเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พรรคอนาคตใหม่ คือผู้คนที่สนับสนุน มีความฝัน ตั้งใจเหมือนกัน และจะเดินร่วมกันต่อไป ส่วนคำวินิจฉัยครั้งนี้เป็นธรรมหรือไม่ ขอให้ประชาชนตัดสินใจเองดีที่สุด โดยฟังคำแถลงความคิดเห็นของตนวันนี้ และฟังคำที่ศาลรธน.แถลง และส่วนตัวจากนี้ก็จะยังคงทำงานต่อไป ในฐานะหัวหน้าพรรค เพราะมีเรื่องต้องทำอีกมากมาย ทั้งเรื่องการรณรงค์เพื่อนำไปสู่การแก้ไขรธน. ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร รวมถึงการสร้างพรรค และบริหารพรรคให้เข้มแข็งขึ้นเพื่อเป็นหลักยืนให้ประชาชนในอนาคต
เมื่อถามว่าในอนาคต จะมีโอกาสกลับมาเป็นส.ส.ได้อีกหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า มีโอกาสได้กลับมา การเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.ไม่ได้เป็นสมรภูมิเดียว พรรอนาคตใหม่ คือการเดินทาง เรายังต้องผ่านการเลือกตั้งอีกมากมาย และที่สำคัญ ตนยังเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่ อย่างไรก็ตาม ตนไม่กังวลเรื่องการยุบพรรค และอย่าไปกังวลกับเรื่องต่างๆ เหล่านี้ เพราะเรามีงานที่จะต้องทำอีกมากมาย สนใจกับงานที่เป็นผลประโยชน์กับประชาชน และให้ประชาชนตัดสินเองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเราเป็นธรรมหรือไม่
ภายหลังการให้สัมภาษณ์นายธนาธร รับช่อดอกไม้จากผู้สนับสนุน ที่ตะโกนให้กำลังใจนายธนาธร และพรรคอนาคตใหม่ต่อสู้ต่อไป เพราะประชาชนให้นายธนาธร เป็นฝ่ายถูก
'วิษณุ'บอกมีช่องเอาผิดอาญา'ธนาธร'
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรธน. วินิจฉัยให้นายธนาธร พ้นสมาชิกภาพส.ส. กรณีถือครองหุ้นสื่อ บริษัท วีลัค มีเดีย จำกัด ว่า นายธนาธร ยังคงเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยังสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ได้ ไม่ได้ถูกตัดสิทธิอะไร พรรคอนาคตใหม่ก็ยังอยู่ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องคุณสมบัติอย่างเดียว ส่วนเรื่องอื่นตนไม่ทราบว่ามีคดีอะไรอีกหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายธนาธร สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่าไม่ทราบ ไม่ตอบ
เมื่อถามว่า สามารถนำคำวินิจฉัยดังกล่าว ไปฟ้องร้องอื่นๆได้อีกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่าไม่ทราบ เนื่องจากไม่ได้ฟังศาลอ่านคำวินิจฉัยทั้งหมด จึงไม่รู้ว่าศาลพูดถึงอะไรบ้าง แต่โดยปกติมันไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือเรื่องนั้นเรื่องเดียวเท่านั้นเอง เพียงแต่อาจเป็นช่องทางให้มีการไปหาพยานหลักฐานอื่น แต่จะเอาตรงนี้ไปปิดปากคดีอื่น ไม่ได้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า คดีนี้มีโทษทางอาญาตามมาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่าในตัวเองมันเองแค่นี้จบ ไม่มี แต่ในพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง เท่าที่ดูกันไว้นานมาแล้ว เหมือนที่มีคนกล่าวหานายกรัฐมนตรี ว่าบุคคลใดที่รู้ว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้าม แล้วยังไปดำเนินการอันเป็นเท็จ อย่างนั้นมันผิด แต่เราจะมาพูดเอาคดีนั้น มาชนคดีโน้น มันจึงไม่ได้ในตัวมันเอง ต้องไปพิสูจน์อะไรกันอีกเยอะ
เมื่อถามว่า หากมีคนสงสัยประเด็นนี้ สามารถร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบได้ ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ไปว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ขอตอบอะไรในส่วนนี้
เมื่อถามว่า ส.ส.คนอื่นที่ถูกร้องเรื่องถือหุ้นสื่อ จะนำไปเป็นบรรทัดฐาน หรืออ้างอิงในการต่อสู้คดีได้ ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าข้อเท็จจริงตรงกันมันก็ใช่ แต่จะตรงกันหรือไม่นั้นไม่ทราบ เพราะมีหลายสิบคน กรณีนี้มีการแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น บางประเภทมีหุ้นในบริษัทที่มีตราสารจนทะเบียนว่า มีวัตถุประสงค์อะไรบ้าง แต่ไม่เคยทำ หรืออีกประเภทคือ ได้ลงมือทำ แล้วเลิกไป ซึ่งมีหลายประเภทเหลือเกิน
เมื่อถามถึงกรณี นายธนาธร ปล่อยกู้เงินให้กับพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเรื่องอยู่ในการตรวจสอบของกกต. นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ได้ติดตาม เป็นคนละเรื่องกับการถือหุ้นสื่อ
เมื่อถามว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ยืนยันว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ไม่ได้ห้ามเรื่องการกู้เงิน นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ตอบ
เมื่อถามว่า กฎหมายพรรคการเมือง ถือเป็นกฎหมายเฉพาะ แม้กฎหมายไม่ได้เขียนห้าม แต่ต้องทำเท่าที่เขียนไว้ ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ปกติแล้วกฎหมายที่จำกัด ตัดสิทธิคน หลักที่เคยใช้มาโดยตลอด คณะกรรมการกฤษฎีกาก็เคยใช้มาตลอด ต้องตีความโดยเคร่งครัด จะไปตีความขยายออกไปไม่ได้ หลักมันมีอยู่แล้ว
เมื่อถามย้ำว่า กฎหมายเขียนแค่ไหน ต้องทำเท่านั้นใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า แต่ละคำจะต้องแปล ถ้าแปลออกไปได้มันก็จบแค่นั้น กฎหมายขยายความให้เป็นผลดีได้ แต่จะขยายความออกไปให้มันยาวเพื่อเป็นผลร้ายนั้น ไม่ได้
เมื่อถามอีกว่า กรณีที่กฎหมายไม่ได้เขียนห้าม แสดงว่าทำได้ ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องดูหลายอย่าง บางอย่างไม่ได้อนุญาตก็ทำไม่ได้ โดยมี 2 อย่าง คือ 1.ไม่ได้ห้าม เพราะฉะนั้นทำได้ และ 2.ไม่ได้อนุญาต เพราะฉะนั้นจึงทำไม่ได้ มีอยู่ 2 หลักนี้ ซึ่งไม่ได้มั่ว มันมีวิธีใช้ว่าเมื่อไรจะใช้
เมื่อถามว่า พรรคการเมืองสามารถกู้เงินได้ ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า นี่คือปัญหาที่เขาเถียงกันอยู่ ขึ้นโรงขึ้นศาลกันอยู่
"กกต." เตรียมสอบต่อปมฝ่าฝืน พ.ร.ป.เลือกตั้ง ม.151
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวภายหลังศาลรธน. มีคำวินิจฉัยให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายธนาธร สิ้นสุดลง ว่า หลังจากนี้ คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน กกต. จะดำเนินการสอบสวน กรณีคำร้องที่มีผู้กล่าวหาว่า นายธนาธร ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และพรรคการเมือง ตามพ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 151 ประกอบรธน. มาตรา 101(6) ประกอบ มาตรา 98(3) กรณีผู้ใดรู้อยู่ว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ได้สมัครรับเลือกตั้ง หรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อต่อไป โดยตามหลักการทั่วไปแล้ว คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คงจะต้องนำผลคำวินิจฉัยของศาลรธน. ในครั้งนี้ ไปพิจารณาประกอบในสำนวนด้วย เพราะมีการวินิจฉัยว่า นายธนาธร ขาดคุณสมบัติ
ทั้งนี้ มาตรา 151 ระบุด้วยว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งรู้ตัวว่า ไม่มีสิทธิแล้วยังสมัครรับเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี
"ปิยบุตร"ไม่หวั่นลั่นเดินหน้าสู้ทุกมรสุม
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาล แม้ว่านายธนาธรจะถูกตัดสิทธิแต่ยังเป็นหัวหน้าพรรค ผู้นำพรรคและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ถ้าเมื่อไรที่มีการลงมติเลือกนายกฯ นายธนาธรก็ยังมีสิทธิที่จะได้รับการเลือกเป็นนายกฯ คำตัดสินครั้งนี้สมาชิกพรรค ไม่ได้เสียใจ ทุกคนยังทำหน้าที่ในสภาด้วยความยิ้มแย้ม เพราะนายธนาธรไม่ได้เข้าร่วมประชุมสภาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แต่เสียดายโอกาสที่นายธนาธรไม่มีโอกาสได้อภิปรายในสภา ที่ในช่วงต้นเดือนธ.ค.นี้จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งนายธนาธรเป็นตัวหลักในการเตรียมข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เราไม่ได้กังวลอะไรเพราะเราคิดไว้ตั้งแต่ตอนตั้งพรรคแล้วว่า ไม่ช้าก็เร็วเราคงเจอมรสุมแบบนี้ เราพร้อมสู้ทุกคดี จาก 25 คดีตอนนี้เหลืออีก 24 คดี หากจะมีมาเพิ่มอีกก็พร้อมสู้
เมื่อถามว่า กกต.จะยื่นเรื่องดำเนินคดีทางอาญา นายปิยบุตร กล่าวว่า เราพร้อมสู้คดี จะมาอีกกี่มรสุมอีกกี่ระลอกก็ว่ามา ตนขอร้องว่าอย่าฉายหนังม้วนนี้ซ้ำ ตนอยากอยากฝากทิ้งท้ายว่า เวลาจะทำอะไรให้นึกถึงประชาชนบ้างว่าเขาโอดร้องกันด้วยเรื่องอะไร
น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่(อนค.) โพสต์ข้อความผ่านทวีตเตอร์ ระบุว่า "ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ ธนาธร พ้นจากตำแหน่งส.ส. เนื่องจากมีคุณลักษณะต้องห้าม เป็นผู้ถือหุ้นสื่อ #อนาคตใหม่ ยังเดินหน้าต่อ ธนาธร ยังเป็นหัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
แม้สิ้นสภาพ ส.ส. แต่ #ธนาธร ยังคงเป็นหัวหอกทีม #อนาคตใหม่ เตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์ ใครมีเบาะแสการทุจริต ใช้อำนาจในทางมิชอบของรัฐบาล ส่งมาที่ whistle@futureforwardparty.org กลางเดือนธันวาคมนี้ เจอกันแน่ #StandWithThanathorn"