ผู้จัดการรายวัน 360 - “ดีเอสไอ” ปูด “นักการเมืองใหญ่” เบ่งขอคืนรถหรูถูกโจรกรรม-ขู่ฟ้อง จนท.ดีเอสไอยกชุด ด้าน "บอย ยูนิตี้" ยันรถหรู 34คันที่ถูกอายัด เสียภาษีถูกต้อง พร้อมแจงข้อกล่าวหา โอดธุรกิจเสียหายหลายร้อยล้าน
วานนี้ (1 มิ.ย.) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าในคดีที่ดีเอสไอตรวจค้นและอายัดรถยนต์ราคาแพง ที่เข้าข่ายเลี่ยงชำระภาษีและถูกโจรกรรมาจากต่างประเทศว่า เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา มีตัวแทนบริษัทผู้นำเข้ารถหรูที่ถูกดีเอสไออายัดไว้มาขอเข้าพบ เพื่อชี้แจงหลักฐานการนำเข้า โดยในชั้นการตรวจสอบยืนยันว่า ดีเอสไอจะดำเนินการตามหลักฐาน พร้อมทั้งให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เช่นเดียวกับรถลัมโบกินีของ โดม-ปกรณ์ ลัม นักร้องนักแสดงชื่อดังที่ถูกอายัดไว้ เนื่องจากจอดในโชว์รูมรวมกับรถที่มีข้อมูลสำแดงราคาต่ำกว่าความจริง หรือรถที่ถูกโจรกรรมมา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ขั้นตอนการนำเข้ารถถูกต้องหรือไม่ ต้องรอความชัดเจนจากการตรวจสอบเอกสารที่ผู้นำเข้ารถจะนำมาชี้แจงก่อน
** “นักการเมืองใหญ่” เบ่งขอคืนรถ
รายงานข่าวจากดีเอสไอแจ้งว่า หลังจากที่ได้ดำเนินการอายัดรถหรูที่สำแดงเท็จ 166 คัน และพบว่า ในจำนวนนี้มีรถที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษ 13 คัน ปรากฏว่า มีผู้ครอบครองรถยนต์ซึ่งมีหมายเลขเครื่องยนต์และตัวถังตรงกับรถที่ถูกโจรกรรม ติดต่อมายังชุดสอบสวน พร้อมกับได้แจ้งเป็นผู้ครอบครองรถที่ถูกโจรกรรมมา โดยยืนยันว่า ได้ซื้อรถคันดังกล่าวมาอย่างถูกกฎหมายและจ่ายเงินถูกต้อง จึงเป็นผู้เสียหายและมีความประสงค์จะขอครอบครองรถไว้ใช้งานต่อไป แต่ชุดสอบสวนยืนยันว่า ผู้ครอบครองต้องส่งมอบรถให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อรอส่งคืนให้กับประเทศอังกฤษ เนื่องจากเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมาอย่างชัดเจน ทำให้ผู้ที่ระบุว่า เป็นเจ้าของรถไม่พอใจ อ้างตัวว่าเป็นอดีตนักการเมือง สังกัดพรรคการเมืองใหญ่ และขู่จะฟ้องพนักงานสอบสวนทั้งชุด
"ดีเอสไอได้ประสานกรมศุลกากรขอเข้าสำรวจรถ ที่จอดในเขตปลอดภาษีของกรมศุลกากรว่ามีรถยนต์เลี่ยงภาษีจอดในโกดังผู้นำเข้ารายใดบ้าง โดยสัปดาห์หน้าจะเข้าตรวจสอบเขตปลอดภาษี การท่าเรือแหลมฉบัง อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่ถูกอายัดได้ติดต่อกรมศุลและดีเอสไอของจ่ายค่าเบี้ยปรับและชำระภาษีในส่วนที่ขาดเพื่อขอรับรถออกไปจำหน่าย" แหล่งข่าว ระบุ
** “บอย ยูนิตี้” โอดธุรกิจเสียหายยับ
อีกด้าน ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค นายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือ “บอย ยูนิตี้” กรรมบริษัทเจ้าเอสทีที ออโต้คาร์ จำกัด และบริษัทเอสทีที ออโต้ เซอร์วิส จำกัด แถลงข่าวกรณีถูกรถยนต์ในครบอครองถูกดีเอสไอ อายัดไว้ 34คัน โดยมีทั้งรถที่สำแดงเท็จและถูกโจรกรรมมาจากประเทศอังกฤษว่า รถที่ถูกดีเอสไอกล่าวหามีการนำเข้า โดยแสดงราคาอย่างถูกต้องตามหลักการการประเมินของคณะกรรมการภาษีอากรกรมศุลกากร ที่จะมีการเทียบราคากลางจากเว็บไซต์บริษัทผู้ผลิต โดยทางบริษัทนำเข้าได้ว่าจ้างบริษัท ชิปปิ้ง เป็นผู้ดำเนินการเรื่องเอกสารและพิธีการทางศุลกากร โดยรถ1คันจะต้องมีการเสียภาษีร้อยละ328 ขณะเดียวกันมีการตั้งข้อสังเกตว่าทางดีเอสไอเข้ามาอายัดรถในบริษัทของตน ทำให้ธุรกิจเสียหายหลายร้อยล้าน เพราะการกระทำดังกล่าวส่งผลให้บริษัทเสียชื่อเสียงและหมดความน่าเชื่อถือ ส่วนเรื่องที่ดีเอสไอจะเรียกเข้าไปชี้แจงถึงรถ 34 คัน ที่ถูกอายัด ตนพร้อมและยินดีที่จะเข้าพบทางดีเอสไอ และหลังจากที่ดีเอสไอเข้าไปยึดอายัดรถที่ถูกโจรกรรม และสำเด็จแดง ทางบริษัทได้ให้ทนายความตรวจสอบไปยังประเทศอังกฤษซึ่งยังไม่มี
วานนี้ (1 มิ.ย.) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าในคดีที่ดีเอสไอตรวจค้นและอายัดรถยนต์ราคาแพง ที่เข้าข่ายเลี่ยงชำระภาษีและถูกโจรกรรมาจากต่างประเทศว่า เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา มีตัวแทนบริษัทผู้นำเข้ารถหรูที่ถูกดีเอสไออายัดไว้มาขอเข้าพบ เพื่อชี้แจงหลักฐานการนำเข้า โดยในชั้นการตรวจสอบยืนยันว่า ดีเอสไอจะดำเนินการตามหลักฐาน พร้อมทั้งให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เช่นเดียวกับรถลัมโบกินีของ โดม-ปกรณ์ ลัม นักร้องนักแสดงชื่อดังที่ถูกอายัดไว้ เนื่องจากจอดในโชว์รูมรวมกับรถที่มีข้อมูลสำแดงราคาต่ำกว่าความจริง หรือรถที่ถูกโจรกรรมมา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ขั้นตอนการนำเข้ารถถูกต้องหรือไม่ ต้องรอความชัดเจนจากการตรวจสอบเอกสารที่ผู้นำเข้ารถจะนำมาชี้แจงก่อน
** “นักการเมืองใหญ่” เบ่งขอคืนรถ
รายงานข่าวจากดีเอสไอแจ้งว่า หลังจากที่ได้ดำเนินการอายัดรถหรูที่สำแดงเท็จ 166 คัน และพบว่า ในจำนวนนี้มีรถที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษ 13 คัน ปรากฏว่า มีผู้ครอบครองรถยนต์ซึ่งมีหมายเลขเครื่องยนต์และตัวถังตรงกับรถที่ถูกโจรกรรม ติดต่อมายังชุดสอบสวน พร้อมกับได้แจ้งเป็นผู้ครอบครองรถที่ถูกโจรกรรมมา โดยยืนยันว่า ได้ซื้อรถคันดังกล่าวมาอย่างถูกกฎหมายและจ่ายเงินถูกต้อง จึงเป็นผู้เสียหายและมีความประสงค์จะขอครอบครองรถไว้ใช้งานต่อไป แต่ชุดสอบสวนยืนยันว่า ผู้ครอบครองต้องส่งมอบรถให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อรอส่งคืนให้กับประเทศอังกฤษ เนื่องจากเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมาอย่างชัดเจน ทำให้ผู้ที่ระบุว่า เป็นเจ้าของรถไม่พอใจ อ้างตัวว่าเป็นอดีตนักการเมือง สังกัดพรรคการเมืองใหญ่ และขู่จะฟ้องพนักงานสอบสวนทั้งชุด
"ดีเอสไอได้ประสานกรมศุลกากรขอเข้าสำรวจรถ ที่จอดในเขตปลอดภาษีของกรมศุลกากรว่ามีรถยนต์เลี่ยงภาษีจอดในโกดังผู้นำเข้ารายใดบ้าง โดยสัปดาห์หน้าจะเข้าตรวจสอบเขตปลอดภาษี การท่าเรือแหลมฉบัง อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่ถูกอายัดได้ติดต่อกรมศุลและดีเอสไอของจ่ายค่าเบี้ยปรับและชำระภาษีในส่วนที่ขาดเพื่อขอรับรถออกไปจำหน่าย" แหล่งข่าว ระบุ
** “บอย ยูนิตี้” โอดธุรกิจเสียหายยับ
อีกด้าน ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค นายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือ “บอย ยูนิตี้” กรรมบริษัทเจ้าเอสทีที ออโต้คาร์ จำกัด และบริษัทเอสทีที ออโต้ เซอร์วิส จำกัด แถลงข่าวกรณีถูกรถยนต์ในครบอครองถูกดีเอสไอ อายัดไว้ 34คัน โดยมีทั้งรถที่สำแดงเท็จและถูกโจรกรรมมาจากประเทศอังกฤษว่า รถที่ถูกดีเอสไอกล่าวหามีการนำเข้า โดยแสดงราคาอย่างถูกต้องตามหลักการการประเมินของคณะกรรมการภาษีอากรกรมศุลกากร ที่จะมีการเทียบราคากลางจากเว็บไซต์บริษัทผู้ผลิต โดยทางบริษัทนำเข้าได้ว่าจ้างบริษัท ชิปปิ้ง เป็นผู้ดำเนินการเรื่องเอกสารและพิธีการทางศุลกากร โดยรถ1คันจะต้องมีการเสียภาษีร้อยละ328 ขณะเดียวกันมีการตั้งข้อสังเกตว่าทางดีเอสไอเข้ามาอายัดรถในบริษัทของตน ทำให้ธุรกิจเสียหายหลายร้อยล้าน เพราะการกระทำดังกล่าวส่งผลให้บริษัทเสียชื่อเสียงและหมดความน่าเชื่อถือ ส่วนเรื่องที่ดีเอสไอจะเรียกเข้าไปชี้แจงถึงรถ 34 คัน ที่ถูกอายัด ตนพร้อมและยินดีที่จะเข้าพบทางดีเอสไอ และหลังจากที่ดีเอสไอเข้าไปยึดอายัดรถที่ถูกโจรกรรม และสำเด็จแดง ทางบริษัทได้ให้ทนายความตรวจสอบไปยังประเทศอังกฤษซึ่งยังไม่มี