ตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ายึดอำนาจ เสียงเรียกร้องให้ปฏิรูปตำรวจดังสนั่นหวั่นไหวมาตลอด แต่ผ่านไป 3 ปี ไม่มีการตอบรับที่ดีจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.และนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด
แม้รัฐบาลทหารจะพยายามหลีกเลี่ยงการพูดถึงปัญหาตำรวจ แต่ภาคประชาชนไม่ท้อแท้ ไม่สิ้นหวัง และยังคงเดินหน้าเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการปฏิรูปตำรวจอย่างจริงจัง
ล่าสุดเครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ พร้อมแนวร่วมอีก 42 องค์กร เข้ายื่นหนังสือเปิดผนึกถึงพล.อ.ประยุทธ์ เร่งรัดให้ปฏิรูปตำรวจ
พล.อ.ประยุทธ์เคยให้สัมภาษณ์ไว้ ระบุว่า ควรปรับโครงสร้างตำรวจเป็นตำรวจจังหวัดและพิจารณาแยกงานสอบสวนออกจากตำรวจ ซึ่งภาคประชาชนเห็นด้วยกับแนวคิด
เพียงแต่แนวคิดที่ดีในการแก้ปัญหาตำรวจนั้น พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยนำไปปฏิบัติ จนประชาชนต้องทวงถามมากว่า 3 ปีแล้ว
การปฏิรูปตำรวจ เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะตำรวจเป็นต้นธารของความชั่วร้ายต่างๆ ในสังคม เป็นต้นน้ำของกระบวนการยุติธรรม แต่ประชาชนมักไม่ได้รับความยุติธรรมจากพฤติกรรมของตำรวจ
ประชาชนต้องได้รับความเดือดร้อนจากการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของตำรวจทุกระดับ
แนวทางการปฏิรูปคือ โยกตำรวจไปขึ้นตรงกับผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอแต่ละอำเภอ
ส่วนงานสอบสวนต้องแยกเป็นอิสระจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยตั้งเป็นสำนักงานสอบสวนคดีอาญา เพื่อสร้างหลักประกันความเป็นอิสระในงานสอบสวน
และโอนย้าย 9 หน่วยงานของตำรวจ เช่น ตำรวจรถไฟ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจจราจร ตำรวจทางหลวง ไปสังกัดกระทรวง ทบวง กรมที่มีหน้าที่ดูแลโดยตรง ตามมติสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เมื่อเดือนตุลาคม 2558 ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2558
การแยกงานสอบสวนออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเป็นการปฏิรูประบบตำรวจให้มีความเป็นสากล มีการตรวจสอบและถ่วงดุลจากองค์กรภายนอก ป้องกันตำรวจใช้อำนาจเกินขอบเขต ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างร้ายแรงมาเป็นระยะเวลายาวนาน
ประชาชนส่วนหนึ่งถอดใจกับพล.อ.ประยุทธ์แล้ว หมดแรงเชียร์ เพราะที่ผ่านมาเชียร์ไม่ขึ้น โดยเฉพาะการปฏิรูปตำรวจ แต่เครือข่ายภาคประชาชนปฏิรูปตำรวจไม่ยอมถอดใจ
เพราะถ้าตำรวจไม่ถูกปฏิรูป กระบวนการยุติธรรมจะต้องพิการ ไม่สมประกอบต่อไป ปัญหาสังคมมากมายจะไม่ได้รับการแก้ไข และประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนจากการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของตำรวจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
แม้พล.อ.ประยุทธ์จะแสดงท่าทีไม่ยอมปฏิรูปตำรวจ แม้จะมีอำนาจอยู่เต็มมือก็ตาม แต่ภาคประชาชนยอมไม่ได้ที่ผู้มีอำนาจ จะเพิกเฉยต่อเสียงเรียกร้องของประชาชนที่ต้องแบกรับผลกระทบจากพฤติกรรมตำรวจ
ยอมไม่ได้ที่พล.อ.ประยุทธ์จะปฏิเสธความรับผิดชอบในการปฏิรูป ยอมไม่ได้ที่เห็นพล.อ.ประยุทธ์มีอำนาจอยู่เต็มมือ จะแก้ปัญหาอะไรย่อมได้ แต่กลับไม่แก้ปัญหาตำรวจ
3 ปีที่ผ่านมา ทำไมพล.อ.ประยุทธ์ไม่ยอมปฏิรูปตำรวจ กลัวอะไรนักหนากับตำรวจ ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องเสียเวลาค้นหาคำตอบแล้ว
เพราะคำถามใหญ่ที่สำคัญกว่าคือ ช่วงเวลาที่เหลือจะอีก 1 ปีหรือ 5 ปี พล.อ.ประยุทธ์จะปฏิรูปตำรวจหรือไม่ หรือจะเอาตัวรอดโยนภาระความรับผิดชอบไปให้รัฐบาลชุดต่อไป
ภาคประชาชนที่ยื่นหนังสือเปิดผนึก ตอกย้ำให้เร่งรัดปฏิรูปตำรวจนั้น สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนบางส่วนยังไม่สิ้นหวังกับพล.อ.ประยุทธ์เสียทีเดียว
ยังไงๆ ก่อนตาย ลองส่งคำร้องขอมาอีกสักครั้ง แม้พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่เคยทำให้ประชาชนสมหวังกับการปฏิรูปตำรวจสักครั้งก็ตาม