"สมประสงค์ เย็นท้วม" หลังฉากภาพลักษณ์ ความสำเร็จของประเทศ

Police Focus

ใกล้ถึงวันที่ประเทศไทยเป็นเจ้าบ้านต้อนรับผู้นำ 18 ประเทศ ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 31 - 4 พ.ย. โดยใช้อิมแพค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี เป็นสถานที่ประชุมและใช้โรงแรมในกรุงเทพฯ 15 แห่งเป็นสถานที่พัก กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้ประกาศเส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบและเส้นทางแนะนำ โดยทุกคนต้องช่วยกันสร้าง "ภาพลักษณ์" อย่าให้ซ้ำรอยล้มโต๊ะเหมือน 10 ปีที่แล้ว

พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รอง ผบช.น.อดีต ผบก.น.5 ผบก.ภ.จว.ชลบุรี รอง ผบช.ภ.7 และ รอง ผบช.ภ.2 หวนกลับนครบาลรับผิดชอบงานด้านความมั่นคง (มค.) ประจวบเหมาะกับงานสำคัญระดับประเทศ หลังจากการประชุมสุดยอดอาเซียน ประกอบด้วย "สมเด็จพระสันตะปาปา" เสด็จเยือนไทย, งานอุ่นไอรัก และพระราชพิธีขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เป็นหน้างานที่หนักและต้องเตรียมความพร้อมทุกด้าน

น.8 กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับงานมั่นคง ผมหนักใจพอสมควรเมื่อได้รับมอบหมาย ปัจจุบันเห็นอยู่บ้านเมืองไปในทิศทางไหน เหตุการณ์ในกรุงเทพฯที่เกิดขึ้นเนืองๆ เป้าหมายเราทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้มันเกิด ฉะนั้นงานมั่นคงหัวใจอยู่ที่เรื่อง "การข่าว" โดยเฉพาะช่วงการประชุมที่กำลังจะมาถึง ได้เตรียมวางกำลังตำรวจ อคฝ.บช.น.ไว้ทั้งหมด 3 กองร้อย และมีกำลังเสริมจากภูธรอีกหลายกองร้อย

ดังนั้นตำรวจ บช.น.มี 2 ภารกิจต้องเฝ้าระวัง 1. เรื่องเหตุการณ์เกี่ยวกับด้านความมั่นคง 2. เรื่องการชุมนุมแม้จะอยู่ในกรอบ พรบ.ชุมนุมสาธารณะ แต่ในช่วงการประชุมไม่อยากให้มี เพราะเสียภาพลักษณ์และบ้านเมืองไม่ได้ดีขึ้น ส่งผลกระทบให้กับประเทศหลายๆ ด้าน ทั้งการรักษาความสงบเรียบร้อย เศรษฐกิจ สังคม ความน่าเชื่อถือ และความเชื่อมั่นที่เราจะทำการค้ากับเขา สรุปแล้วถ้ามาชุมนุมผลเสียมีมากกว่าผลได้

"ผมเป็นห่วงเรื่องภาพลักษณ์อย่างเดียว ตอนนี้กลุ่มผีเสื้อกระพือปีกได้มาชุมนุม บริเวณตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล ประมาณ 70 คน เรียกร้องให้รัฐบาลตอบคำถามเรื่อง ราคาน้ำมันถูกเท่ากับประเทศเพื่อนบ้าน โดยชุมนุมถึงวันที่ 30 ต.ค.ซึ่งแกนนำขอขยายต่อถึงวันที่ 5 พ.ย.ทางตำรวจพยายามเจรจาขอให้หยุด ทั้งปีมีเวลา 365 วัน หลังการประชุมจะกลับมาชุมนุมต่อก็ค่อยว่ากัน แต่ขอให้อยู่ในกรอบกฎหมาย จงใจมาป่วนหรือไม่ยังตอบไม่ได้ ส่วนการข่าวอื่นๆ ยังไม่ได้รับรายงาน"

รอง ผบช.น.กล่าวว่า เราเตรียมความพร้อมและเฝ้าระวังทุกอย่าง จับตาติดตามบุคคลกลุ่มเป้าหมาย เอกซเรย์ทุกพื้นที่รวมทั้งจัดชุด "Anti Drone" และชุดสืบสวนหาข่าวลงพื้นที่ตลอดเวลา ผบ.ตร.ได้ประชุมและมีข้อห่วงใยต่างๆ เราวางกำลังและพูดคุยกับตำรวจทุกฝ่าย ก็ให้ความร่วมมืออย่างดีรวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ทุกคนพร้อมใจสนับสนุนทุกด้าน ทั้งการข่าว วัสดุ อุปกรณ์ใช้ในการสืบสวนและป้องกันเหตุ ก็เป็นไปเป้าหมายที่วางไว้ ตอนนี้ผมมีความเชื่อมั่นร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้จะสำเร็จด้วยดี

งานมั่นคงกับงานป้องกันไม่ต่างกันเท่าไหร่ งานมั่นคงจะแยกออกมาเจาะจงเฉพาะด้าน เกี่ยวกับความรุนแรงจนส่งผลต่อประเทศ ส่วนงานป้องกันรับผิดชอบทุกหน้างาน ถ้างานป้องกันแข็งงานมั่นคงก็แข็งไปด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถป้องกันเหตุได้ งานมั่นคงโอกาสไม่มีปัญหาก็สูงเช่นกัน ชาวบ้านอยู่สุขสบายฉะนั้นทั้ง 2 ส่วนนี้ต้องเดินหน้าไปด้วยกัน ผมเน้นการทำงานเชิงรุกเหตุต้องไม่เกิด ผมไม่ชอบเหตุเกิดแล้วตามจับคนร้ายได้

"เป็นงานที่ต้องช่วยกันทุกฝ่ายตั้งแต่รัฐบาล
ในเรื่องการวางแผนนโยบาย ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายการข่าว และอื่นๆ งานสำเร็จก็มาจากการร่วมมือของทุกฝ่าย เมื่อถึงวันนั้นผมก็ภูมิใจที่ทำงานในหน้างานแล้วไม่มีปัญหา เป็นเรื่องสำคัญระดับประเทศและอาเซียน เราต้องช่วยกันดูแลรักษากรุงเทพฯให้ได้"

รองเปีย บอกว่า หลายคนอาจมองว่าผมเป็นคนบ้างาน ความสุขของผมคือการทำให้คนมีความสุข ชอบคลายทุกข์ชอบแก้ปัญหาให้คนอื่น แม้บางครั้งไม่ใช่เรื่องของตัวเองก็ตาม และผมก็ไม่ชอบเดินหนีปัญหา ถึงจะเหนื่อยแต่ผมก็มีความสุขทุกครั้งที่ทำ เราต้องเกาะติดตลอดทุกวันปล่อยไม่ได้ ต้องจัดกำลังตำรวจให้ดีไม่อย่างนั้นล้า ทำงานแบบลุ้นเพราะบางอย่างไม่สามารถคาดการณ์ได้ ก็ท้าทายความสามารถของเราเหมือนกัน

ผมก็เหมือนกับคนทั่วไปที่รักประเทศไทย ทำไมทุกวันนี้หลายประเทศมายุ่งกับไทย เหมือนกับเราลืมว่าตัวเองเป็นบุคคลสำคัญ ผมมองว่าไทยเป็นประเทศที่สำคัญ โดยเฉพาะในสายตายุโรปและอเมริกา ถ้าเลือกได้ขอหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง ให้อยู่ในหลักการเป็นมาตรฐานสากล ทำให้ทุกคนยอมรับและรักประเทศไทย คนไทยต้องรักกัน มีความรับผิดชอบต่อสังคม ช่วยรักษาผื่นแผ่นดินนี้เอาไว้ ตามนโยบายบรรพบุรุษที่เสียเลือดเสียเนื้อ

"งานด้านความมั่นคงเสมือนปิดทองหลังพระ เมื่องานสำเร็จผมน้อมรับที่จะไม่ได้รับคำชม ยอมรับว่าเป็นงานที่ยากเหมือนจับปูใส่กระด้ง ป้องกันตรงนี้ได้แต่เหตุก็อาจเกิดที่อื่นได้อีก พระบรมราโชวาทของ ร.5 พระราชทานแก่ข้าราชการตำรวจ "การจับผู้ร้ายนั้นไม่ถือเป็นความชอบ เป็นแต่นับว่าผู้นั้นได้กระทำการครบถ้วนแก่หน้าที่เท่านั้น แต่จะถือเป็นความชอบต่อเมื่อได้ปกครองป้องกันเหตุร้าย" ผมจะพยายามทำเพื่อพี่น้องคนไทยทุกคน"