xs
xsm
sm
md
lg

ได้เวลาเปิดเข่งไปดูโลก (เกาหลีเหนือ)

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท


วันนี้...คงได้เวลาเปิดฝาเข่งออกไปดูโลก ดูต่างประเทศ พร้อมๆ ถือโอกาสถอนหายใจจากเรื่องปูหนีบ ปูหนี ในบ้านเราได้มั่ง เพราะลากกันมาเกือบสัปดาห์เข้าไปแล้ว ก็ยังจับมือใครดมไม่ได้ถนัดถนี่ซักเท่าไหร่ แถมบรรดาพวกที่ “รักปู” ยังพร้อมจะแหกทวารดม ทั้งๆ ที่หนีๆ ทิ้งใครต่อใครให้ต้อง “คุก-คุก-คุก” โดยไม่รู้สึก รู้สา ไม่เหลือหัวจิต หัวใจ อยู่ในกระดองปูเอาเลยแม้แต่น้อย...

เหตุที่ต้องเปิดฝาเข่งออกไปดู...ก็อย่างที่พอรู้ๆ ไปแล้วนั่นแหละทั่น ว่าหลังจากที่กั๊กไป-กั๊กมา ไม่กี่กั๊ก ยังไม่ถึง “แบน” ด้วยซ้ำ เจ้าของทรงผมทรมานใจแม่ “คิมน้อย”แห่งเกาหลีเหนือ ก็ตัดสินใจส่งขีปนาวุธฮวาซอง-12 หรือ 13 ก็แล้วแต่ ข้ามน้ำ ข้ามฟ้าและข้ามประเทศ จากจุดหนึ่งจุดใดในแผ่นดินเกาหลีไปตกอยู่แถวๆ ริมฝั่งเกาะฮอกไกโด ของคุณพี่ยุ่นปี่ ห่างจากฝั่งไปประมาณ 700 ไมล์เท่านั้นเอง การยิงจรวด หรือการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือคราวนี้ ต้องถือว่า...แสดงออกถึง “นัยสำคัญ” ไม่น้อย คือไม่เพียงแต่พุ่งขึ้นไปในพิกัดระดับความสูงประมาณ 500 กิโลเมตรบนฟากฟ้า ยังมีระยะเดินทาง ร่อนไป ร่อนมา ไม่ต่ำกว่า 2,700 กิโลเมตร จัดอยู่ในระดับขีปนาวุธพิสัยกลาง พิสัยไกล แสดงขีดความสามารถมากพอที่จะส่งไปหล่นปุแถวๆ ริมฝั่งเกาะกวม ฐานทัพสหรัฐฯ ได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์...

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น...ยังถือเป็นการ “ยิงข้ามหัว” หรือข้ามน่านฟ้าที่อยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของคุณพี่ยุ่นปี่ เค้าอีกด้วย คือข้ามเกาะฮอกไกโดทั้งเกาะ ไปตกอยู่ในฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกโน่นเลย ไม่เพียงถือเป็นการ “ยกตีนลูบหน้า” หนักซะยิ่งกว่านักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทยยกตีนสั่งสอนเทควันโดทีมชาติเสือเหลืองมาเลเซียเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการแสดงให้เห็นว่าโอกาสที่จะ “ฉิบหายกันไปทั้งบาง” ทั้งอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ที่ถือเป็นฝ่ายตรงข้ามกับ “คิมน้อย” มาโดยตลอด ย่อมเป็นไปได้สูงเอามากๆ ถ้าหากยังคิดจะสร้างความเปรี้ยวเท้า เปรี้ยวส้นตีน ให้กับเกาหลีเหนืออีกต่อไป...

เมื่อเจอกับการ “ยกตีนลูบหน้า” ในแบบจะจะแจ้งๆ เช่นนี้...ไม่ว่าใครก็เถอะ จะไปเอามือซุกหีบเงียบๆ เฉยๆ ย่อมเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วแน่ๆ เจ้าของทรงผมเพิงหมาแหงนอย่าง “ทรัมป์บ้า” จึงต้องออกมาป่าวประกาศชนิดเป็น “แถลงการณ์” ไม่ใช่แค่การทวิตโน่นทวิตนี่ ไปตามความเอนจอยปากของตัวเอง ดังนั้น...แม้ว่าโดยถ้อยคำอาจไม่ถึงกับรุนแรงเท่ากับ “Fire and Fury” หรือ “Locked and Loaded” แบบเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ด้วยคำว่า “All Options on the Table” หรือทุกๆ ทางเลือก รวมทั้ง “ทางเลือกทางทหาร” ต่อการจัดการปัญหาเกาหลีเหนือ ยังวางเอาไว้บนโต๊ะทุกเมื่อ อันนี้...เผลอๆ น่ากลัว น่าขนลุกขนพองกว่าวาทะโวหาร ที่ว่าไปอารมณ์ส่วนตัวหลายต่อหลายเท่า ส่วนเกาหลีใต้ก็เช่นกัน...ย่อมมิอาจอยู่เฉยๆ ต่อไปได้อีกต้องหันมาอวดโชว์แสนยานุภาพของตัวเองเอาไว้มั่ง ด้วยการส่งเครื่องบินต่อสู้ F-15K ออกไปทดลองทิ้งระเบิด Mark 84 ระหว่างการซ้อมรบถึง 8 ลูกซ้อนๆ แถวๆ พรมแดนเกาหลีเหนือ เช่นเดียวกับญี่ปุ่น ที่ประกาศเตรียมมาตรการตอบโต้เอาไว้อีกไม่นานนับจากนี้...

ด้วยเหตุนี้...จึงถือเป็นเรื่องไม่แปลกที่ “ตลาดหุ้น” ทั่วโลก เลยต้องปักหัวดิ่ง อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนีตกไป 1.7 เปอร์เซ็นต์ ญี่ปุ่น 0.45 ฮ่องกง 0.35 เซี่ยงไฮ้ 0.08 ดาวโจนส์ 0.41 ตามลำดับ ยกเว้น “ตลาดหุ้นไทย” ประเทศเดียวในโลกที่ดันสวนควันปืนทะยานขึ้นไปถึง 1.79 เปอร์เซ็นต์ ด้วยอานิสงส์จากกรณี “ปูหนี” ว่าซั่น!!! ส่วนสินทรัพย์ที่ไม่ค่อยมีความเสี่ยงอย่าง “ทองคำ” ก็เลยเด้งพรวดไปอีก 0.84 เปอร์เซ็นต์ ปิดราคาขายที่ 1,326 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อช่วงวันอังคารที่ผ่านมา หรือหลังจากรับทราบเรื่อง “คิมน้อย” ยิงจรวด ขัดจรวด เป็นที่เรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว...

ส่วนเหตุที่ “คิมน้อย” ไม่คิดจะกั๊กไป-กั๊กมาอีกต่อไป อันนี้...จะไปโทษ “ความบ้า” ล้วนๆ คงมิได้ เพราะอย่างที่เคยว่าเอาไว้แล้วนั่นแหละว่า ด้วยเหตุเพราะ “เชื้อบ้า”นั้นมันย่อมมีที่มา-ที่ไป ไม่ใช่แค่จู่ๆ ก็บ้าขึ้นมาเฉยๆ หรือเพราะปฏิบัติการซ้อมรบ “Ulchi-Freedom Guardian” ของคุณพ่ออเมริกาและเกาหลีใต้นั่นเอง ที่ทำให้เกาหลีเหนือเขาเริ่มบ้ามาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1976 และยิ่งบ้าหนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2012 ถึงขั้นต้องออกมาประท้วงอย่างเป็นทางการไม่รู้จะกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง และแม้แต่ครั้งนี้ เขาก็ได้เตือนเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่า...ในเมื่อไม่มีใครสามารถรับประกันการันตีได้เลย ว่า “การซ้อมรบ” ที่แสดงถึงเจตจำนงมุ่งที่จะเล่นงานเกาหลีเหนือมาโดยตลอด จะกลายเป็นการ “รบจริง” ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ เขาก็เลยต้องโชว์แสนยานุภาพ หรือต้องอวดกล้าม โชว์กล้าม ให้ฝ่ายตรงข้ามแหยงๆ เอาไว้ก่อน...

สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี เมื่อมาถึง ณ จุดๆ นี้...ก็จึงน่าจะเป็นไปอย่างที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน “นางHua Chunying” เธอได้ออกมาสรุปเอาไว้นั่นแหละว่า ได้มาถึง “จุดเปลี่ยนสำคัญ” ที่อาจเปลี่ยนไปสู่ “วิกฤต” เมื่อไหร่ก็ย่อมได้ แต่ขณะเดียวกันก็อาจเปลี่ยนไปสู่ “สันติภาพ” ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับโลกทั้งโลกจะมองลึกลงไปถึง “เหตุปัจจัย” ได้มากน้อยขนาดไหน หรือมองอย่างที่จีนและรัสเซียได้เสนอเป็น “ทางออก” เอาไว้แล้วล่วงหน้านั่นแหละว่า ขณะที่เกาหลีเหนือต้องยุติการทดสอบขีปนาวุธโดยสิ้นเชิง อเมริกาและเกาหลีใต้จะต้องเลิกปฏิบัติการซ้อมรบโดยสิ้นเชิงเฉกเช่นกันและเมื่อนั้น...ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมสามารถหวนกลับไปสู่ “โต๊ะเจรจา” ได้เสมอๆ ซึ่งการมีโอกาสหวนกลับสู่โต๊ะเจรจาได้อีกครั้ง อย่างน้อย...ก็อาจพอช่วยๆ ให้ไม่ต้องมี “แมลงเม่า” รายใดต้องบาดเจ็บ ล้มตาย เพราะ “หุ้นตก-ทองขึ้น” อีกต่อไป...
กำลังโหลดความคิดเห็น