ซูเปอร์โพลชี้ "ชิมช้อปใช้" ชนะใจทั้งคนในสังคมดั้งเดิม และสังคมโซเชียลฯไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสนับสนุนรัฐบาล กลุ่มพลังเงียบ กระทั่งกลุ่มคนที่ไม่นสับสนุนรัฐบาล ก็เข้ามาใช้ประโยชน์ ถือเป็นปฏิบัตการชิงมวลชนสำเร็จ ฝ่ายตรงข้ามล้มเหลวในความพยายามสร้างกระแสต้าน
นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เผยผลการสำรวจภาคสนาม เรื่อง ชิมช้อปใช้ ใครว่าได้ประโยชน์ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ผ่าน “เสียงประชาชนในโลกโซเชียลฯ”จำนวน 1,179 ตัวอย่าง และ “เสียงประชาชนในสังคมดั้งเดิม”จำนวน 1,080 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1–9 พ.ย.ที่ผ่านมา พบว่า
เสียงประชาชนในสังคมดั้งเดิมส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 60.4 ได้เข้าใช้ประโยชน์จากมาตรการ ชิมช้อปใช้ ของรัฐบาล ในขณะที่ร้อยละ 39.6 ไม่ได้เข้าใช้ประโยชน์ และเมื่อแบ่งแยกวิเคราะห์ กลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาล กลุ่มพลังเงียบและกลุ่มไม่สนับสนุนรัฐบาล พบว่า กลุ่มคนทั้งสามกลุ่มใช้ประโยชน์จากมาตรการ ชิมช้อปใช้ เป็นส่วนใหญ่คือ ร้อยละ 69.6 ของคนสนับสนุนรัฐบาล ร้อยละ 62.7 ของพลังเงียบ และ ร้อยละ 52.0 ของคนไม่สนับสนุนรัฐบาล ได้ใช้ประโยชน์จากมาตรการชิมช้อปใช้
อย่างไรก็ตามคนที่ไม่ได้เข้าใช้ประโยชน์ เพราะเข้าไม่ถึงมาตรการชิมช้อปใช้ เป็นกลุ่มคนมีรายได้น้อย ไม่มีช่องทางเข้าถึง ขั้นตอนยุ่งยาก ไม่ทราบ ไม่รู้เรื่องนี้
ที่น่าสนใจคือ เมื่อวิเคราะห์เสียงของประชาชนในโลกโซเชียลฯ ผ่านระบบ Net Super Pollด้วยการประมาณการจำนวนเข้าถึง เรื่อง ชิมช้อปใช้ พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 21,898,746 คน หรือประมาณยี่สิบกว่าล้านคนเศษ เป็นเสียงตอบรับในทางบวก ร้อยละ 67.8 และเสียงตอบรับในทางลบ ร้อยละ 32.2 อย่างไรก็ตาม เสียงตอบรับในทางลบ จะเป็นไปในเชิงวิพากวิจารณ์มาตรการและมีการเผยแพร่กว้างขวางด้วยคำว่า “ล้มเหลว”เป็นคำที่ทรงอิทธิพลในโลกโซเชียลฯ ในขณะที่คำต่างๆ ที่เสียงตอบรับในทางบวกคือคำว่า “ท่องเที่ยว”เป็นคำที่ทรงอิทธิพลเช่นกัน แต่ถูกกระจายไปตามภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ
ล่าสุดจำนวนคนที่กำลังพูดถึงเรื่องนี้ในโลกโซเชียลฯ ตรวจวัดได้ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 76,695 คน และกำลังพูดถึงเรื่องวิธีการลงทะเบียนมากกว่าเบียดแซงข้อความเชิงลบเรื่องความล้มเหลวของมาตรการชิมช้อปใช้ ที่ถูกผลิตออกมาจากฝ่ายตรงข้ามแล้ว
"จากผลโพลนี้ อาจฟันธงได้ว่า มาตรการชิมช้อปใช้ ได้ผลในแง่แย่งชิงมวลชนได้สำเร็จในเชิงการเมือง แต่ในเชิงเศรษฐศาสตร์ต้องวิเคราะห์อีกรูปแบบหนึ่ง เพราะเสียงประชาชนในสังคมดั้งเดิม และเสียงประชาชนในโลกโซเชียลฯ เป็นไปในทิศทางบวก จนทำให้ฝ่ายตรงข้ามออกมาเคลื่อนไหวหนัก ใช้การสื่อสารเชิงลบเข้าทำลายด้วยเล็งเห็นจุดอ่อนของคนทั่วไปในสังคมที่ขับเคลื่อนข่าวร้ายมากกว่า
ข่าวดี ทางออกคือ กระทรวงต่างๆ ต้องทำงานเป็นหนึ่งเดียวกันเพราะคำว่า “ท่องเที่ยว”ถูกใช้มาก แต่กระจายตัวสูงต้องสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึงมากขึ้นและทำให้คำว่า “ท่องเที่ยว”รวมพลังกับคำว่า “ชิมช้อปใช้”และจะสามารถทำลายพลังคำว่า “ล้มเหลว”ในเสียงของประชาชนได้สำเร็จ ให้ถือหลัก น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามมาเป็นฝ่ายสนับสนุน #ท่องเที่ยว #ชิมช้อปใช้ #น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน" ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว
นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เผยผลการสำรวจภาคสนาม เรื่อง ชิมช้อปใช้ ใครว่าได้ประโยชน์ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ผ่าน “เสียงประชาชนในโลกโซเชียลฯ”จำนวน 1,179 ตัวอย่าง และ “เสียงประชาชนในสังคมดั้งเดิม”จำนวน 1,080 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1–9 พ.ย.ที่ผ่านมา พบว่า
เสียงประชาชนในสังคมดั้งเดิมส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 60.4 ได้เข้าใช้ประโยชน์จากมาตรการ ชิมช้อปใช้ ของรัฐบาล ในขณะที่ร้อยละ 39.6 ไม่ได้เข้าใช้ประโยชน์ และเมื่อแบ่งแยกวิเคราะห์ กลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาล กลุ่มพลังเงียบและกลุ่มไม่สนับสนุนรัฐบาล พบว่า กลุ่มคนทั้งสามกลุ่มใช้ประโยชน์จากมาตรการ ชิมช้อปใช้ เป็นส่วนใหญ่คือ ร้อยละ 69.6 ของคนสนับสนุนรัฐบาล ร้อยละ 62.7 ของพลังเงียบ และ ร้อยละ 52.0 ของคนไม่สนับสนุนรัฐบาล ได้ใช้ประโยชน์จากมาตรการชิมช้อปใช้
อย่างไรก็ตามคนที่ไม่ได้เข้าใช้ประโยชน์ เพราะเข้าไม่ถึงมาตรการชิมช้อปใช้ เป็นกลุ่มคนมีรายได้น้อย ไม่มีช่องทางเข้าถึง ขั้นตอนยุ่งยาก ไม่ทราบ ไม่รู้เรื่องนี้
ที่น่าสนใจคือ เมื่อวิเคราะห์เสียงของประชาชนในโลกโซเชียลฯ ผ่านระบบ Net Super Pollด้วยการประมาณการจำนวนเข้าถึง เรื่อง ชิมช้อปใช้ พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 21,898,746 คน หรือประมาณยี่สิบกว่าล้านคนเศษ เป็นเสียงตอบรับในทางบวก ร้อยละ 67.8 และเสียงตอบรับในทางลบ ร้อยละ 32.2 อย่างไรก็ตาม เสียงตอบรับในทางลบ จะเป็นไปในเชิงวิพากวิจารณ์มาตรการและมีการเผยแพร่กว้างขวางด้วยคำว่า “ล้มเหลว”เป็นคำที่ทรงอิทธิพลในโลกโซเชียลฯ ในขณะที่คำต่างๆ ที่เสียงตอบรับในทางบวกคือคำว่า “ท่องเที่ยว”เป็นคำที่ทรงอิทธิพลเช่นกัน แต่ถูกกระจายไปตามภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ
ล่าสุดจำนวนคนที่กำลังพูดถึงเรื่องนี้ในโลกโซเชียลฯ ตรวจวัดได้ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 76,695 คน และกำลังพูดถึงเรื่องวิธีการลงทะเบียนมากกว่าเบียดแซงข้อความเชิงลบเรื่องความล้มเหลวของมาตรการชิมช้อปใช้ ที่ถูกผลิตออกมาจากฝ่ายตรงข้ามแล้ว
"จากผลโพลนี้ อาจฟันธงได้ว่า มาตรการชิมช้อปใช้ ได้ผลในแง่แย่งชิงมวลชนได้สำเร็จในเชิงการเมือง แต่ในเชิงเศรษฐศาสตร์ต้องวิเคราะห์อีกรูปแบบหนึ่ง เพราะเสียงประชาชนในสังคมดั้งเดิม และเสียงประชาชนในโลกโซเชียลฯ เป็นไปในทิศทางบวก จนทำให้ฝ่ายตรงข้ามออกมาเคลื่อนไหวหนัก ใช้การสื่อสารเชิงลบเข้าทำลายด้วยเล็งเห็นจุดอ่อนของคนทั่วไปในสังคมที่ขับเคลื่อนข่าวร้ายมากกว่า
ข่าวดี ทางออกคือ กระทรวงต่างๆ ต้องทำงานเป็นหนึ่งเดียวกันเพราะคำว่า “ท่องเที่ยว”ถูกใช้มาก แต่กระจายตัวสูงต้องสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึงมากขึ้นและทำให้คำว่า “ท่องเที่ยว”รวมพลังกับคำว่า “ชิมช้อปใช้”และจะสามารถทำลายพลังคำว่า “ล้มเหลว”ในเสียงของประชาชนได้สำเร็จ ให้ถือหลัก น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามมาเป็นฝ่ายสนับสนุน #ท่องเที่ยว #ชิมช้อปใช้ #น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน" ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว