xs
xsm
sm
md
lg

ทำไมเราต้องเกรงใจสิงคโปร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ


ก่อนหน้านั้นทักษิณเคยใช้กัมพูชาเป็นฐานในการเข้ามาขย่มการเมืองไทย แต่ระยะหลังเข้าใจว่าฮุนเซนไม่ยอมให้ใช้ประเทศมายุ่งเกี่ยวกับการเมืองภายในของเรา เพราะเกรงใจรัฐบาลทหาร ทำให้ทักษิณเปลี่ยนไปใช้สิงคโปร์แทน

แล้วรัฐบาลสิงคโปร์ไม่มีความเกรงใจรัฐบาลทหารของไทยบ้างเลยหรือ หรือไม่เคารพต่อกิจการภายในของไทยซึ่งเป็นชาติร่วมอาเซียนเลยหรืออย่างไร

แน่นอนว่าทักษิณและยิ่งลักษณ์สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ทั่วโลก เป็นคนทำผิดคดีหลบหนีออกนอกประเทศไม่กี่คนที่ยังลอยหน้าลอยตาไม่อยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ บางคนบอกว่า เพราะข้อกล่าวหาของไทยต่อทักษิณและยิ่งลักษณ์นั้น ไม่ใช่ข้อกล่าวหาสากลที่นานาประเทศยอมรับ ทั้งที่ทักษิณถูกจำคุกเพราะกฎหมาย ป.ป.ช.ที่ใช้ปราบปรามการทุจริตเพราะใช้อำนาจหน้าที่เพื่อให้เมียได้ประโยชน์จากการซื้อที่ดินรัฐ และต่อมาศาลตัดสินคดีว่าทักษิณใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจของตัวเองจนต้องยึดทรัพย์คืนมาเป็นของแผ่นดิน 4 หมื่นกว่าล้านบาท

ส่วนยิ่งลักษณ์นั้นถูกกล่าวหาว่าปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตจำนำข้าว สร้างเรื่องจีทูจีเก๊ขึ้นมาแสวงหาประโยชน์ ซึ่งจะเห็นว่า ทั้งทักษิณและยิ่งลักษณ์เกี่ยวพันกับข้อหาทุจริตซึ่งเป็นเรื่องที่ทั่วโลกให้การต่อต้าน แต่เมื่อไทยใช้กฎหมายจัดการกับนักการเมืองที่มีหลักฐานว่าทุจริต ทั่วโลกกลับไม่สนใจข้อกล่าวหาของไทย และเปิดโอกาสให้ทักษิณและยิ่งลักษณ์เข้าไปใช้ประเทศของตัวเองเพื่อหลบหนีการจับกุมของทางการไทย

พูดได้ว่าประเทศเหล่านั้นแม้เป็นมิตรกับประเทศมีความสัมพันธ์ทางการทูตที่ดีกับประเทศไทยก็ไม่ได้ใส่ใจไยดีกับรัฐไทย โดยที่รัฐบาลไทยซึ่งมีอำนาจก็ได้แต่แบะๆ ไม่กล้าแสดงออกเพราะกลัวจะกระทบความสัมพันธ์ในภาพรวม

บางประเทศมองว่า ทักษิณและยิ่งลักษณ์ถูกกำจัดจากรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ข้อกล่าวหาจึงไม่ได้รับการยอมรับว่าทักษิณและยิ่งลักษณ์กระทำผิดจริง แต่มองว่า เป็นเรื่องการเมืองมากกว่า

เรื่องนี้จึงมีสองด้านๆ หนึ่ง ต่างชาติมองว่ากระบวนการยุติธรรมไทยไม่มีมาตรฐาน ด้านหนึ่งมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งกันทางการเมือง

แต่ไม่ว่าด้านใด ผมยังไม่เคยเห็นรัฐบาลไทยแก้ข้อกล่าวหาอย่างหนักแน่นเลย ปล่อยให้วาทกรรมเหล่านั้นล่องลอยอยู่ในต่างประเทศ และสร้างความชอบธรรมในการเคลื่อนไหวให้กับทักษิณในต่างแดน ซึ่งดูแล้วเหมือนว่าจะมีความเกรงอกเกรงใจทักษิณและเกรงว่า ถ้าไปกระทบกระทั่งเอาจริงเอาจังกับการติดตามตัวทักษิณก็จะสร้างความวุ่นวายในประเทศ ดังนั้น การปล่อยให้ทักษิณลอยนวลอยู่ในต่างประเทศก็เป็นหนทางที่ดีกว่า

ทักษิณต่างกับรัฐบาลอื่นในอดีตที่หลังจากถูกยึดอำนาจและหลบหนีไปต่างประเทศแล้วยังไม่ยอมแพ้ เขาเข้ามาแทรกแซงการเมืองไทยในฐานะเจ้าของพรรคเพื่อไทยที่ชี้เป็นชี้ตายว่าพรรคจะเดินไปในทิศทางไหนตามที่เขาต้องการ ก่อนหน้าที่ยิ่งลักษณ์ลงเล่นการเมืองก็ใช้นโยบายทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำมาชูเป็นนโยบายในการหาเสียงจนชนะเลือกตั้ง โดยที่ กกต.ก็ไม่ได้นำพาอะไรเลย แล้วทักษิณก็บงการบริหารประเทศจากนอกประเทศโดยมียิ่งลักษณ์เป็นหุ่นเชิด ด้วยการท่องสคริปต์ที่มีคนเขียนมาให้

ตั้งแต่ทักษิณเคลื่อนไหวในกัมพูชาและมาถึงสิงคโปร์ในตอนหลังนั้น มันมีคำถามมากเหลือเกินว่า เราไม่ได้รับความเกรงอกเกรงใจจากชาติร่วมอาเซียนเลยหรือ ตอนนี้กัมพูชาหยุดไปแล้ว แต่สิงคโปร์กลับมีบทบาทมากขึ้น ชวนให้คิดว่า ถ้าเขามองว่าข้อกล่าวหาทุจริตจากศาลไทยนั้นไม่เป็นสากลไม่ได้รับการยอมรับ แล้วมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง ก็แสดงว่า ทักษิณและแม้กระทั่งยิ่งลักษณ์ก็คือ ศัตรูของอำนาจรัฐไทยในปัจจุบันซึ่งเป็นมิตรประเทศกับสิงคโปร์ ทำไมสิงคโปร์ถึงยอมให้ทักษิณเข้ามาใช้ประเทศของตัวเองเพื่อเคลื่อนไหวการเมืองโดยไม่เกรงใจรัฐไทยเลย

สมมติว่า ถ้ามีนักโทษการเมืองของสิงคโปร์มีปัญหากับรัฐบาลของประเทศสิงคโปร์ เป็นปรปักษ์ต่ออำนาจรัฐสิงคโปร์ แล้วหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย หรือมาใช้ไทยเคลื่อนไหวการเมืองเพื่อเป็นปรปักษ์กับอำนาจรัฐสิงคโปร์อย่างโจ่งแจ้ง คิดว่าไทยในฐานะมิตรประเทศของสิงคโปร์จะยอมให้ทำไหม และสิงคโปร์จะมีปัญหากับรัฐไทยไหม ผมว่ามีแน่ๆ แต่นี่รัฐบาลไทยไม่กล้าเคลื่อนไหวอะไรที่จะตอบโต้หรือแม้แต่ทักท้วงสิงคโปร์เลย

รวมถึงทุกประเทศทั่วโลกที่ทักษิณเข้าไปเคลื่อนไหวไม่ว่าจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ ฯลฯ เราก็ไม่กล้าแสดงปฏิกิริยาอะไรให้เขาเห็นว่า เขากำลังละเมิดศักดิ์ศรีของชาติเราแล้วปล่อยให้ใช้แผ่นดินของเขามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องภายในของเรา แม้แต่สิงคโปร์ชาติร่วมอาเซียนของเราแท้ๆ ก็ยังไม่เกรงใจเราเลย

ถ้าบอกว่าสิงคโปร์เป็นประเทศประชาธิปไตย เคารพเสรีภาพและการแสดงออกทางการเมือง ก็ยิ่งตลก ไปถามคนสิงคโปร์สิครับว่า เขามีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองไหม นอกจากคนสิงคโปร์ไม่มีเสรีภาพในทางการเมืองแล้วจะถูกกำหนดทิศทางในการดำเนินชีวิต จำกัดสิทธิเสรีภาพในการเลือก และการแสดงออกต่างๆ แบบคุณพ่อตัวดีในเกือบทุกด้าน

สื่อมวลชนในสิงคโปร์ก็ไม่มีเสรีภาพเทียบกับสมัยรัฐบาลทหารของไทยตอนนี้ยังไม่ได้ถูกจำกัดเสรีภาพทางการเมืองอย่างมาก นักวิชาการในมหาวิทยาลัยถ้าออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลก็จะถูกจับกุม แม้สิงคโปร์จะมีการเลือกตั้งมีพรรคการเมืองหลายพรรค ก็ถูกรัฐบาลสิงคโปร์ปรับเปลี่ยนกลไกการเลือกตั้งให้ได้เปรียบ หรือใช้กลวิธีนอกกฎหมาย เพื่อจัดการกับนักการเมืองฝ่ายค้าน จนยากที่พรรคไหนจะเอาชนะพรรคของรัฐบาลที่ผูกขาดเป็นเสียงข้างมากจากการสร้างชาติขึ้นมาเมื่อไม่กี่สิบปีได้

ดังนั้น สิงคโปร์จะอ้างไม่ได้เลยว่า การเปิดให้ทักษิณเข้ามาใช้ประเทศของตัวเองเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมืองเพราะสิงคโปร์เป็นชาติประชาธิปไตย เคารพต่อสิทธิเสรีภาพ

แต่นั่นแหละด้านหนึ่งมันก็สะท้อนความไร้น้ำยาของรัฐไทยและรัฐบาลไทยด้วย ที่ไม่กล้าแสดงจุดยืนออกมา การพิจารณาโทษของทักษิณนั้นทำโดยอำนาจอธิปไตยของไทย เราต้องเชื่อมั่นว่า การตัดสินนั้นทำไปด้วยความถูกต้องยุติธรรม ถ้าชาติไหนปกป้องนักโทษที่หนีคดีให้เข้ามาเคลื่อนไหวในประเทศตัวเอง เราก็ควรจะทักท้วงประท้วงหรือแสดงออกถึงความไม่พอใจออกมา แต่อำนาจรัฐไทยก็แสดงความบ้อท่าไม่ได้เรื่องมาตลอด กระทรวงการต่างประเทศก็นิ่งเฉยทั้งๆ ที่เรียนรู้กันมาตลอดว่า การประพฤติปฏิบัติต่อกันอย่างไรจึงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง และแบบไหนชาติที่เป็นมิตรประเทศไม่ควรกระทำให้กระทบกระเทือนกัน

ไม่หวงแหนและไม่ปกป้องศักดิ์ศรีของชาติตัวเองทั้งที่เป็นหน้าที่ที่ต้องกระทำ ผมได้ยินข้ออ้างว่า ตำรวจยังแปลคำพิพากษาของทักษิณและยิ่งลักษณ์เพื่อส่งให้ประเทศต่างๆไม่เสร็จ จนแทบจะคิดว่านี่เป็นมุกตลกหม่ำเท่งโหน่งไปแล้ว

ควรจะต้องทำอย่างไรกับสิงคโปร์และชาติที่ปล่อยให้ปรปักษ์ของรัฐเข้ามาเคลื่อนไหวทางการเมืองไม่ใช่คนถืออำนาจรัฐไม่รู้หรอก แต่คงคิดว่าชาติของตัวเองไม่มีศักดิ์ศรีมากกว่ากระมัง

ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan


กำลังโหลดความคิดเห็น