ผู้จัดการรายวัน 360 - ตำรวจจับเพิ่ม 1 รายเครือข่ายแชร์แม่มณี ยึดเงินสด 5.5 ล้านบาท ทองหนัก 10 บาท แหวนเพชร 2 วง ดีเอสไอประสานอายัดตัว สอบปากคำเพิ่ม 'อธิบดีราชทัณฑ์' เผยผลตรวจครรภ์มี 1 ขีด ระบุท้องหรือไม่ราชทัณฑ์ดูแลได้ ส่วนแชร์ “น้องปริมพารวย” มอบตัวยอมเข้าคุก
วานนี้ (6 พ.ย.) พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผบช.ภ.4 แถลงความคืบหน้าคดีแช์แม่มณี หรือน.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช ว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายได้เพิ่มอีก 1 คน คือน.ส.สุพรรณี นิกรกุล อายุ 21 ปี เลขที่ 75 ม.7 บ.โพธิ์งาม ต.หนองหญ้าไซ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นหุ้นส่วนธุรกิจเครื่องสำอาง “มะลิลา” ในความผิดเดียวกับน.ส.วันทนีย์ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันให้กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
พล.ต.ต.ยรรยง เปิดเผยว่า คดีนี้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาไป 5 ราย และทำการจับกุมไปทั้ง 5 ราย ส่วนการขยายผลยึดอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติมเป็นเงินสด 5,500,000 บาท, ทองรูปพรรณรวมหนัก 10 บาท และแหวนเพชร 2 วง
ด้านพล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.อุดรธานี กล่าวว่า จากนี้จะยังคงรวบรวมพยานหลักฐาน คาดจะออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 1-2 คน รวมทั้งการติดตามยึดอายัดทรัพย์ ภายในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ จะต้องส่งมอบสำนวน พยานหลักฐาน ผู้ต้องหา ทรัพย์สินที่ยึดมาให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
ดีเอสไอขอตัวแม่มณีสอบปากคำเพิ่ม
นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ดีเอสไอ กล่าวว่า ดีเอสไอจะได้สำนวนจากตำรวจทั้งหมดประมาณวันที่ 13-15 พ.ย. แต่จากการที่ดีเอสไอได้สอบปากคำผู้เสียหายเกือบ 4,000 ราย ระหว่างวันที่ 11 พ.ย.-22 พ.ย. ทั้ง 11 จุดทั่วประเทศ คาดจะใช้เวลาไม่เกิน 2 อาทิตย์ จะสามารถให้คำตอบได้ทั้งหมดใครเป็นแม่ทีมใครเป็นผู้เสียหาย
พร้อมกันนี้ จะประสานงานกับศาลจังหวัดอุดรธานีเพื่อขออายัดตัวน.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช เพื่อนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่กรุงเทพฯ โดยจะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของบุคคลใกล้ชิดหรือญาติของแม่มณีอย่างแน่นอน รวมทั้งจะออกหมายเรียกและหมายจับบุคคลเข้าข่ายกระทำความผิด รวมถึงแม่ข่ายที่ปรากฏตามสื่อ รวมถึงน.ส. จุฑาทิพย์ นิ่มนวล หรือมะนาวด้วย
มูลค่าความเสียหายพุ่ง 1.3 พันล้าน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ขณะนี้มียอดเสียหายกว่า 3,000 ราย คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.3 พันล้านบาท ขณะนี้ดีเอสไอ ได้รับเป็นคดีพิเศษแล้ว และบูรณาการการทำงานร่วมกันกับตำรวจ
"ท้อง-ไม่ท้อง" ราชทัณฑ์ดูแลได้
พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึง กรณีที่มีกระแสข่าว น.ส.วันทนีย์ ตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน ว่า จากการตรวจเบื้องต้นนั้นเครื่องมือที่ใช้ตรวจปรากฏผลมีเพียง1 ขีด ซึ่งใช้วิธีการตรวจปัสสาวะ แต่จะตั้งครรภ์หรือไม่นั้นตนไม่ทราบ ซึ่งทางเรือนจำก็ได้บอกกับผู้ต้องขังว่า หากอยากทราบผลที่ละเอียดชัดเจนจะนำไปตรวจที่คลิกนิกหรือโรงพยาบาลรัฐ แต่ผู้ต้องขังแจ้งว่าไม่ประสงค์จะไปตรวจ ทางเรือนจำก็ไม่ได้บังคับ นี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ส่วนข้อกังวลจะใช้เรื่องตั้งครรภ์เป็นเรื่องเทคนิคเรื่องการยื่นประกันตัว นั้น เรือนจำไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เพราะจะได้ประกันตัวหรือไม่ เป็นดุลยพินิจของศาล
เท้าแชร์ "น้องปริมพารวย" มอบตัวแล้ว
ส่วนความคืบหนี้แชร์ของน.ส.วิจิตรา คล้ายอุบล หรือ "น้องปริมพารวย" ชาวจ.สุพรรณบุรี นั้น พ.ต.อ.สมพร พุกหอม ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่า น.ส.วิจิตรา คล้ายอุบล (เท้าแชร์) เข้ามอบตัวกับตำรวจ พร้อมขอโทษว่า ไม่ได้ตั้งใจที่จะโกง แต่วงแชร์ล้มจริงๆ แบบหมดตัวตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. จากก่อนหน้า ที่มีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 100 ล้าน แต่เมื่อแชร์ล้มจึงเหลือเพียง 17 ล้านบาท และได้ทยอยใช้คืนลูกข่ายไปจนหมดตัวแล้ว แม้แต่รถยนต์และทรัพย์สินที่มีอยู่ ก็ได้ขายนำเงินมาใช้คืนลูกข่ายเช่นกัน พร้อมยอดรับต้องเข้าไปอยู่ในคุก แต่อยากขอร้องว่าอย่าทำร้ายพ่อกับแม่ของตนเอง
วานนี้ (6 พ.ย.) พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผบช.ภ.4 แถลงความคืบหน้าคดีแช์แม่มณี หรือน.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช ว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายได้เพิ่มอีก 1 คน คือน.ส.สุพรรณี นิกรกุล อายุ 21 ปี เลขที่ 75 ม.7 บ.โพธิ์งาม ต.หนองหญ้าไซ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นหุ้นส่วนธุรกิจเครื่องสำอาง “มะลิลา” ในความผิดเดียวกับน.ส.วันทนีย์ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันให้กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
พล.ต.ต.ยรรยง เปิดเผยว่า คดีนี้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาไป 5 ราย และทำการจับกุมไปทั้ง 5 ราย ส่วนการขยายผลยึดอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติมเป็นเงินสด 5,500,000 บาท, ทองรูปพรรณรวมหนัก 10 บาท และแหวนเพชร 2 วง
ด้านพล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.อุดรธานี กล่าวว่า จากนี้จะยังคงรวบรวมพยานหลักฐาน คาดจะออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 1-2 คน รวมทั้งการติดตามยึดอายัดทรัพย์ ภายในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ จะต้องส่งมอบสำนวน พยานหลักฐาน ผู้ต้องหา ทรัพย์สินที่ยึดมาให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
ดีเอสไอขอตัวแม่มณีสอบปากคำเพิ่ม
นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ดีเอสไอ กล่าวว่า ดีเอสไอจะได้สำนวนจากตำรวจทั้งหมดประมาณวันที่ 13-15 พ.ย. แต่จากการที่ดีเอสไอได้สอบปากคำผู้เสียหายเกือบ 4,000 ราย ระหว่างวันที่ 11 พ.ย.-22 พ.ย. ทั้ง 11 จุดทั่วประเทศ คาดจะใช้เวลาไม่เกิน 2 อาทิตย์ จะสามารถให้คำตอบได้ทั้งหมดใครเป็นแม่ทีมใครเป็นผู้เสียหาย
พร้อมกันนี้ จะประสานงานกับศาลจังหวัดอุดรธานีเพื่อขออายัดตัวน.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช เพื่อนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่กรุงเทพฯ โดยจะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของบุคคลใกล้ชิดหรือญาติของแม่มณีอย่างแน่นอน รวมทั้งจะออกหมายเรียกและหมายจับบุคคลเข้าข่ายกระทำความผิด รวมถึงแม่ข่ายที่ปรากฏตามสื่อ รวมถึงน.ส. จุฑาทิพย์ นิ่มนวล หรือมะนาวด้วย
มูลค่าความเสียหายพุ่ง 1.3 พันล้าน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ขณะนี้มียอดเสียหายกว่า 3,000 ราย คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.3 พันล้านบาท ขณะนี้ดีเอสไอ ได้รับเป็นคดีพิเศษแล้ว และบูรณาการการทำงานร่วมกันกับตำรวจ
"ท้อง-ไม่ท้อง" ราชทัณฑ์ดูแลได้
พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึง กรณีที่มีกระแสข่าว น.ส.วันทนีย์ ตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน ว่า จากการตรวจเบื้องต้นนั้นเครื่องมือที่ใช้ตรวจปรากฏผลมีเพียง1 ขีด ซึ่งใช้วิธีการตรวจปัสสาวะ แต่จะตั้งครรภ์หรือไม่นั้นตนไม่ทราบ ซึ่งทางเรือนจำก็ได้บอกกับผู้ต้องขังว่า หากอยากทราบผลที่ละเอียดชัดเจนจะนำไปตรวจที่คลิกนิกหรือโรงพยาบาลรัฐ แต่ผู้ต้องขังแจ้งว่าไม่ประสงค์จะไปตรวจ ทางเรือนจำก็ไม่ได้บังคับ นี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ส่วนข้อกังวลจะใช้เรื่องตั้งครรภ์เป็นเรื่องเทคนิคเรื่องการยื่นประกันตัว นั้น เรือนจำไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เพราะจะได้ประกันตัวหรือไม่ เป็นดุลยพินิจของศาล
เท้าแชร์ "น้องปริมพารวย" มอบตัวแล้ว
ส่วนความคืบหนี้แชร์ของน.ส.วิจิตรา คล้ายอุบล หรือ "น้องปริมพารวย" ชาวจ.สุพรรณบุรี นั้น พ.ต.อ.สมพร พุกหอม ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่า น.ส.วิจิตรา คล้ายอุบล (เท้าแชร์) เข้ามอบตัวกับตำรวจ พร้อมขอโทษว่า ไม่ได้ตั้งใจที่จะโกง แต่วงแชร์ล้มจริงๆ แบบหมดตัวตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. จากก่อนหน้า ที่มีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 100 ล้าน แต่เมื่อแชร์ล้มจึงเหลือเพียง 17 ล้านบาท และได้ทยอยใช้คืนลูกข่ายไปจนหมดตัวแล้ว แม้แต่รถยนต์และทรัพย์สินที่มีอยู่ ก็ได้ขายนำเงินมาใช้คืนลูกข่ายเช่นกัน พร้อมยอดรับต้องเข้าไปอยู่ในคุก แต่อยากขอร้องว่าอย่าทำร้ายพ่อกับแม่ของตนเอง
