xs
xsm
sm
md
lg

ธนาธรเจอดาบ2-กกต.ฟันอาญาหากสิ้นสภาพส.ส.-สั่งอนค.ส่งหลักฐานกู้เงิน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน360- กกต.มีมติเอกฉันท์ ให้พรรคอนาคตใหม่ ชี้แจงการกู้ยืมเงินของ"ธนาธร" หลังพบเข้าข่ายผิดกม.พรรคการเมือง ห้ามบริจาค หรือประโยชน์อื่นใดเกิน10 ล้านต่อพรรคต่อปี พร้อมเตรียมดำเนินคดีอาญาหากศาลรธน. วินิจฉัยสิ้นสภาพ ส.ส.วันนี้ ชี้โทษสูงทั้งจำคุก -เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี สอนกม.อนค. ส่งศาลรธน. -ดำเนินคดีอาญาคนละเรื่องกัน ย้ำไม่มีเรื่องการเมืองเกี่ยวข้อง ด้าน"บิ๊กป้อม" บอกยังไม่พบความเคลื่อนไหวกดดันศาลฯในวันตัดสินคดีธนาธร

วานนี้ (19 พ.ย.) สำนักงานกกต. เผยแพร่เอกสารข่าว ระบุว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ประชุมพิจารณาสํานวนการสืบสวน กรณีมีผู้กล่าวหาว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ให้พรรคกู้ยืมเงินของตนเอง ถือว่าเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ตามมาตรา 66 พ.ร.ป.ว่าด้วย พรรคการเมือง พ.ศ. 2560 โดยได้บริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองมีมูลค่าเกินกว่า 10 ล้านบาท ต่อพรรคการเมืองต่อปี ซึ่งกกต.มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้พรรคอนาคตใหม่ ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม แต่พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้จัดส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ให้แก่คณะอนุกรรมการวินิจฉัยคําร้องและปัญหา หรือข้อโต้แย้งแต่อย่างใด

นอกจากนี้ กกต.ยังได้ชี้แจงกรณี นายธนาธร ยื่นฟ้อง กกต.7 คน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหารวบรัดรีบส่งคดีนายธนาธร ถือหุ้นสื่อ ให้กับศาลรธน.วินิจฉัย โดยที่คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ยังดำเนินการสอบสวนไม่เสร็จสิ้น ว่า เมื่อกกต.เห็นว่าสมาชิกภาพของส.ส.คนใดคนหนึ่งมีเหตุสิ้นสุดลง ก็สามารถยื่นเรื่องให้ศาลรธน. วินิจฉัยได้ทันที ซึ่งกรณีของนายธนาธร เป็นกรณีความปรากฏต่อ กกต.ว่า สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (แบบ บอจ. 5 ) มีชื่อนายธนาธร ส.ส.เป็นผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนใดๆ ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งส.ส. อันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส. สิ้นสุดลงตามรธน.มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (7) กกต.จึงได้ส่งเรื่องให้ศาลรธน.วินิจฉัย

ส่วนที่นายธนาธร อ้างว่า การดำเนินการของอนุกรรมการยังไม่เสร็จสิ้น แต่มีการส่งให้ศาลฯ วินิจฉัยนั้น เป็นกรณีที่มีผู้กล่าวหาว่า นายธนาธร ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และพรรคการเมือง ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 151 ที่กำหนดห้ามผู้ที่รู้อยู่แล้วว่า ตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือมีลักษณะต้องห้าม ลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส. ประกอบรธน. มาตรา 101(6) ประกอบ มาตรา 98(3) รู้อยู่ว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ซึ่งมีกระบวนการไต่สวน ตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 โดยคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนต้องแสวงหา และรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเสนอสำนวนต่อ กกต. เพื่อพิจาณาวินิจฉัยชี้ขาด โดยต้องให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาทราบข้อกล่าวหา ข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานโดยสรุป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การดำเนินคดีอาญาดังกล่าว หากในวันนี้( 20 พ.ย.) ศาลรธน. มีคำวินิจฉัยว่านายธนาธร ถือหุ้นสื่อ บริษัท วี- ลัค มีเดีย จริง ขณะลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส. จึงถือว่ามีลักษณะต้องห้ามใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส. สิ้นสุดลง นายธนาธร ก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. ทันที จากนั้นกกต.ก็จะมาดำเนินคดีอาญา ซึ่งในมาตร 151 ได้กำหนดโทษจำคุก ตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2 หมื่น -2 แสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันนี้ ( 20 พ.ย.) คงไม่มีอะไร ให้เป็นเรื่องของศาลรธน. ในส่วนของฝ่ายความมั่นคง ยังไม่พบเรื่องใดที่ผิดปกติ ส่วนผลการตัดสินของศาลจะส่งผลให้เกิดความเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่นั้น ตนไม่ขอตอบ

ด้านพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. กล่าวว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผบก.น.2 เป็นผู้ดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ ทาง บช.น. จะใช้กำลังตำรวจประมาณ 150 นาย เพื่อรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านจราจรภายนอกบริเวณศาล ห่างประมาณ 50 เมตร ส่วนการข่าว ยังไม่มีสิ่งบอกเหตุความรุนแรง เนื่องจากเป็นบริเวณเขตอำนาจศาลอยู่แล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น