วานนี้ (21 มิ.ย.) สภาวิศวกรและสภาสถาปนิก ออกแถลงการณ์ร่วมกรณีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เรื่อง มาตรการเร่งรัดและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพ โดย ศ.ดร.อมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร กล่าวว่า คำสั่งมาตรา 44 เรื่องรถไฟไทย-จีน มี 2 เรื่องคือใบอนุญาต ซึ่งสภาวิศวกรไทยเคยออกให้วิศวกรต่างชาติมาแล้ว 80 ใบ และเรื่องการถ่ายโอนเทคโนโลยี
จากคำสั่งม.44 มี 5 ประเด็น คือ 1. ยกเว้นไม่ต้องขอรับใบอนุญาต ได้แก่ งานออกแบบรายละเอียดโครงสร้างพื้นฐานด้านโยธา,งานที่ปรึกษาควบคุมงานการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านโยธา,งานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากร 2. รัฐวิสาหกิจและบุคลากรของรัฐวิสาหกิจนั้นที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลจีน 3. บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล 4. ยกเว้น พ.ร.บ. วิศวกร พ.ศ. 2542 และพ.ร.บ.สถาปนิก พ.ศ. 2543 มาตรา 45 ,47,49 ข้อ 5. ให้กระทรวงคมนาคมประสานให้ 2 สภาจัดให้มีหลักสูตรฝึกอบรมและทดสอบแก่บุคลากรจีนตามความเหมาะสม
ในโครงการรถไฟไทย-จีน มีงานที่สภาวิศวกรต้องออกใบอนุญาต 3 ส่วนคือ งานออกแบบและคำนวณ (Design) งานก่อสร้าง (Construction) งานที่ปรึกษาควบคุมการก่อสร้าง (Supervision) แต่คำสั่งม.44 ให้ยกเว้นเรื่องออกแบบและควบคุมงาน ไม่เกี่ยวกับการก่อสร้าง เมื่อยกเว้นใบอนุญาต ทางสภาวิศวกร จะใช้แนวทางการออกใบรับรอง โดยอาศัยมาตรา 8 (4) รับรองความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ซึ่งอบรม 2 เรื่องหลัก คือด้านเทคนิค องค์ความรู้พื้นฐาน ปฐมพีวิทยา โครงสร้างชั้นใต้ดิน สภาพภูมิศาสตร์ อากาศ สภาพพื้นดิน ของไทยที่มีความแตกต่างกับจีน เพื่อออกแบบโครงสร้างให้รองรับได้อย่างถูกต้อง และด้านกฎหมาย จรรยาบรรณ และความปลอดภัยและหลักจรรยาบรรณ
***ยันสถาปนิกจีน ต้องรับผิดแพ่ง-อาญากรณีเกิดเหตุ
อย่างไรก็ตามการที่วิศวกรและสถาปนิกจีนได้รับยกเว้นใบอนุญาตวิชาชีพ ซึ่งเป็นเรื่องของความรับผิดชอบทางจรรยาบรรณ กรณีเกิดเหตุจากโครงการ โทษสูงสุดคือ เพิกถอนใบอนุญาต แต่ในคำสั่งม.44 ไม่ได้ยกเว้นความผิดทางแพ่งและอาญา ซึ่งเป็นพันธะผูกพันทางสัญญา ดังนั้นหากมีเหตุเกิดขึ้น วิศวกรและสถาปนิกจีนต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย และความรับผิดชอบของผู้ออกแบบจะอยู่ติดกับโครงการตลอดไป ไม่สามารถปฏิเสธได้
นอกจากนี้ จากการตีความเห็นว่าวิศวกรจีนจะต้องผ่านการทดสอบและได้ใบรับรองก่อนที่จะเริ่มทำงาน เพราะเป็นความสบายของสังคม ซึ่งทาง 2 สภา จะหารือกับกฤษฎีกาเพื่อตีความเรื่องนี้ให้ชัดเจน ประเด็นสำคัญคือ ใบรับรองนี้จะใช้ได้เฉพาะกับโครงการรถไฟไทย-จีนเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้กับโครงการอื่นได้
*** "มาร์ค"เตือน"บิ๊กตู่" เป้าหมายเปลี่ยนไป
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า โครงการรถไฟความเร็วสูง เป็นความร่วมมือในระดับภูมิภาค เชื่อมโยงกับหลายประเทศ ตั้งแต่ตอนใต้ของประเทศจีน ลาว มาเลเซีย และ สิงคโปร์ ดังนั้นที่ผ่านมาจึงเป็นการร่วมทุน แต่พอมาเป็นรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คิดว่าเป็นโครงการของรถไทย ทุกอย่างเลยผิดไปหมด เริ่มตั้งแต่เส้นทาง แทนที่จะเน้นการเชื่อมโยงกับของจีน ก็ไปเป็น กรุงเทพฯ-โคราช แถมทำไปทำมา เป็นระยะทางเพียง 3 กิโลครึ่ง
เมื่อถามว่า เรือดำน้ำรัฐบาลไทยซื้อจากจีน รถถังก็จีน รถไฟความเร็วสูงก็ยังจะให้จีนเป็นคนสร้างอีก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความใกล้ชิดระหว่างจีนกับรัฐบาลไทยในปัจจุบันนี้ต้องเข้าใจว่า ภายใต้เงื่อนไขหลังรัฐประหารมา ฝ่ายตะวันตกก็ทำตัวห่างเหินจากเรา และอาจจะมาเปลี่ยนแปลงตอน โดนัลด์ ทรัมป์ แต่ก็ยังไม่ชัดเจน ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในลักษณะใด อย่างไร เพราะฉะนั้นความใกล้ชิดตรงนี้ คงจะมีมากขึ้น จีนเองก็มียุทธศาสตร์เชิงรุกชัดเจน โดยมีความร่วมมือขยายบทบาทของเขาในภูมิภาค ดังนั้น ไทยต้องอยู่บนความพอดี เพราะเราเป็นมิตรทั้งจีน สหรัฐฯ และอีกหลายประเทศในตะวันตก ความพอดี คือ คงจะไปเอียงสุดโต่งไปทางใดทางหนึ่งนั้นคงไม่เหมาะ ตอนนี้เห็นได้ชัดว่า เราใกล้กับทางจีนมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องคิดต่อไปว่า จะเสียสมดุลหรือไม่
จากคำสั่งม.44 มี 5 ประเด็น คือ 1. ยกเว้นไม่ต้องขอรับใบอนุญาต ได้แก่ งานออกแบบรายละเอียดโครงสร้างพื้นฐานด้านโยธา,งานที่ปรึกษาควบคุมงานการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านโยธา,งานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากร 2. รัฐวิสาหกิจและบุคลากรของรัฐวิสาหกิจนั้นที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลจีน 3. บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล 4. ยกเว้น พ.ร.บ. วิศวกร พ.ศ. 2542 และพ.ร.บ.สถาปนิก พ.ศ. 2543 มาตรา 45 ,47,49 ข้อ 5. ให้กระทรวงคมนาคมประสานให้ 2 สภาจัดให้มีหลักสูตรฝึกอบรมและทดสอบแก่บุคลากรจีนตามความเหมาะสม
ในโครงการรถไฟไทย-จีน มีงานที่สภาวิศวกรต้องออกใบอนุญาต 3 ส่วนคือ งานออกแบบและคำนวณ (Design) งานก่อสร้าง (Construction) งานที่ปรึกษาควบคุมการก่อสร้าง (Supervision) แต่คำสั่งม.44 ให้ยกเว้นเรื่องออกแบบและควบคุมงาน ไม่เกี่ยวกับการก่อสร้าง เมื่อยกเว้นใบอนุญาต ทางสภาวิศวกร จะใช้แนวทางการออกใบรับรอง โดยอาศัยมาตรา 8 (4) รับรองความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ซึ่งอบรม 2 เรื่องหลัก คือด้านเทคนิค องค์ความรู้พื้นฐาน ปฐมพีวิทยา โครงสร้างชั้นใต้ดิน สภาพภูมิศาสตร์ อากาศ สภาพพื้นดิน ของไทยที่มีความแตกต่างกับจีน เพื่อออกแบบโครงสร้างให้รองรับได้อย่างถูกต้อง และด้านกฎหมาย จรรยาบรรณ และความปลอดภัยและหลักจรรยาบรรณ
***ยันสถาปนิกจีน ต้องรับผิดแพ่ง-อาญากรณีเกิดเหตุ
อย่างไรก็ตามการที่วิศวกรและสถาปนิกจีนได้รับยกเว้นใบอนุญาตวิชาชีพ ซึ่งเป็นเรื่องของความรับผิดชอบทางจรรยาบรรณ กรณีเกิดเหตุจากโครงการ โทษสูงสุดคือ เพิกถอนใบอนุญาต แต่ในคำสั่งม.44 ไม่ได้ยกเว้นความผิดทางแพ่งและอาญา ซึ่งเป็นพันธะผูกพันทางสัญญา ดังนั้นหากมีเหตุเกิดขึ้น วิศวกรและสถาปนิกจีนต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย และความรับผิดชอบของผู้ออกแบบจะอยู่ติดกับโครงการตลอดไป ไม่สามารถปฏิเสธได้
นอกจากนี้ จากการตีความเห็นว่าวิศวกรจีนจะต้องผ่านการทดสอบและได้ใบรับรองก่อนที่จะเริ่มทำงาน เพราะเป็นความสบายของสังคม ซึ่งทาง 2 สภา จะหารือกับกฤษฎีกาเพื่อตีความเรื่องนี้ให้ชัดเจน ประเด็นสำคัญคือ ใบรับรองนี้จะใช้ได้เฉพาะกับโครงการรถไฟไทย-จีนเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้กับโครงการอื่นได้
*** "มาร์ค"เตือน"บิ๊กตู่" เป้าหมายเปลี่ยนไป
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า โครงการรถไฟความเร็วสูง เป็นความร่วมมือในระดับภูมิภาค เชื่อมโยงกับหลายประเทศ ตั้งแต่ตอนใต้ของประเทศจีน ลาว มาเลเซีย และ สิงคโปร์ ดังนั้นที่ผ่านมาจึงเป็นการร่วมทุน แต่พอมาเป็นรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คิดว่าเป็นโครงการของรถไทย ทุกอย่างเลยผิดไปหมด เริ่มตั้งแต่เส้นทาง แทนที่จะเน้นการเชื่อมโยงกับของจีน ก็ไปเป็น กรุงเทพฯ-โคราช แถมทำไปทำมา เป็นระยะทางเพียง 3 กิโลครึ่ง
เมื่อถามว่า เรือดำน้ำรัฐบาลไทยซื้อจากจีน รถถังก็จีน รถไฟความเร็วสูงก็ยังจะให้จีนเป็นคนสร้างอีก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความใกล้ชิดระหว่างจีนกับรัฐบาลไทยในปัจจุบันนี้ต้องเข้าใจว่า ภายใต้เงื่อนไขหลังรัฐประหารมา ฝ่ายตะวันตกก็ทำตัวห่างเหินจากเรา และอาจจะมาเปลี่ยนแปลงตอน โดนัลด์ ทรัมป์ แต่ก็ยังไม่ชัดเจน ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในลักษณะใด อย่างไร เพราะฉะนั้นความใกล้ชิดตรงนี้ คงจะมีมากขึ้น จีนเองก็มียุทธศาสตร์เชิงรุกชัดเจน โดยมีความร่วมมือขยายบทบาทของเขาในภูมิภาค ดังนั้น ไทยต้องอยู่บนความพอดี เพราะเราเป็นมิตรทั้งจีน สหรัฐฯ และอีกหลายประเทศในตะวันตก ความพอดี คือ คงจะไปเอียงสุดโต่งไปทางใดทางหนึ่งนั้นคงไม่เหมาะ ตอนนี้เห็นได้ชัดว่า เราใกล้กับทางจีนมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องคิดต่อไปว่า จะเสียสมดุลหรือไม่