xs
xsm
sm
md
lg

3จำเลยสารภาพล้มซัมมิทปี52 ศาลนัดใหม่3ธ.ค.-“กี้ร์”หนี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ศาลฎีกานัด 3 ธ.ค.ฟังคำสั่งใหม่ หลัง “ไวพจน์ - สำเริง – วรชัย” ชิงกลับคำให้การเป็นรับสารภาพคดีล้มประชุมอาเซียนปี 2552 ขณะที่ “พายัพ - พิเชฐ - สิงห์ทอง – นพพร” ดอดมอบตัวก่อนหน้านี้ รับโทษคุก 4 ปีตาม “ศักดา” แล้ว ส่วน “อริสมันต์ – หมอวัลลภ - นิสิต - วันชนะ” ล่องหน คาดหลบหนี

วานนี้ (31 ธ.ค.) ที่ศาลจังหวัดพัทยา จ.ชลบุรี ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษา ศาลฎีกา คดีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำพากลุ่มคนเสื้อแดงบุกล้มการประชุมอาเซียน ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 11 เม.ย.2552 ที่พนักงานอัยการจังหวัดพัทยา เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง จำเลยรวม 17 ราย ได้แก่ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง, นายนพพร นามเชียงใต้, พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์, นายสมญศฆ์ พรมภา, นายนิสิต สินธุไพร, นายสำเริง ประจำเรือ, นายศักดา นพสิทธิ์, นายสิงห์ทอง บัวชุม, นายธนกฤต หรือวันชนะ หรือชัยชนะ ชะเอมน้อย หรือเกิดดี, นายวรชัย เหมะ, นายพายัพ ปั้นเกตุ, นายวัลลภ ยังตรง และนายพิเชฐ สุขจินดาทอง

ทั้งนี้ได้พักคดี พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ และนายสุรชัย แซ่ด่าน เนื่องจากหลบหนี ขณะที่นายธรชัย ศักดิ์มังกร และ พ.ต.อ.สมพล รัฐกาญจน์ ศาลชั้นต้นยกฟ้อง

กรณีเมื่อวันที่ 11 เม.ย.2552 พวกจำเลยนำพากลุ่มคนเสื้อแดงบุกล้มการประชุมอาเซียน ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท จ.ชลบุรี ในช่วงที่กลุ่ม นปช.ชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยได้แจ้งข้อหา ประกอบด้วย 1.ร่วมกันขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ซึ่งสั่งให้เลิกการมั่วสุม 2.ข้อหาร่วมกันเดินแถวเป็นขบวน และกระทำด้วยประการใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร 3.ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชน ด้วยวาจาหรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ และมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่ก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร และเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน 4.มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยเป็นหัวหน้า เป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำผิดนั้น และ 5.ร่วมกันบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ โดยขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 215, 216, 358, 362, 364, 365 และ พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 108, 114, 148 ต่อมาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้จำคุกจำเลยจำนวน 12 คน เป็นเวลา 4 ปี ไม่รอลงอาญา และยกฟ้อง 1 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ย.62 ที่ผ่านมา ศาลฎีกาได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีนี้ ปรากฏว่า มีเพียง นายศักดา นพสิทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย มาศาลเพียงคนเดียว ศาลจึงได้อ่านคำพิพากษาของ นายศักดา ซึ่งเป็นจำเลยที่ 10 ให้จำคุก 4 ปี โดยไม่รอการลงโทษ ซึ่งยืนตามคำพิพากษาชั้นศาลอุทธรณ์ภาค 2 ที่พิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 1, 2, 3, 5, 6, 10, 11, 12, 13, 15, 16, 17 คนละ 4 ปีโดยไม่รอการลงโทษ ฐานร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 (2) (3) ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด และให้ปรับจำเลยดังกล่าว คนละ 200 บาท ฐานร่วมกันเดินแถวเป็นกระบวนและกระทำในลักษณะกีดขวางการจราจร ตามที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาด้วย พร้อมได้นัดอ่านคำพิพากษาจำเลยที่อ้างว่าไม่ได้รับนัดหมายเรียกศาลมาฟังคำสั่งอีกครั้งเมื่อวานนี้ (31 ต.ค.)

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา จำเลยจำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นายพายัพ ปั้นเกตุ, นายพิเชฐ สุขจินดาทอง, นายสิงห์ทอง บัวชุม และนายนพพร นามเชียงใต้ ได้เข้ามอบตัวต่อศาลจังหวัดพัทยา และถูกนำตัวไปคุมขังตามคำพิพากษาให้จำคุก 4 ปี โดยไม่รอการลงโทษ

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า เมื่อถึงเวลาที่ศาลนัด ได้มีจำเลย 3 คน ที่เดินทางมารับฟังคำพิพากษา คือ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ, นายสำเริง ประจำเรือ และนายวรชัย เหมะ โดยทั้ง 3 คนระบุว่า ก่อนหน้านี้ไม่ได้รับหมายเรียกศาล ซึ่งศาลได้มีการอ่านคำพิพากษาไปแล้ว คือจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา และก็ได้เตรียมใจในการรับโทษ เพราะตามกระบวนการยุติธรรม หากมีคำพิพากษาไปแล้วแม้จำเลยจะเดินทางมารับฟังหรือไม่ก็ต้องรับโทษตามกระบวนการยุติธรรม พร้อมกันนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. พร้อมนายอารี ไกรนรา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ และอดีตหัวหน้าการ์ด นปช. ได้เดินทางมาให้กำลังใจจำเลยทั้ง 3 ด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า จำเลยทั้ง 3 ที่มารายงานตัวได้ทำหนังสือยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิมจากปฏิเสธ เป็นขอรับสารภาพ และยื่นคำร้องประกอบขอให้ศาลลงโทษเบา เนื่องจากไม่ได้รับหมายศาลครั้งแรก เพื่อให้ศาลวินิจฉัยบทลงโทษใหม่ ศาลจังหวัดพัทยาจึงส่งคำร้องไปยังศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย และเลื่อนการอ่านคำวินิจฉัยของศาลฎีกาตามคำร้องใหม่ของจำเลยทั้ง 3 เป็นวันที่ 3 ธ.ค.62 นี้ เวลา 10.00 น.

“ถือว่าเป็นการเลื่อนไปเพื่อรอรับฟังคำสั่งจากศาลฎีกา ด้วยศาลท่านทำคำสั่งไม่ทัน ส่วนที่ว่าจะรับคำร้องของจำเลยหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่จะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้งในวันที่ 3 ธ.ค.” นายณัฐพล ปัญญาสูง ทนายความ เปิดเผย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในส่วนของจำเลยที่เหลือ 4 ราย ได้แก่ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง, นายวันชนะ เกิดดี, นพ.วัลลภ ยังตรง และ นายนิสิต สินธุไพร ไม่ได้ปรากฏตัวต่อศาลตามนัดแต่อย่างใด ซึ่งมีกระแสข่าวว่าทั้งหมดได้หลบหนีไปต่างประเทศตั้งแต่ก่อนวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น