เอเจนซีส์ - เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมกำลังกันในวันพฤหัสบดี (15 มิ.ย.) ค้นหาภายในซากอาคารที่พักอาศัยในลอนดอนที่ถูกเพลิงผลาญเมื่อตอนย่างเข้าวันใหม่วันพุธ (14) คาดยอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นจากที่พบล่าสุด 12 คน ขณะที่เริ่มมีเสียงโจษขานมากขึ้น ว่า การปรับปรุงอาคารด้านนอกอาจเป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรมนี้
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพยายามเข้าไปตรวจสอบค้นหาเพิ่มเติมภายในอาคาร เกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ แห่งนี้ ซึ่งเป็นอาคารอพาร์ตเมนต์ 24 ชั้น ในย่านนอร์ทเคนซิงตัน ทางตะวันตกของลอนดอน โดยมีห้องชุดอยู่ราว 120 ห้อง และเป็นที่พักอาศัยของผู้คนประมาณ 600 คน
แดนี คอตตอน ผู้บัญชาการกองดับเพลิงลอนดอน แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (15) ว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถขึ้นไปถึงชั้นบนสุดของอาคารแล้ว แต่ทำได้แค่เพียงตรวจสอบบริเวณโถงทางเดินด้วยสายตา เนื่องจากยังไม่ปลอดภัย รวมทั้งยังมีควันคละคลุ้ง และคาดว่า ต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์กว่าที่จะค้นหาและตรวจสอบอย่างละเอียดครบทุกชั้น
คอตตอนให้สัมภาษณ์สกาย นิวส์ ว่า ยังมีผู้ติดค้างในอาคาร “ไม่ทราบจำนวน” แต่คงต้องอาศัยปาฏิหาริย์อย่างแท้จริงที่จะมีคนหนึ่งคนใดรอดชีวิตอยู่จนถึงขณะนี้ โดยยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดที่ได้รับการยืนยัน คือ 12 คน
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ผู้พักอาศัยชั้นบนพยายามใช้ไฟฉายในมือถือเรียกร้องขอความช่วยเหลือก่อนที่คนเหล่านั้นจะหายไปจากหน้าต่าง พร้อมกับเสียงกรีดร้องที่เงียบลง
บางคนพยายามกระโดดออกมาจากหน้าต่าง แม่ลูกอ่อนคนหนึ่งตัดสินใจโยนลูกน้อยลงมาจากชั้น 9 หรือ 10 โชคดีที่มีคนรับทารกไว้ได้อย่างปลอดภัย และหลายคนเอาผ้าปูที่นอนมาผูกกันเพื่อใช้แทนเชือกไต่ลงจากหน้าต่าง
ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิง เล่าว่า เหตุไฟไหม้ครั้งนี้ ทั้งรุนแรงและลุกลามอย่างรวดเร็วแบบที่ไม่เคยพบมาก่อน
ด้าน นายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ ประกาศว่า จะต้องมีการสอบสวนหาสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้อย่างละเอียด หลังจากที่ค้นพบร่างผู้เสียชีวิตคนสุดท้าย
โศกนาฏกรรมนี้เกิดขึ้นขณะที่อังกฤษเพิ่งตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของผู้ก่อการร้ายมาหลายระลอก
ในตอนเช้าวันพฤหัสบดี (15) ยอดเงินบริจาคทางออนไลน์เพื่อช่วยเหลือเหยื่ออัคคีภัยเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 610,000 ดอลลาร์ ขณะที่คนจำนวนมากหลั่งไหลไปบริจาคอาหารและเสื้อผ้าที่ศูนย์ชุมชนท้องถิ่น และอาสาสมัครจากเมืองกลาสโกว์ เขตการปกครองสกอตแลนด์ ที่อยู่ห่างไกลออกไป 550 กิโลเมตร ได้ส่งรถบรรทุกขนผ้าอ้อมและข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ มามอบให้เต็มคันรถ
ขณะเดียวกัน เริ่มมีคำถามตามมามากมายว่า เหตุใดไฟจึงลุกลามอย่างรวดเร็ว และเผาผลาญอพาร์ตเมนต์ทั้ง 120 ห้องวอดวาย โดยจุดสนใจพุ่งไปที่วัสดุหุ้มที่ติดตั้งบนผนังด้านนอกระหว่างการปรับปรุงอาคารแห่งนี้ ที่ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 11 ล้านดอลลาร์ และเพิ่งลุล่วงเมื่อกลางปีที่แล้ว
ผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์รายงานว่า เห็นเศษวัสดุหุ้มอาคารขนาดใหญ่ตกลงมาจากตึกระหว่างไปทำข่าวในสถานที่เกิดเหตุช่วงเช้าวันพฤหัสบดี
จากข้อมูลของบีบีซี วัสดุหุ้มอาคารที่เกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ ใช้มีพลาสติกเป็นแกนกลางและคล้ายกับวัสดุที่ใช้ในอาคารสูงในฝรั่งเศส สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ ออสเตรเลีย
ไรดอน บริษัทที่รับผิดชอบการปรับปรุงตึกแห่งนี้ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ทศวรรษ 1970 ยืนยันว่า ดำเนินการตามข้อกำหนดด้านอาคารทั้งหมดอย่างเคร่งครัด
ด้าน ฮาร์ลีย์ ฟาซาดส์ ที่ทำการติดตั้งแผงวัสดุบนผนังด้านนอก เผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า มีความเชื่อมโยงระหว่างเหตุไฟไหม้กับวัสดุห่อหุ้มอาคารแต่อย่างใด
ช่วงหลายปีมานี้ มีการใช้วัสดุห่อหุ้มอาคารแพร่หลายมากขึ้นในลอนดอน เพื่อใช้เป็นฉนวนและปรับปรุงภาพลักษณ์ของอาคารเก่า
อย่างไรก็ตาม คอสทาส ซาฟดาริดิส ผู้ช่วยศาสตราจารย์สาขาวิศวกรรมโครงสร้างจากมหาวิทยาลัยลีดส์ เตือนว่า วัสดุบางอย่างกลับเป็นเชื้อไฟอย่างดี กล่าวคือ ในทางทฤษฎีนั้น วัสดุห่อหุ้มอาคารควรเป็นวัสดุทนไฟ แต่ส่วนใหญ่กลับเป็นแค่วัสดุทนความร้อนสูงเท่านั้น แต่ถึงเป็นวัสดุทนไฟ ทว่า ควันและไฟก็ยังสามารถเล็ดรอดผ่านส่วนเชื่อมต่อได้
นอกจากนั้น ยังมีข้อสงสัยว่า เหตุใดใน เกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ จึงไม่มีระบบหัวกระจายน้ำดับเพลิง ซึ่งอาจช่วยไม่ให้ไฟลุกลามได้ หรือแม้แต่ระบบสัญญาณแจ้งเตือนอัคคีภัยส่วนกลางที่จะปลุกผู้พักอาศัยที่หลับอยู่
คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้ผู้พักอาศัยหลบอยู่ในห้อง และใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำปิดกั้นไม่ให้ควันเข้าไปในห้องระหว่างรอความช่วยเหลือ เป็นอีกประเด็นที่คนกำลังโจษจันกัน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถขึ้นไปช่วยอพยพประชาชนได้ถึงชั้น 12 เท่านั้น และช่วยผู้พักอาศัยออกจากตึกได้ทั้งสิ้น 65 คน