xs
xsm
sm
md
lg

ปี60ค่าไฟฟ้า-น้ำมันขาขึ้น ราคาสินค้าขยับตามต้นทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เอกชนส่งสัญญาณราคาสินค้าปี 2560 มีแนวโน้มปรับขึ้นทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภคหลังทิศทางน้ำมัน ค่าไฟ เฉลี่ยทั้งปีเป็นขาขึ้น ค่าแรงขยับ 69 จังหวัด ราคาสินค้าเกษตรภาพรวมกระเตื้อง แต่ยอมรับแรงซื้อที่ยังไม่สูงมากทำให้การขยับราคาอาจได้ไม่มาก

แหล่งข่าวจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาสินค้าในปี 2560 อาจมีการปรับเพิ่มขึ้นตามต้นทุนสินค้าที่คาดว่าจะสูงโดยเฉพาะสินค้าอุปโภคและบริโภคเนื่องจากปัจจัยต้นทุนหลายด้านคาดว่าจะปรับเพิ่มทั้งวัตถุดิบ ค่าขนส่งและ ค่าแรงงานขั้นต่ำที่ปรับขึ้น 5-10 บาทต่อวันรวม 69 จังหวัดมีผลตั้งแต่ 1 ม.ค.60 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นของราคาสินค้านั้นภาพรวมคงจะทำได้ไม่มากนักเนื่องจากแรงซื้อของคนไทยแม้จะมีทิศทางฟื้นตัวแต่ยังคาดว่าไม่มากพอ

" ต้นทุนการผลิตในปี 2560 คาดว่าจะสูงขึ้นจากทิศทางของราคาน้ำมันที่จะสะท้อนไปยังค่าขนส่ง ค่าแรงที่ปรับขึ้น วัตถุดิบทั้งภาคเกษตรที่สินค้าหลายตัวคาดว่าจะมีราคาแพง และวัตถุดิบที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันเช่นปิโตรเคมี ก็จะสูงตามเช่นกัน ประกอบกับผู้ผลิตส่วนใหญ่ในช่วงตลอดเวลา 2-3 ปีได้อั้นราคาพยายามรัดเข็มขัดต่อเนื่องเพราะแรงซื้อไม่มี หากต้นทุนขยับอีกก็อาจจะทนขาดทุนไม่ได้ก็ต้องปรับราคาเป็นทางเลือกสุดท้าย"แหล่งข่าวกล่าว

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และในฐานะโฆษก กกพ.กล่าวว่า แม้ว่าค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(Ft)ในงวดม.ค.-เม.ย.60 จะลดลง 4 สตางค์ต่อหน่วยหรือมาอยู่ที่ -37.29 สตางค์ต่อหน่วยแต่แนวโน้มค่าไฟฟ้าในงวดถัดไปพ.ค.-ส.ค. 60 ที่คำนวณอย่างไม่เป็นทางการมีโอกาสปรับขึ้นถึง 20.32 สตางค์ต่อหน่วยเนื่องจากก๊าซธรรมชาติที่เป็นปัจจัยหลักในการผลิตไฟฟ้า 70% ซึ่งสะท้อนตามทิศทางน้ำมันย้อนหลัง 6-12เดือนปรับขึ้นต่อเนื่อง

" งวดม.ค.-เม.ย.60 จริงๆแล้วต้องปรับขึ้นหากพิจารณาจากต้นทุนเชื้อเพลิงแต่เนื่องจากเรามีเงินสะสมจากหลายๆส่วนโดยเฉพาะค่าปรับจากโรงไฟฟ้าเอกชนหลายแห่งหยุดซ่อมบำรุงนอกแผน ค่าปรับจากประสิทธิภาพต่ำ ทำให้ กกพ.มีเงินสะสมทั้งหมดอยู่ 1.4 หมื่นล้านบาท จึงนำมาหักลบแล้วทำให้สามารถลดค่า Ft ได้ในงวดแรกของปี 2560 จำนวน 7.80 สตางค์ต่อหน่วยและเหลือเงิน 2,200 ล้านบาทเพื่อใช้ดูแลค่าไฟในงวดหน้าได้ 3 สตางค์ต่อหน่วยเท่านั้น"นายวีรพลกล่าว

อย่างไรก็ตามมีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องติดตามทั้งในเรื่องของระดับราคาน้ำมันที่จะสะท้อนไปยังราคาก๊าซ ฯ อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท การใช้ไฟฟ้าภาพรวม ฯลฯ ซึ่งจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงต้นทุนค่าไฟฟ้ารวม

นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกในปี 2560 คาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ในระดับ 50-55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยความต้องการน้ำมันดิบของโลกในปี 2560 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว

" กลุ่มโอเปกมีแนวโน้มที่จะมีมาตรการในการควบคุมกำลังการผลิตมากขึ้น ประกอบกับกำลังการผลิตจากผู้ผลิตนอกโอเปกที่เริ่มฟื้นตัวก็ยังอยู่ในปริมาณจำกัด สภาวะล้นตลาดของน้ำมันดิบจึงเริ่มลดน้อยลง และคาดว่าจะเริ่มเข้าสู่สภาวะสมดุลในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2560 ทำให้ราคาน้ำมันหลังปี 2560 ยังคงมีความไม่แน่นอน"นายสุกฤตย์กล่าว

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) และในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า สนพ.คาดการณ์แนวโน้มราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2560 เฉลี่ยจะอยู่ในกรอบประมาณ 42-52 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลโดยเฉลี่ยจะสูงขึ้นจากปี 2559 เล็กน้อยส่งผลให้ราคาขายปลีกของไทยมีทิศทางที่จะไม่ต่างจากระดับราคาปัจจุบันมากนักโดยคาดว่าราคาขายปลีกภาพรวมจะเปลี่ยนแปลงบวก ลบ 1-2 บาทต่อลิตร
กำลังโหลดความคิดเห็น