ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คงได้คุยฟุ้งอีกหลายวันถึงความสำเร็จของหน่วยปฏิบัติพิเศษของสหรัฐฯ ในการไล่ล่าสังหารหัวหน้าขบวนการไอซิส “อาบู บักร์ อัล-บักดาดี” ซึ่งเสียชีวิตด้วยการใช้ระเบิดพลีชีพพร้อมลูก 3 คน ในถ้ำตอนเหนือของซีเรีย
ช่วงการแถลงข่าวอย่างยืดยาวช่วงเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาในสหรัฐฯ ทรัมป์เล่าเป็นฉากๆ จากการชมถ่ายทอดสดการปฏิบัติการ ซึ่งทหารหน่วยรบพิเศษใช้เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงพล 8 ลำเพื่อปฏิบัติการลับครั้งนี้หลังจากวางแผน 5 เดือน
หน่วยงานซีไอเอและหน่วยสืบของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้พยายามแกะรอย อัล-บักดาดี นานหลายปี นับตั้งแต่การก่อตั้งของไอซิส จนกระทั่งมีกองกำลังรบขนาดใหญ่มีสาวกหลายหมื่นคน พร้อมประกาศจัดตั้งรัฐอิสลาม “กาหลิบ” นั่นเลย
หลังจากถูกพันธมิตรรุกหนัก โดยเฉพาะการโจมตีทิ้งระเบิดโดยกองทัพอากาศรัสเซีย ไอซิสสูญเสียกำลังรบไปมาก อยู่ในขั้นแตกระส่ำระสายหนีตายไปอยู่ในส่วนต่างๆ ที่เหลือถูกไล่กวาดล้างโดยหน่วยรบของสหรัฐฯ ซีเรีย กองกำลังเคิร์ดและอิหร่าน
สิ้นสภาพการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ และซ้ำร้ายหัวหน้าซึ่งถูกประณามว่ามีความเหี้ยมโหดถูกสังหารเสียแล้ว น่าจะทำให้ไอซิสต้องใช้เวลาหาผู้นำใหม่และการสนับสนุน แม้กระนั้นก็ยังต้องระวังการกวาดล้างในทุกพื้นที่ซึ่งเป็นปฏิปักษ์
ทรัมป์ได้กล่าวถ้อยคำหยามเหยียดหัวหน้าไอซิสว่า “ร้องเหมือนหมาจนตรอกเมื่อสิ้นทางหนีภายในถ้ำเมื่อถูกสุนัขสงครามไล่ล่า ขี้ขลาดตาขาว ยอมระเบิดพลีชีพโดยเอาลูก 3 คนตายไปพร้อมกับตัวเอง และยังมีภรรยาตายด้วยอีก 2 คน”
ทรัมป์ยังได้ใช้ถ้อยคำรุนแรงว่า อัล-บักดาดี มีความเหี้ยมโหด ดังนั้นเป็นการเหมาะสมแล้วที่ต้องตายอย่างเหี้ยมโหด โดยวิธีรุนแรง ในช่วงการแถลงข่าว ทรัมป์ได้พร่ำถึงความสำเร็จและขั้นตอนในการปฏิบัติการ เป็นการกำจัดศัตรูคนสำคัญ
ก่อนหน้านี้ไม่นาน ทรัมป์ก็ประกาศความสำเร็จว่ากองกำลังของสหรัฐฯ ได้สังหารฮัมซา บิน ลาดิน บุตรชายคนโตของ อุซามะห์ บิน ลาดิน ซึ่งรับช่วงต่อจากบิดาในตำแหน่งหัวหน้าขบวนการอัลกออิดะห์ ซึ่งไม่ต่างจากไอซิส แต่ขนาดเล็กกว่ามาก
แถมยังคุยข่มยุคประธานาธิบดีโอบามา ซึ่งส่งหน่วยซีลไปล่าสังหาร บิน ลาดินในเมืองอาบอตตาบัต ตอนเหนือของปากีสถาน ซึ่งทำให้ขบวนการอ่อนกำลังลง
ความสำเร็จในการสังหารหัวหน้าขบวนการไอซิสครั้งนี้อาจทำให้กลุ่มขบวนการเสียขบวนระยะหนึ่ง แต่อาจปฏิบัติการเป็นกลุ่มย่อยเพื่อเป็นการเอาคืน ล้างแค้นสหรัฐฯ โดยมุ่งโจมตีที่ตั้งทหาร หรืออะไรที่เกี่ยวโยงกับสหรัฐฯ ในต่างประเทศ
การพูดจาในเชิงเหยียดหยาม เปรียบเทียบหัวหน้าไอซิสว่า “ร้องเหมือนหมา” คงสร้างความเจ็บแค้นให้ไอซิส และกลุ่มผู้สนับสนุนหรือเห็นใจ อัล-บักดาดี แต่จะเอาคืนได้เร็วแค่ไหน ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสที่เปิดให้ และสหรัฐฯ จะต้องระวังให้มาก
พรรครีพับลิกันได้ผ่อนลมหายใจบ้างหลังจากทรัมป์ถูกรุกไล่อย่างหนักในกระบวนการถอดถอนผู้นำทำเนียบขาวให้ออกจากตำแหน่ง และความสำเร็จครั้งนี้จะช่วยเพิ่มคะแนนนิยมให้ทรัมป์ในการหาเสียงอยู่บ้าง แม้อาจเป็นเพียงชั่ววูบก็ตาม
แต่ฝ่ายพรรคเดโมแครตออกอาการไม่พอใจ เพราะปฏิบัติการของหน่วยรบพิเศษครั้งนี้บรรดาผู้นำ ส.ส.ในสภาคองเกรส ไม่ได้รับการแจ้งให้รับรู้ ขณะที่ทรัมป์อ้างว่าก่อนปฏิบัติการนั้นฝ่ายสหรัฐฯ ได้แจ้งให้รัสเซีย ตุรกี ซีเรียรับรู้เรื่องก่อนแล้ว
ดังนั้นผู้นำรัฐสภาคองเกรสพรรคเดโมแครตอาจทำให้ทรัมป์ต้องดิ้นรนหนักกว่าเดิมเพราะเห็นคนต่างชาติดีว่าคนในประเทศ การสอบสวนพยานเพื่อการถอดถอนทรัมป์น่าจะเข้มข้นหนักกว่าที่เป็นอยู่ เพราะมีแรงแค้นขุ่นเคืองเป็นฐานสำคัญ
ก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้ทำให้นักการเมืองทั้ง 2 ค่ายรวมทั้งพรรครีพับลิกันไม่พอใจเมื่อทรัมป์สั่งถอนทหารสหรัฐฯ ออกจากพื้นที่ชายแดนซีเรีย-ตุรกี และเปิดทางให้ทหารตุรกีและหน่วยสนับสนุนเข้ากวาดล้างชาวเคิร์ดซึ่งเป็นพันธมิตรร่วมรบกับสหรัฐฯ
ชาวเคิร์ดรุมประณามทรัมป์ว่าเป็นคนทรยศหักหลังเพื่อน เพราะชาวเคิร์ดกว่า 1 หมื่นคนได้เสียชีวิตในการสู้รบกับไอซิสโดยเป็นหน่วยรบหลักมีทหารสหรัฐฯ สนับสนุน ดังนั้นการถอนตัวออกแล้วปล่อยให้กองทัพตุรกีเข้าไปฆ่าจึงเป็นการทรยศ
ความสำเร็จของการไล่ล่าผู้นำไอซิสคงจะไม่บรรเทาความพยายามของพรรคเดโมแครตที่จะแสวงหาหลักฐานเพื่อถอดถอนทรัมป์ให้หลุดจากตำแหน่ง ในข้อหาผลประโยชน์ทับซ้อน ใช้เงินช่วยเหลือของสหรัฐฯ ไปต่อรองกับผู้นำรัฐบาลยูเครน
มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายทูต และหน่วยงานกระทรวงการต่างประเทศ หน่วยข่าวกรองไปให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการ 3 ชุดของสภาคองเกรสนำโดย ส.ส.พรรคเดโมแครต ซึ่งทำให้ทรัมป์อยู่ในสภาวะเหมือนธาตุไฟแตก แสดงความเกรี้ยวกราดมาก
มีปฏิกิริยาจากชาติอื่นเช่นกัน รัฐบาลอิรัก โดยกระทรวงกลาโหมอ้างว่าการค้นพบรังของหัวหน้าไอซิสครั้งนี้เป็นผลงานของหน่วยข่าวกรองของอิรักที่ชี้จุดซ่อนตัว ฝ่ายรัฐบาลอิหร่านบอกว่าเป็นเรื่อง “จิ๊บจ๊อย” และสหรัฐฯ นั่นแหละเป็นตัวสร้างไอซิส
ฝ่ายโฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียบอกว่าไม่แน่ใจว่าการปฏิบัติการที่ว่านั้นเป็นจริงหรือไม่ เพราะไม่มีหลักฐานว่าเครื่องบินสหรัฐฯ อยู่ในบริเวณที่ว่านั้น และรัสเซียก็ไม่ได้รับการบอกเล่าล่วงหน้าอย่างที่ทรัมป์ได้อ้างกับสื่อช่วงแถลงข่าว
ฝ่ายรัฐบาลซีเรียอ้างว่าเป็นผลจากความร่วมมือระหว่างซีเรียกับสหรัฐฯ และยังโจมตีตุรกีว่าทำให้การปฏิบัติการล่าช้าไปกว่า 1 เดือน เพราะกองทัพตุรกีรุกเข้าดินแดนซีเรียทำให้เสียเรื่อง จากนี้ไปต้องรอดูว่าจะมีอะไรตามมาหรือไม่