สภาวิศวกรและสภาสถาปนิกร่วมกันแถลงข่าวกรณีการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทยจีน เส้นทางกรุงเทพ –นครราชสีมา โดย ศ.อมร พิมานมาศ เลขาสภาวิศวกร เปิดเผยว่า แม้รัฐบาลจะเปิดช่องให้วิศวกรจีนเข้ามาก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงครั้งนี้โดยไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาต แต่ประเด็นนี้ครอบคลุมเฉพาะการออกแบบและที่ปรึกษาควบคุมการก่อสร้างแต่ไม่ได้รวมถึงการก่อสร้าง และการยกเว้นดังกล่าวไม่ได้ครอบคลุมถึงการทดสอบความรู้ความชำนาญในการทำงาน นั่นหมายความว่าวิศวกรที่จะเข้ามาทำงานในไทยตามโครงการนี้จะต้องเข้ารับการทดลองทั้งเชิงเทคนิคการก่อสร้างกฎหมายความคุมความปลอดภัย
ขณะที่องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับสภาพชั้นดิน ภูมิอากาศ รวมถึงการประเมินก่อนการก่อสร้างให้รองรับหากเกิดภัยพิบัติขึ้นและจรรยาบรรณของวิชาชีพ ซึ่งหลังจากนี้สภาวิศวกรและสภาสถาปนิกจะพยายามผลักดันข้อเสนอว่า วิศวกรจีนที่จะเข้าทำในไทยจะต้องผ่านการอบรมดังกล่าวก่อน โดยจะหารือกับสำนักงานกฤษฎีกาเพื่อให้ตีความในประเด็นนี้และจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน โดยยืนยันว่าแม้จะยกเว้นใบอนุญาตแต่ไม่ได้ยกเว้นการดำเนินคดีทางแพ่งและอาญาในกรณีที่หากเกิดความผิดพลาดก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไทย
ทั้งนี้ นายกสภาวิศวกรกล่าวต่อว่า การที่ไทยเปิดให้จีนเข้ามาก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง ไทยจะได้รับการถ่ายโอนเทคโนโลยีจากจีนเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในเรื่องอื่นได้ ซึ่งสภาวิศวกรและสภาสถาปนิกจะผลักดันให้มีการจัดทำวิจัยและแผนพัฒนาการนำเทคโนโลยีและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้จากจีนโดยตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหนึ่งชุด ส่วนการผลักดันให้วิศวกรไทยเข้าร่วมการก่อสร้างด้วย ล่าสุด ทางจีนยินยอมในประเด็นนี้แล้วแต่ยังไม่ขอเปิดเผยสัดส่วนเนื่องจากยังต้องหารือในรายละเอียด
ขณะที่องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับสภาพชั้นดิน ภูมิอากาศ รวมถึงการประเมินก่อนการก่อสร้างให้รองรับหากเกิดภัยพิบัติขึ้นและจรรยาบรรณของวิชาชีพ ซึ่งหลังจากนี้สภาวิศวกรและสภาสถาปนิกจะพยายามผลักดันข้อเสนอว่า วิศวกรจีนที่จะเข้าทำในไทยจะต้องผ่านการอบรมดังกล่าวก่อน โดยจะหารือกับสำนักงานกฤษฎีกาเพื่อให้ตีความในประเด็นนี้และจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน โดยยืนยันว่าแม้จะยกเว้นใบอนุญาตแต่ไม่ได้ยกเว้นการดำเนินคดีทางแพ่งและอาญาในกรณีที่หากเกิดความผิดพลาดก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไทย
ทั้งนี้ นายกสภาวิศวกรกล่าวต่อว่า การที่ไทยเปิดให้จีนเข้ามาก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง ไทยจะได้รับการถ่ายโอนเทคโนโลยีจากจีนเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในเรื่องอื่นได้ ซึ่งสภาวิศวกรและสภาสถาปนิกจะผลักดันให้มีการจัดทำวิจัยและแผนพัฒนาการนำเทคโนโลยีและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้จากจีนโดยตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหนึ่งชุด ส่วนการผลักดันให้วิศวกรไทยเข้าร่วมการก่อสร้างด้วย ล่าสุด ทางจีนยินยอมในประเด็นนี้แล้วแต่ยังไม่ขอเปิดเผยสัดส่วนเนื่องจากยังต้องหารือในรายละเอียด