xs
xsm
sm
md
lg

ระวัง...อันตรายเศรษฐกิจดิจิทัล!!!

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท


ธนาคารกลางจีน ได้เตรียมประกาศจะใช้เงินตราดิจิทัล
เว้นไป 1 วัน...ด้วยเหตุเพราะ “ไขข้ออักเสบ” แบบเดิมๆ นั่นแหละทั่น และเมื่อต้องกลับมาปิดฉากกันในสัปดาห์นี้ ก็คงแบบเดิมๆ อีกเช่นเคย คือไม่รู้ว่าจะไปหาเรื่องประเภท “เบาๆ-สบายๆ” ไม่ต้องเสียเวลาคิดมาก คิดเล็ก-คิดน้อย จากที่ไหนต่อที่ไหนมาพูดจา ว่ากล่าวกันดี เพราะโลกยุคนี้ หรือแม้แต่ประเทศไทยยุคนี้ อะไรที่เบาๆ-สบายๆ มันออกจะหายาก หาเย็น พอๆ กับหาหนวดเต่า-เขากระต่าย อะไรประมาณนั้น...

แต่เพื่อไม่ให้ต้องเสียเวลาคิด...อาจต้องเริ่มกันด้วยเรื่องของ “โหร” ที่หนักไปทาง “ความเชื่อ” หรือขึ้นอยู่กับว่าใครเชื่อ-ใครไม่เชื่อไม่ได้เกี่ยวกับการใช้ “สมอง” มากมายสักเท่าไหร่นัก ซึ่งสำหรับในบ้านเรา...ในช่วงจังหวะใกล้ๆ สิ้นปีเก่า ก้าวเข้าสู่ปีหน้าฟ้าใหม่ ดูจะมี “โหร” บางราย ท่านได้เริ่มๆ ออกมาทำนายทายทักกันบ้างแล้ว ถึงอนาคตประเทศไทย ที่นอกจากไม่ได้ “เบาๆ-สบายๆ” ยังออกไปทางหนักหนาสาหัส ระดับรากเขียว รากเหลือง หรือกระทั่ง “รากเลือด” เอาเลยถึงขั้นนั้น!!! ไม่ว่าจะเป็น “โหรเก่งกาจ จงใจพระ” หรือ “โหรซาดิสต์-โสรัจจะ นวลอยู่” ที่มองกันถึงขั้นว่า “ปีหน้าเตรียมเก็บกระดูก...เทวดา 100 องค์ก็ช่วยไม่ได้” หรือ “เศรษฐกิจปีหน้าจะหนักกว่าปี พ.ศ. 2540 (วิกฤตต้มยำกุ้ง) โดยเฉพาะเมื่อดาวเสาร์ ดาวมฤตยูตั้งฉากขึ้นมาเมื่อไหร่ แถมอาจมีราหูเข้ามาซ้ำเติม อันจะนำมาซึ่งความหนักหนาสาหัสอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หรือหนักซะยิ่งกว่า...เมื่อ 84 ปีที่แล้ว” ฯลฯ ฯลฯ จริง-ไม่จริง คงไม่ต้องเสียเวลาคิด เพราะขึ้นอยู่กับจะ “เชื่อ-ไม่เชื่อ” เท่านั้นเอง...

อย่างไรก็ตาม...สิ่งที่น่าสนใจ หรืออาจพอเก็บมาคิดๆ มาใช้เป็นข้อสะกิดใจได้บ้าง ก็คือบรรดา “โหร” ทั้งหลาย ท่านมักจะหยิบเอาปมประเด็นในเรื่อง “เศรษฐกิจ” นั่นแหละ มาใช้เป็นพื้นฐานในการ “พ่นแมงโม้” กันไปเป็นรายๆ และแม้แต่ผู้ที่ไม่ใช่โหร แถมไม่สนใจที่จะ “โหน” ใคร? หรือสิ่งหนึ่ง-สิ่งใดอีกซะด้วย ยืนหยัดด้วยลำแข้ง-ลำขา ของตัวเองมาโดยตลอด ยังชีวิตอยู่ด้วยการบริโภค “น้ำตาล” เป็นอาหารหลักอาหารว่าง จนออกอาการ “ดุ” อย่างไม่มีใครกล้าไปข้องแวะ นั่นก็คือคุณพี่ “สุนันท์ ศรีจันทรา” นักวิเคราะห์เศรษฐกิจและหุ้นเว็บไซต์ “ผู้จัดการ” ของเรานี่เองที่ก็ดัน “ฟันธง” ไปในลักษณะคล้ายๆ กันประมาณว่า “เศรษฐกิจจะโค่นล้มประยุทธ์” หรือด้วยปมประเด็นในเรื่อง “เศรษฐกิจ” นี่เอง จะเป็นตัวโค่นล้มรัฐบาล ที่เคยคาดๆ กันเอาไว้ว่าอาจ “อยู่ยาวว์ว์ว์” ถึง 8 ปี 20 ปี ชนิดใครที่อยากคิด อยากใช้สมองอยู่บ้าง คงต้องลองไปหาอ่านข้อเขียน บทความ หรือทัศนะของท่านดูเอาเองก็แล้วกัน...

แต่สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยรู้เรื่อง รู้ราว ประเภทเศรษฐกิจเงินๆ-ทองๆ เรื่องห้ง เรื่องหุ้น อะไรกะใครเขาเลย อย่าง “ทับทิม พญาไท” คงหนีไม่พ้น ต้องหันไปอาศัย “ความรู้รอบโต๊ะ” หันไปฟังๆ ข่าวคราวที่บรรดา “ผู้รู้” หรือ “ผู้เชี่ยวชาญ” ทั้งหลาย เขาออกมาพูดจาว่ากล่าวกันในช่วงระยะนี้ นำมาเทียบเคียงกับบรรดา “ความเชื่อ” ต่างๆ เอาไว้มั่ง ยิ่งโดยเฉพาะเศรษฐกิจยุคนี้ ซึ่งออกจะเป็นอะไรที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศ ยิ่งกว่ายุคอดีตเท่าที่เคยเป็นมา ไม่รู้กี่สิบ-กี่ร้อยเท่า อย่างที่เขาเรียกๆ กันว่า “เศรษฐกิจดิจิทัล” (Digital Economy) อะไรทำนองนั้น ว่าด้วยความซับซ้อนที่ว่านี้ มันจะถึงขั้นส่งผลให้ “ตู่ ดิจิทัล” หรือท่านนายกฯ “ประยุทธ์-บิ๊กตู่” ของบ้านเรา อาจถูกโค่น ถูกล้ม แบบที่คุณพี่ “สุนันท์ ศรีจันทรา” ท่านทำนายทายทักไว้ก่อนล่วงหน้ากันเลยหรือเปล่า???...

ซึ่ง “เศรษฐกิจดิจิทัล” ที่ว่า...ดูๆ แล้ว คงไม่ได้เป็นอะไรที่หยาบๆ-ง่ายๆ แบบที่สามารถหยิบมา “ชิม-ช้อป-ใช้” กันได้แบบคึกคักโครมคราม ครื้นๆ เครงๆ อย่างในบ้านเราแต่เพียงเท่านั้น ยิ่งถ้ามองจาก “มุมมอง” ของประเทศที่ถือเป็น “หัวขบวนเศรษฐกิจ” ของโลกไปแล้วในทุกวันนี้ นั่นคือประเทศคุณพี่จีน เมื่อวัน-สองวันที่ผ่านมา...จากบทบรรณาธิการของ “Global Times” สื่อทางการของจีน ที่ได้หยิบเอาเรื่องทำนองนี้มานำเสนอไว้ถึงขั้นว่า... “Digital Economy will be next battle ground for nations” หรือเศรษฐกิจชนิดนี้ ก็คือตัวการที่จะนำไปสู่การปะทะขัดแย้งกันระหว่างชาติต่อชาติ ในอีกไม่นานนับจากนี้ อะไรทำนองนั้น อันนี้...ยิ่งต้องเก็บไปคิดมาก และคิดเล็ก-คิดน้อย ยิ่งขึ้นไปใหญ่...

คือความหมายของเศรษฐกิจในลักษณะที่ว่า ในสายตาของคุณพี่จีนเขา คงไม่ใช่เป็นแค่เรื่องที่จะนำมาทำเป็น “เป๋าตัง” เฟส 1 เฟส 2 เฟส 3 อะไรประมาณนั้น แต่เป็นเรื่องของระบบเศรษฐกิจทั้งมวล ที่ถูกนำเอามาผนวกกับขีดความสามารถทางเทคโนโลยี ซึ่งมันไปไกล ไปโลดยิ่งเข้าไปทุกที ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี “AI” หรือ “Artificial Intelligence” ไปจนถึงการแลกเปลี่ยนธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งกำลังแผ่ซ่านเข้าไปสู่ภาคบริการอันหลากหลาย ซึ่งคุณพี่จีนเขามองว่า...กำลังเป็นตัวเปลี่ยนแปลงแง่มุมต่างๆ ในชีวิตประจำของผู้คนในทุกวันนี้ และในอนาคตเบื้องหน้า ชนิดที่ทำให้ 1 ใน 3 ของ “จีดีพี” ประเทศจีนทุกวันนี้ ก็มีที่มาจากสิ่งที่เรียกว่า “เศรษฐกิจดิจิทัล” นี่เอง และทำให้จีนเขาเลยอดไม่ได้ที่จะต้องเตรียมจัดสร้าง “แนวรบ” หรือ “แนวปะทะ” ไว้สำหรับรับมือกับฉากสถานการณ์ภายใต้ความเป็นไปของเศรษฐกิจดังกล่าว อย่างเป็นเรื่อง เป็นราว คือไม่เพียงแต่พร้อมจะเปิดกว้างให้กับ “เสรีภาพ” แห่งยุคดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังพร้อมอาศัยการเปิดกว้างเหล่านี้ นำไปสู่การสร้าง “อธิปไตยแห่งดิจิทัล” (Digital Sovereignty) ให้ปรากฏเป็นจริง เป็นจัง ขึ้นมาให้จงได้...

ดังนั้น...สิ่งที่น่าสนใจเอามากๆ สำหรับการเตรียม “แนวรบ” หรือ “แนวปะทะ” ท่ามกลางความเป็นไปของเศรษฐกิจในลักษณะที่ว่านี้ ก็คือการที่ธนาคารกลางจีน ได้เตรียมประกาศจะใช้ “เงินตราดิจิทัล” ของจีนเอง ที่เรียกกันย่อๆ ว่า “DCEP” (Digital Currency Electronic Payment) ผ่านเครือข่ายการซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยน การชำระทางบัญชีธนาคารพาณิชย์ของ “Alipay” และ “WeChat Pay” ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ดังที่หุ้นส่วนบริหาร “HCM Capital” “นายJack Lee” ได้นำมาเปิดเผยกับสำนักข่าว “CNBC” เมื่อไม่นานมานี้ว่า “พวกเขาพร้อมแล้วสำหรับระบบและเครือข่ายที่ว่า...ผมคิดว่าเราจะได้เห็นกันในอีกไม่นาน-ไม่ช้า ไม่แน่ว่า...อาจประมาณ 2-3 เดือนนับจากนี้”...

และการเตรียมประกาศใช้เงินดิจิทัลของจีนภายใต้ “เศรษฐกิจดิจิทัล” ที่กำลังคืบคลานเข้ามา...ได้ถูกนำไปต่อเติมเสริมแต่ง โดยนักวิเคราะห์ทางการเงิน อย่าง “นายแมค ไกเซอร์” (Max Keiser) อดีตนักสร้างหนังและพิธีกร รวมทั้งอดีตผู้ก่อตั้งกองทุน “Karmabanque” ที่เป็นไม้เบื่อ-ไม้เมากับอภิมหาวาณิชธนกิจอย่าง “JP Morgan Chase” มาโดยตลอด ซึ่งปัจจุบันดำรงฐานะเป็นพิธีกรรายการวิเคราะห์ธุรกิจ-การเงินให้กับสำนักข่าว “รัสเซีย ทูเดย์” ชนิดถึงขั้นว่า...แทบไม่ต่างไปจากกรณี “Perl Harbor” ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เอาเลยถึงขั้นนั้น โดยเฉพาะถ้าเงินดิจิทัลของจีน มีลักษณะเป็น “China’s gold-back crypto currency” หรือเงินดิจิทัลที่มี “ทองคำ” ประมาณ 20,000 ตันของจีนเป็นตัวหนุนหลังด้วยแล้ว สิ่งที่นักวิเคราะห์การเงินอย่าง “นายแมค ไกเซอร์” เห็นว่า...น่าจะเกิดตามมาในช่วงอีก 6-9 เดือนข้างหน้า ก็คือเงินตราสกุลหลักของโลก อย่าง “เงินดอลลาร์” จะตกอยู่ในสภาวะ “ตายซะยิ่งกว่าตาย” (deader than doornail) อย่างมิพึงสงสัย!!! และนั่น...ย่อมอาจส่งผลให้ใครก็ตามที่ “ตามไม่ทัน” ต่อความเป็นไปของเศรษฐกิจยุคดิจิทัลที่ว่า ย่อมหนีไม่พ้นต้อง...ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี-หนีไม่พ้น ไม่ว่าจะ “ชิม-ช้อป-ใช้” กันเพลินๆ ไปถึงขั้นไหน...


กำลังโหลดความคิดเห็น