ผู้จัดการรายวัน360- "นายกฯ"จ่อ ออกคำสั่งมาตรา 44 สัปดาห์หน้ายกเว้นระเบียบจัดซื้อ เร่งโครงการรถไฟไทย-จีน "อาคม"เผย รายงานปัญหาข้อขัดข้องต่อ"วิษณุ"แล้ว อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด ขณะนี้ส่อหลุดเป้าเสนอครม.อนุมัติโครงการไม่ทันมิ.ย.เหตุยังไม่ผ่านบอร์ด สศช. ด้านร.ฟ.ท. ใช้ร่างทีโออาร์รถไฟทางคู่เป็นมาตรฐาน พร้อมประกาศประมูล 3.5 กม.คาดราคากลาง 220 ล้านบาท
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (13 มิ.ย.) ว่าจะสามารถการออกประกาศคำสั่งตามมาตรา 44 ในการแก้ไขปัญหาความล่าช้าโครงการรถไฟไทย-จีน ได้ในสัปดาห์หน้า หลังจากผู้เกี่ยวข้องที่ได้มีการหารือกันเรียบร้อยแล้ว
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้รายงานต่อนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีแล้ว ในการใช้มาตรา 44 เพื่อเร่งรัดกระบวนการทำงาน โครงการรถไฟไทย-จีน ซึ่งรองนายกฯเป็นผู้ดูแลรายละเอียดว่า จะมีการออกคำสั่งมาตรา 44 ในประเด็นใดบ้าง เนื่องจากเป็นการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล หรือจีทูจี เช่น ระเบียบการจัดซื้อ ระเบียบพัสดุ ระเบียบราคากลาง สภาวิศวกร กระทรวงจะหารือจีนเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ดีที่สุด
การดำเนินโครงการยังเป็นไปตามขั้นตอนโดย จะเสนอครม.ขออนุมัติเพื่อดำเนินการในช่วง กรุงเทพ-นครราชสีมา ภายในเดือนมิ.ย.โดยตามขั้นตอนก่อนเข้าครม.จะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ สภาพัฒนฯก่อน
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ในฐานะรักษาการผู้ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.ที่มีนายวรวิทย์ จำปีรัตน์ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ได้เห็นชอบโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพ-นครราชสีมา ระยะทาง 252.5 กม. มูลค่า 179,412.21 ล้านบาทแล้ว และได้ส่งเรื่องเพื่อเสนอต่อครม.แล้ว ทั้งนี้ จะต้องสอบถามความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ก่อน ซึ่งรมว.คมนาคมตั้งเป้าว่าจะเสนอครม.ภายในเดือนมิ.ย.นี้
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า โครงการรถไฟไทย-จีนเป็นความร่วมมือแบบจีทูจี ซึ่งไม่ได้เปิดให้แข่งขันราคา ดังนั้น ต้องขอยกเว้นเรื่องระเบียบวิธีการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ อีกทั้ง การประชุมประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 18 ฝ่ายไทยได้ยืนยันกับจีนว่า จะเสนอครม.เพื่อขออนุมัติโครงการให้ได้ภายในวันที่ 30 มิ.ย. เพื่อเริ่มต้นโครงการตามแผนงาน โดยมีเป้าหมายที่จะเปิดประมูลก่อสร้างตอนที่ 1 ระยะทาง 3.5 กม. (สถานีกลางดง-ปางอโศก) ค่าก่อสร้างประมาณ 220 ล้านบาท ภายในเดือน ส.ค.นี้ และจะเร่งให้ผู้รับเหมาเข้าพื้นที่ในเดือน ก.ย.ซึ่งล่าสุด จะต้องประสานกับ สศช.เพื่อเร่งพิจารณา โดยหากไม่ทันบอร์ดสศช. ในเดือนมิ.ย.นี้ อาจจะต้องเลื่อนการเสนอครม.ในกลางเดือนก.ค.แทน ทุกเรื่องที่ติดขัดต้องเร่งแก้ปัญหาเพื่อให้สามารถประมูลได้ทันตามกำหนด และเป็นสัญญาณว่าโครงการได้เริ่มต้นแล้ว
ขณะที่ การถอดรหัสวัสดุเพื่อถอดแบบและราคากลางของตอนที่ 1 ระยะทาง 3.5 กม.นั้น ใกล้เสร็จสมบูรณ์ และการเปิดประมูลนั้นไม่น่ามีปัญหาในเรื่องทีโออาร์ เนื่องจาก ร.ฟ.ท. จะใช้ร่างทีโออาร์ การประมูลโครงการรถไฟทางคู่ เป็นมาตรฐานปรับมาปรับใช้ได้ ซึ่งเป็นร่างทีโออาร์ที่ได้ผ่านการตรวจสอบจาก คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง (ซุปเปอร์บอร์ดจัดซื้อ) แล้ว โดยร.ฟ.ท.จะเสนอขอใช้วิธีพิเศษในการประมูลเพื่อเร่งรัดการคัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้าง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (13 มิ.ย.) ว่าจะสามารถการออกประกาศคำสั่งตามมาตรา 44 ในการแก้ไขปัญหาความล่าช้าโครงการรถไฟไทย-จีน ได้ในสัปดาห์หน้า หลังจากผู้เกี่ยวข้องที่ได้มีการหารือกันเรียบร้อยแล้ว
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้รายงานต่อนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีแล้ว ในการใช้มาตรา 44 เพื่อเร่งรัดกระบวนการทำงาน โครงการรถไฟไทย-จีน ซึ่งรองนายกฯเป็นผู้ดูแลรายละเอียดว่า จะมีการออกคำสั่งมาตรา 44 ในประเด็นใดบ้าง เนื่องจากเป็นการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล หรือจีทูจี เช่น ระเบียบการจัดซื้อ ระเบียบพัสดุ ระเบียบราคากลาง สภาวิศวกร กระทรวงจะหารือจีนเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ดีที่สุด
การดำเนินโครงการยังเป็นไปตามขั้นตอนโดย จะเสนอครม.ขออนุมัติเพื่อดำเนินการในช่วง กรุงเทพ-นครราชสีมา ภายในเดือนมิ.ย.โดยตามขั้นตอนก่อนเข้าครม.จะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ สภาพัฒนฯก่อน
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ในฐานะรักษาการผู้ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.ที่มีนายวรวิทย์ จำปีรัตน์ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ได้เห็นชอบโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพ-นครราชสีมา ระยะทาง 252.5 กม. มูลค่า 179,412.21 ล้านบาทแล้ว และได้ส่งเรื่องเพื่อเสนอต่อครม.แล้ว ทั้งนี้ จะต้องสอบถามความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ก่อน ซึ่งรมว.คมนาคมตั้งเป้าว่าจะเสนอครม.ภายในเดือนมิ.ย.นี้
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า โครงการรถไฟไทย-จีนเป็นความร่วมมือแบบจีทูจี ซึ่งไม่ได้เปิดให้แข่งขันราคา ดังนั้น ต้องขอยกเว้นเรื่องระเบียบวิธีการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ อีกทั้ง การประชุมประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 18 ฝ่ายไทยได้ยืนยันกับจีนว่า จะเสนอครม.เพื่อขออนุมัติโครงการให้ได้ภายในวันที่ 30 มิ.ย. เพื่อเริ่มต้นโครงการตามแผนงาน โดยมีเป้าหมายที่จะเปิดประมูลก่อสร้างตอนที่ 1 ระยะทาง 3.5 กม. (สถานีกลางดง-ปางอโศก) ค่าก่อสร้างประมาณ 220 ล้านบาท ภายในเดือน ส.ค.นี้ และจะเร่งให้ผู้รับเหมาเข้าพื้นที่ในเดือน ก.ย.ซึ่งล่าสุด จะต้องประสานกับ สศช.เพื่อเร่งพิจารณา โดยหากไม่ทันบอร์ดสศช. ในเดือนมิ.ย.นี้ อาจจะต้องเลื่อนการเสนอครม.ในกลางเดือนก.ค.แทน ทุกเรื่องที่ติดขัดต้องเร่งแก้ปัญหาเพื่อให้สามารถประมูลได้ทันตามกำหนด และเป็นสัญญาณว่าโครงการได้เริ่มต้นแล้ว
ขณะที่ การถอดรหัสวัสดุเพื่อถอดแบบและราคากลางของตอนที่ 1 ระยะทาง 3.5 กม.นั้น ใกล้เสร็จสมบูรณ์ และการเปิดประมูลนั้นไม่น่ามีปัญหาในเรื่องทีโออาร์ เนื่องจาก ร.ฟ.ท. จะใช้ร่างทีโออาร์ การประมูลโครงการรถไฟทางคู่ เป็นมาตรฐานปรับมาปรับใช้ได้ ซึ่งเป็นร่างทีโออาร์ที่ได้ผ่านการตรวจสอบจาก คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง (ซุปเปอร์บอร์ดจัดซื้อ) แล้ว โดยร.ฟ.ท.จะเสนอขอใช้วิธีพิเศษในการประมูลเพื่อเร่งรัดการคัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้าง