รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - เกิดไฟไหม้ใหญ่เผาผลาญอาคารที่พักอาศัยสูง 24 ชั้นทางด้านตะวันตกของกรุงลอนดอนตั้งแต่ช่วงก่อนเช้ามืดวันพุธ (14 มิ.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 6 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 70 ราย โดยพระเพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุดขณะผู้คนกำลังนอนหลับ จึงมีผู้สูญหายยังไม่ทราบชะตากรรมเป็นจำนวนมาก ทางด้านผู้บัญชาการกองดับเพลิงเมืองหลวงอังกฤษแถลงช่วงเย็นวันเดียวกัน ต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 24 ชั่วโมงจึงจะสามารถสยบอัคคีภัยคราวนี้ได้
ผู้พักอาศัยบางคนร้องตะโกนขอความช่วยเหลือจากหน้าต่างห้องชั้นบนๆ บางคนพยายามโยนเด็กๆ ที่เป็นลูกๆ ของพวกเขาไปยังที่ปลอดภัย ขณะที่พระเพลิงโหมฮืออย่างรวดเร็วขึ้นไปตามห้องพักต่างๆ ของอาคารเกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ ภายหลังไฟลุกไหม้ขึ้นมาในช่วงประมาณ 01.00 น.ของวันพุธ (14 มิ.ย.)
“เราสามารถมองเห็นเด็กๆ และผู้ปกครองจำนวนมากพากันตะโกนร้องว่า “ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!” และเอามือของพวกเขาแตะที่หน้าต่างพร้อมกับขอให้ช่วยพวกเขาด้วย” อมินา ชาริฟ ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งบอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์
“เราทำอะไรไม่ได้เลย และเราสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่อยู่ข้างๆ หลุดออกไปเรื่อยๆ กำลังพังลงมา เราได้แต่ยืนคอยกรีดร้องตะโกน และพวกเขาก็พากันกรีดร้องตะโกน”
พยานผู้เห็นเหตุการณ์อีกคนหนึ่ง ไซมาร์ เยอชิ มองเห็นหลายๆ คนกำลังเอาผ้าปูที่นอนมาผูกต่อกัน เพื่อพยายามที่จะหนีไฟ
“ฉันเห็นคน 3 คนกำลังเอาผ้าปูที่นอนมาผูกต่อกันเพื่อจะใช้ปีนลงมา แต่ไม่มีใครปีนลงมาเลย ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา”
“แม้กระทั่งตอนที่ไฟดับแล้ว ก็ยังมองเห็นมีคนกำลังโบกเสื้อสีขาวกันอยู่” เยอชิ เล่า
แดนี คอตตอน ผู้บัญชาการกองดับเพลิงลอนดอนแถลงตอนค่ำวันพุธ (14) ย้ำว่า เหตุไฟไหม้ครั้งนี้ใหญ่โตมโหฬารมาก เธอคาดหมายว่ากองดับเพลิงกรุงลอนดอนจะต้องออกไปอยู่ในที่เกิดเหตุคอยรับมือกับพระเพลิงเป็นเวลาอย่างน้อยที่สุด 24 ชั่วโมงข้างหน้า
เธอบอกด้วยว่ามีพนักงานดับเพลิงจำนวนหนึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ขณะที่อัคคีภัยคราวนี้ได้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อยที่สุด 6 รายแล้ว และอีกกว่า70 คนได้รับบาดเจ็บ
ก่อนหน้านี้ เธอแถลงในช่วงกลางวันว่า อัคคีภัยครั้งนี้ “รุนแรงอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน” ในช่วง 29 ปีของอาชีพพนักงานดับเพลิงของเธอ และว่าการปฏิบัติงานเป็นไปได้วยความลำบาก เนื่องจากขนาดและความซับซ้อนของอาคารเกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ ที่เกิดเพลิงไหม้
ตามการแถลงของกองดับเพลิงระบุว่า ใช้หัวดับเพลิง 40 ชุด และเจ้าหน้าที่ 200 คนต่อสู้กับไฟที่โหมไหม้อาคารเกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ ซึ่งประกอบด้วยห้องพักรวม 130 ชุด และมีผู้พักอาศัยอยู่หลายร้อยคน นอกจากนี้ยังมีทีมรถพยาบาลฉุกเฉิน 20 ทีมรอให้ความช่วยเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุ
ผู้พักอาศัยในอาคารเกรนเฟลล์ระบุว่า ไฟไหม้จากด้านนอกตึกซึ่งมีการเคลือบวัสดุบางอย่างระหว่างการซ่อมแซมครั้งใหญ่ที่เสร็จสิ้นไปเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว
ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนเล่าว่า มีคนกระโดดหรือตกลงมาจากตึกที่ไฟกำลังลุกไหม้ และมีผู้พักอาศัยโบกผ้าสีขาวและร้องขอความช่วยเหลือจากหน้าต่างชั้นบน ขณะที่เปลวไฟลามไปทั่วตั้งแต่ชั้น 2 ไปจนถึงชั้นบนสุด ทำให้ส่วนโถงทางเดินหน้าห้องคละคลุ้งไปด้วยควันและคนจำนวนหนึ่งไม่สามารถหนีออกจากห้องหรือจากอาคารได้ ขณะที่บางคนหนีออกมาในสภาพที่ยังสวมชุดนอนอยู่
แดเนียล ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งเล่าว่า เห็นกับตาว่า มีคนกระโดดหนีออกทางหน้าต่าง
รายงานระบุว่า สัญญาณเตือนไฟไหม้ดังขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 1.00 น. วันพุธ (ตรงกับ7.00 น. ตามเวลาไทย) และเพียงหนึ่งชั่วโมงต่อมา เพลิงได้ลุกลามไปทั่วทั้งตึก โดยล่าสุดยังไม่สามารถระบุสาเหตุของเพลิงไหม้ได้ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเผยว่า ขึ้นไปช่วยอพยพผู้พักอาศัยที่อยู่ข้างล่างๆ ลงมา โดยยังมีอีก 4 ชั้นบนสุดซึ่งยังขึ้นไปไม่ได้
ทั้งนี้ ไฟยังคงลุกไหม้ภายในซากอาคารที่ดำเป็นตอตะโกหลังจากหน่วยงานฉุกเฉินมาถึงที่เกิดเหตุได้สิบกว่าชั่วโมง ส่งให้ควันดำหนาทึบปกคลุมท้องฟ้าเหนือลอนดอนด้านตะวันตก
ระหว่างที่ไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง ยังมีซากวัสดุขนาดใหญ่ตกลงมาจากเกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นอาคารที่พักอาศัยสำหรับชนชั้นแรงงานทางเหนือของย่านเคนซิงตัน ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ทศวรรษ 1970 และเพิ่งทำการบูรณะปรับปรุงครั้งใหญ่ทั้งส่วนภายในและภายนอกอาคาร โดยรวมถึงการติดตั้งระบบทำความร้อนและทำน้ำร้อน
แอช ชา วัย 30 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ที่บอกว่า ป้าของเธออาศัยอยู่บนชั้น 2 ของอาคารดังกล่าวและสามารถหนีรอดออกมาได้นั้น เล่าว่า ระหว่างการซ่อมแซมอาคาร มีการเคลือบผิวด้านนอกของอาคารด้วยวัสดุบางอย่างและติดฉนวนที่คล้ายกับฟองน้ำด้านใน
เมื่อราวหนึ่งปีที่แล้ว ผู้พักอาศัยในบริเวณนั้นยังเคยได้รับคำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงเกิดอัคคีภัยที่สืบเนื่องจากการมีขยะสะสมระหว่างการซ่อมแซมตึกเกรนเฟลล์
ทางด้าน ซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีนครลอนดอนได้ประกาศให้เหตุไฟไหม้ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์สาธารณภัย ขณะที่ตำรวจสั่งอพยพคนในอาคารใกล้เคียงเนื่องจากเกรงว่า เศษวัสดุจากอาคารเกรนเฟลล์จะร่วงลงมา รวมทั้งปิดทางหลวงเอ40 ช่วงหนึ่ง ซึ่งปกติแล้วเป็นเส้นทางสำคัญเพื่อเข้าสู่ลอนดอน นอกจากนั้นเครือข่ายรถไฟใต้ดินลอนดอนยังปิดให้บริการเส้นทางที่ผ่านบริเวณที่ไฟไหม้ใกล้สถานีถนนลาติเมอร์
สภาเทศบาลเคนซิงตันและเชลซีซึ่งเป็นเจ้าของตึกที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ภารกิจเฉพาะหน้าคือการสนับสนุนหน่วยกู้ภัยและปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ และจะสืบสวนหาสาเหตุของเพลิงไหม้อย่างละเอียดต่อไป
