xs
xsm
sm
md
lg

‘ตึกนรก’ ชานกรุงลอนดอน!

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์


ช่วง 40 กว่าปีก่อนมีหนังฮอลลีวูดฟอร์มใหญ่เข้ามาฉายโกยเงินไปไม่น้อย นั่นคือ “ตึกนรก” หรือ “The Towering Inferno” นำแสดงโดยพระเอกดัง สตีฟ แม็คควีน ซึ่งวายชนม์ไปแล้ว ได้สร้างความกังวลให้ผู้อยู่อาศัยด้านความเสี่ยงอันตรายจากไฟไหม้บนตึกระฟ้า

“ตึกนรก” ครั้งแรกฉายในปี 1974 มีการสร้างใหม่ในปี 2011 แต่ยังตื่นเต้นสู้ไม่ได้ แม้กระนั้นคนก็ยังมองว่าเป็นเพียงในหนัง เทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้การสร้างอาคารสูงระยะหลังๆ มีความปลอดภัย มีระบบพร้อมรับกับอัคคีภัยและแผ่นดินไหว คนซื้ออุ่นใจ

ยุคนั้นกรุงเทพฯ ยังไม่มีอาคารสูงมากเหมือนปัจจุบัน มีเพียงตึกโชคชัย โรงแรมดุสิตธานี อพาร์ตเมนต์หลายแห่ง แต่สมัยนี้มีอาคารสูงเกลื่อนเมืองหลวงจำนวน 50-60 ชั้นเป็นเรื่องปกติ สูงที่สุดคืออาคารใบหยก อีกไม่นานจะมีอาคารทาวเวอร์สูงกว่านั้นอีกเยอะ

กรุงเทพฯ ยังไม่มีปัญหาไฟไหม้ร้ายแรงมีผู้เสียชีวิตมาก ด้วยเหตุนี้จึงยังมีการก่อสร้างอาคารมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีคำเตือนว่าขีดความสามารถในการดับเพลิงของหน่วยงานดับเพลิงจะทำได้สูงเพียง 8-10 ชั้น ตามระดับความสูงของรถกระเช้าเท่านั้น

ส่วนอื่นที่จะช่วยได้คือการใช้เฮลิคอปเตอร์บินฉีดสารเคมีในการดับไฟ นอกจากการช่วยอพยพผู้คนจากดาดฟ้า ถ้าลงจอดได้หรือชั้นที่สูงขึ้นไปไฟยังไหม้ไม่ถึง หรือไม่ลุกลามเพราะมีระบบสปริงเกอร์ฉีดน้ำในทุกห้อง มีเพียงพอที่จะสกัดไม่ให้ลามไปสู่ชั้นอื่นๆ

ก่อนหน้านี้เคยมีไฟไหม้อาคารสูงในกรุงเทพฯ แต่ไม่มีผู้เสียชีวิตมาก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ยังมีคำเตือนซ้ำๆ ว่ารถกระเช้าไม่สามารถทำอะไรได้ถ้าเกิดไฟไหม้สูงกว่า 10 ชั้น และกรุงเทพฯ มีอาคาร 30-40 ชั้นอยู่แทบทุกเขตกลางเมือง

เราได้เห็น “ตึกนรก” ของจริง ทีวีถ่ายทอดสดหลายชั่วโมงเมื่อเพลิงโหมเผา “เกรนเฟลล์ ทาวเวอร์” ตึกอายุ 31 ปี ย่านนอร์ธ เคนซิงตัน ด้านตะวันตกของกรุงลอนดอน ไหม้จากชั้น 2 ของตึกสูง 27 ชั้น เจ้าหน้าที่ดับเพลิง 200 คน รถดับเพลิง 40 คันก็เอาไม่อยู่

ไหม้หลายชั่วโมงในเวลาย่ำรุ่งของวันพุธของกรุงลอนดอน เหลือแต่ซากอาคาร สิ้นสภาพที่จะใช้การได้ รอวันทุบทิ้งหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ตรวจซากหาจำนวนผู้เสียชีวิต จะหาได้หรือไม่เพราะไฟไหม้รุนแรงขนาดนั้น อาจเหลือเพียงขี้เถ้าและโครงกระดูกบางส่วน

เป็นภาพที่น่าสยดสยองมากเมื่อมีคนหนีตายกระโดดลงจากอาคาร หลังจากทนความร้อนไม่ได้ และเห็นอยู่ว่าไม่มีใครช่วยได้ เสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือเป็นภาพที่น่าสังเวช เจ้าหน้าที่ดับเพลิงหมดปัญญาที่จะทำอะไรได้ เพราะรถกระเช้าฉีดน้ำสูงไม่ถึง

เห็นกันอยู่ว่าเพลิงลุกท่วมตึก แต่ไม่มีใครทำอะไรได้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่กล้าเข้าใกล้มากนักเพราะไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าอาคารจะถล่มลงมา เมื่อโครงสร้างอาคารถูกไฟทำลายจนไม่เหลือความแข็งแรง ระดมรถดับเพลิงมาเท่าไหร่ก็สู้การลุกของไฟไม่ได้

ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าไฟลุกไหม้เร็วมาก จากชั้น 2 ไล่ขึ้นไป และดูเหมือนว่าระบบสปริงเกอร์ฉีดน้ำไม่ทำงาน หรือเป็นเพราะไม่มีน้ำ ระบบเสียหาย ยังต้องรอการสืบสวนโดยผู้เชี่ยวชาญ ผู้อยู่ในอาคารได้แสดงความเป็นห่วงก่อนหน้านี้ด้านความปลอดภัย

ทั้งอาคารมีผู้อยู่อาศัย 125 ครอบครัว ต่างก็สิ้นไร้ไม้ตอก ทรัพย์สินไหม้ไม่เหลือ ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร การประกันภัยจะมีชดเชยให้หรือไม่ รวมทั้งต้องหาที่อยู่ใหม่ ต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งเครื่องนุ่งห่ม จึงเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ คงเหลือเพียงเงินในธนาคาร

“เกรนเฟลล์ ทาวเวอร์” มักมีการปรับปรุงซ่อมบำรุงหลายครั้ง มีเศษวัสดุก่อสร้างกองระเกะระกะอยู่ทั่วไป และเป็นเชื้อไฟอย่างดี คงเป็นเพราะเหตุนี้จึงทำให้ไฟลุกลามได้เร็ว คนอยู่อาศัยมีโอกาสน้อยที่จะหนีได้ทันเพราะไฟดักไว้ในชั้น 2 เว้นแต่จะลงบันไดหนีไฟ

สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ทำงานได้ไม่สะดวกเพราะอาคารได้ถูกหุ้มด้วยแผ่นวัสดุเพื่อป้องกันเศษอิฐปูนร่วงและฝุ่นละอองฟุ้งกระจายสร้างปัญหาในบริเวณใกล้เคียง ทำให้เป็นเชื้อไฟอย่างดี และยากสำหรับเจ้าหน้าที่ในความพยายามควบคุมการลุกลามของไฟ

ผู้รอดชีวิตรายหนึ่งบอกว่า ถ้าไม่มีแผ่นวัสดุห่อหุ้มอาคาร เจ้าหน้าที่คงทำงานดับเพลิงได้ดีกว่า การฉีดน้ำจากภายนอกอาคารทำได้ไม่ดี น้ำไม่สามารถเข้าไปข้างในได้

อาคารนี้อยู่ท่ามกลางชุมชนผู้อาศัยซึ่งเป็นชาวมุสลิม โชคยังดีที่ผู้อยู่ในตึกตื่นนอนเพื่อเตรียมทานอาหารเช้าเร็วเพราะอยู่ในช่วงการถือศีลอด ทำให้หลายคนรอดพ้นจากไฟเพราะหนีออกมาทัน แต่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถขนทรัพย์สินออกมาได้ แค่เอาตัวให้รอด

มีรายหนึ่งยังไม่หลับ ได้ยินเสียงตะโกนว่า “ไฟมาแล้ว” ก็ทำให้แค่คว้าลูกสาวตัวเล็กเผ่นลงตามบันไดหนีไฟ ไม่มีทรัพย์สินอะไรติดมือได้ และบอกว่าอาคารไม่มีระบบเตือนภัย ดังนั้น ผู้อยู่อาศัยไม่รับรู้ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ ถ้าไม่ใช่เทศกาลอดอาหารก็ต้องมีคนตายมาก

หลังจากไฟเริ่มดับ เจ้าหน้าที่พบศพเหยื่อเพลิง 12 ราย บาดเจ็บ 68 คน คาดว่ายังมีคนหายในกองเพลิงอีก เป็นหายนะทางอัคคีภัยครั้งใหญ่ของมหานครลอนดอน ผู้ที่รอดชีวิตโมโหหนักเพราะเจ้าหน้าที่ไม่ใส่ใจคำร้องเรียนให้ตรวจสอบความปลอดภัยของอาคาร

เห็นภาพ “ตึกนรก” ที่ลอนดอนแล้ว บ้านเราได้ล้อมคอกก่อนวัวหายหรือยัง?

กรุงเทพฯ มีจำนวนซอยมากกว่าถนนหนึ่งสายมีซอยเป็นร้อยๆ ซอยมีทั้งซอยหลัก ซอยสาขา ซอยย่อย แต่มีอาคารสูงหลาย 10 ชั้น อยู่ทั่วในซอยสองฟากของถนนสุขุมวิทกลางเมือง มีปัญหารถกระเช้าฉีดน้ำทำงานไม่ได้เต็มที่ รถจะเข้าไปไม่ถึงจุดไฟไหม้

ถึงเข้าไปได้ จะมีปัญหาในการยืดบันไดเพื่อให้สุดระดับ เพราะความแคบของพื้นที่ เคยเกิดปัญหาเช่นนี้มาแล้วเมื่อไฟไหม้ในซอยย่านสุขุมวิท รู้ปัญหาแล้ว จะจัดการอย่างไร

ก็ได้แต่ป้องกันและภาวนาว่าอย่าให้เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารสูงแบบนี้ในบ้านเรา
กำลังโหลดความคิดเห็น