xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“บิ๊กป้อม”ทุ่มสุดตัว แบก“อาเซียนซัมมิท”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - มันเป็นความบังเอิญพอดี! ในจังหวะที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม -5 พฤศจิกายน 2562 นี้ ศาลพัทยา ก็มีคำตัดสินคดีล้มประชุมสุดยอดอาเซียน เมื่อปี 2552 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม

เรียกว่า ครบ 10 ปีพอดี สำหรับเหตุการณ์กลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่นำโดย “เดอะกี้ร์”อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ล้มการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่พัทยา ชลบุรี จนผู้นำต่างประเทศต้องหนีหัวซุกหัวซุน ภาพลักษณ์ของไทยในตอนนี้อยู่ในสภาพยับเยิน

แม้แต่ตัวนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น “เดอะมาร์ค”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังต้องเล่นซ่อนแอบกับผู้ชุมนุมกลุ่ม นปช.ที่ตามไล่ล่า

ผ่าน 10 ปีมา วันนี้นายกรัฐมนตรีชื่อ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ควบอีกเก้าอี้คือ รมว.กลาโหม ยังเป็นขั้วตรงข้ามกลุ่มคนเสื้อแดงเหมือนเดิม

นอกจากนี้ ยังเพิ่มเติมอีกเก้าอี้ คือตำแหน่งประธานอาเซียน ที่เพิ่งจะไปรับมอบมาจากสิงคโปร์เมื่อปลายปีก่อน การประชุมสุดอาเซียน ครั้งที่ 35 นี้ จึงถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ลบล้างภาพลักษณ์ในวันวานที่ไม่มีคนอยากจดจำ

“บิ๊กตู่” เองก็หมายมั่นปั้นมือ จะทำให้การจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้ เป็นที่ประทับใจของบิ๊กเบิ้มทั้งหลายที่เดินทางมา ในขณะเดียวกันก็ต้องการประกาศแสนยานุภาพและความสำคัญของประเทศไทย รวมถึงกลุ่มอาเซียนในเวทีโลก

เหนือสิ่งอื่นใดคนที่อยากล้างตา แก้ตัว แก้มือ มากที่สุดอีกคนคือ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ล้มการประชุมสุดยอดอาเซียนที่พัทยา เมื่อ 10 ปีก่อน ในฐานะรมว.กลาโหม สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์

ครั้งนี้ “บิ๊กป้อม”ที่แม้จะไม่ได้นั่งควบ รมว.กลาโหม ซึ่งส่งผลให้ไม่ได้กำกับดูแลทั้งกองทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แต่ก็ยังถือเป็นรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ที่รับผิดชอบเรื่องนี้อยู่ดี

และแม้ปัจจุบัน “บิ๊กป้อม”จะกำกับดูแลสำนักสภาความมั่นคงแห่งชาติ และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ที่เป็นฝ่ายข่าวความมั่นคงฝ่ายพลเรือน ไม่ได้เป็นหน่วยด้านกองกำลัง แต่ก็เป็นที่รับรู้กันว่า พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ยังคงกำกับอยู่เบื้องหลังลับๆอยู่ดี

เพราะงาน “บิ๊กตู่”แค่ต้องบริหารราชการประเทศก็เหนื่อยแล้ว อย่างไรก็ต้องมีพี่ใหญ่คอยช่วยเป็นมือเป็นไม้ เป็นหูเป็นตาให้

สิ่งเดียวที่ “บิ๊กป้อม”ก้าวก่ายมากไม่ได้แบบสมัยเป็น รมว.กลาโหม คือการแต่งตั้งโยกย้ายของกองทัพ และสตช. ที่ไม่สามารถทำได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดเหมือนแต่ก่อน

สิ่งที่สะท้อนว่า วันนี้ “บิ๊กป้อม”ยังคงมีอิทธิพลในกองทัพ และ สตช. และไม่เคยละทิ้งงานด้านความมั่นคงเลย คือการได้รับมอบหมายให้ดูแลเรื่องการรักษาความปลอดภัยในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 นี้

งานนี้พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์รับหน้าที่เป็น “เจ้าภาพ”ตั้งแต่ชั้นเตรียมการ วางแผนรักษาความปลอดภัย เพื่อให้ผิดพลาดน้อยที่สุดโดยเฉพาะสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาอันจะเกิดขึ้นในช่วงการประชุม จนเป็นเหตุให้ไทยต้อง“เสียหน้า”เป็นครั้งที่ 2

คราวก่อนจะโทษ “บิ๊กป้อม”เสียทีเดียวก็ไม่ได้ เพราะแม้จะเป็น รมว.กลาโหม แต่ไม่ได้ดูแลด้านความมั่นคงแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เพราะมี“เดอะเทือก”สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กำกับดูแลสตช. และยังเป็นผู้อำนวยการศูนย์แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) กุมสภาพอยู่ข้างบน

แต่เที่ยวนี้ “บิ๊กป้อม”รับผิดชอบเองหมด จะเห็นว่า การเตรียมการเรื่องการรักษาความปลอดภัยค่อนข้างจะเวอร์วังอลังการ ราวกับหนังฮอลลีวูด

อย่างเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา “บิ๊กป้อม”ก็ไปเป็นประธานตรวจความพร้อมการรักษาความปลอดภัยด้วยตัวเอง

และการซ้อมไม่ได้เป็นแค่น้ำจิ้ม แต่ “เล่นใหญ่”โชว์ให้เห็นมีการสรุปแผนปฏิบัติการในพื้นที่ของกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สาธิตการรักษาความปลอดภัยวีไอพี ในภาวะปกติโดยตำรวจสันติบาล สาธิตการรักษาความปลอดภัยวีไอพี กรณีมีสิ่งบอกเหตุมีแนวโน้มว่าจะเกิดภัยคุกคาม โดยตำรวจสันติบาลและอรินทราช 26 /สาธิตการสกัดกั้นและจับกุมผู้ก่อเหตุ-วัตถุต้องสงสัย โดยตำรวจนเรศวร 261 และตำรวจนครบาล การสาธิตช่วยเหลือบุคคลสำคัญออกจากพื้นที่การประชุม โดยศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล หรือ ศตก. กองทัพไทย

ขณะที่การรักษาความปลอดภัยงานประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ “10,000 นาย”เรียกว่า พลาดไม่ได้

แม้จะดูเล่นใหญ่ แต่เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ร่วมประชุมได้ระดับหนึ่งว่า มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยครั้งนี้เข้มงวด ไม่ยิ่งหย่อน อุ่นใจได้ว่า เหตุการณ์จะไม่ซ้ำรอยเดิมเหมือนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว

อีกนัยหนึ่งที่ “บิ๊กป้อม”ซ้อมใหญ่โชว์ ยังเป็นการปราบ การขู่ เพื่อให้บุคคลผู้ไม่หวังดีที่จ้องจะสร้างสถานการณ์ หรือก่อเหตุ เพื่อหวังลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาลไทยไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไรบุ่มบ่าม เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องดูแลเข้มงวดราวกับตาสัปปะรด

จะเห็นว่า “บิ๊กป้อม”ค่อนข้างเน้นเรื่องงานด้านความมั่นคงในช่วงการประชุมอย่างมาก มีการให้สัมภาษณ์มาตลอดร่วมเดือนว่า จะไม่ยอมปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบที่พัทยา

เรื่องของเรื่อง เพราะก่อนหน้านี้ทางการข่าวได้รับรายงานว่า มีผู้ไม่หวังดีหวังฉวยโอกาสปั่นป่วนในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียนนี้ ให้ต่างประเทศขาดความเชื่อมั่นกับไทย

โดยมีความเคลื่อนไหวของบรรดาผู้ที่อยู่ในลิสต์รายชื่อของทางการไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้สะกดรอย และติดตาม เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ทำอะไรได้

การที่ “บิ๊กป้อม”ฮึ่มทุกวันว่า การรักษาความมั่นคงครั้งนี้รัดกุม ยังเป็นการสื่อสารไปถึงพวกไม่หวังดีว่า หากคิดจะทำอะไร ฝ่ายความมั่นคงนั้นรู้ทุกฝีก้าว

การปิดถนน และประกาศให้กรุงเทพมหานคร และนนทบุรี หยุดในระหว่างวันที่ 4-5 พฤศจิกายน ก็เพื่อให้แผนการรักษาความปลอดภัยมีประสิทธิภาพมากที่สุด เนื่องจากพื้นที่การประชุมครั้งนี้ ค่อนข้างกว้าง ดังนั้นจึงต้องทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานง่ายที่สุด

จะบอกว่า ทำให้การประชุมครั้งนี้เป็นไข่ในหินคงไม่ผิดนัก เพราะจุดประสงค์ของฝ่ายความมั่นคงคือ ต้องไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นแม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ หรือแม้แต่การปั่นป่วน สร้างสถานการณ์ก็ทำไม่ได้

เพราะเพียงแค่จุดเดียวมันอาจทำลายความน่าเชื่อถือและเชื่อมั่นของ“รัฐบาลบิ๊กตู่”ทันที รัฐบาลที่ขึ้นชื่อว่า ดูแลความสงบเรียบร้อยได้ดีที่สุดชุดหนึ่ง จะสั่นคลอนหนักหากพลาด

“บิ๊กป้อม”ต้องทุ่มสุดตัว เพื่อภาพรวมของรัฐบาล และตัว “น้องตู่”ในฐานะประธานอาเซียน เพราะนี่คือเวทีที่จะทำให้รัฐบาลชุดนี้ดูมีความน่าเชื่อถือและน่าเชื่อมั่นจากเวทีโลก ผ่านผลสำเร็จของการประชุม

อีกทางหนึ่ง หากสำเร็จไปได้ด้วยดี ไม่มีอะไรเกิดขึ้นให้น่ากังวลใจ มันจะช่วยลบภาพเมื่อ 10 ปีที่แล้วให้ประเทศด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น