"กกพ."นัดถก 21 ธ.ค.นี้เคาะค่าไงงวดม.ค.-เม.ย. 60 ต้องลุ้นว่าจะลดลงหรือตรึงค่าไฟหลังแนวโน้มต้นทุนสูงตลอดทั้งปีจากทิศทางราคาน้ำมันที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นและค่าเงินบาทที่แนวโน้มจะอ่อนตัวจากกรณีเฟดทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ย
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ.จะประชุมเพื่อพิจารณาปรับอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(Ft) วันที่ 21 ธ.ค.นี้เพื่อประกาศใช้เรียกเก็บในบิลค่าไฟประชาชนประจำเดือนม.ค.-เม.ย. 2560 โดยแนวโน้มเบื้องต้นอาจลดค่าไฟฟ้าเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนได้แต่อัตราจะเป็นเท่าใดนั้นคงอยู่ที่กกพ.จะเห็นชอบเนื่องจากจะต้องประเมินในงวดถัดไปด้วยเนื่องจากสัญญาณค่าไฟฟ้าจะเป็นช่วงขาขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันและค่าเงินบาทที่อ่อนตัว
" คณะอนุกรรมการเอฟทีได้พิจารณาเบื้องต้นยอมรับว่าบางส่วนก็เห็นว่าไม่ควรจะลดราคาแต่ควรจะนำไปเกลี่ยในงวดถัดไปด้วยการตรึงราคาจะดีกว่าเพราะแนวโน้มค่าไฟตลอดปี 2560 คาดว่าจะเป็นขาขึ้นซึ่งหากกกพ.ตัดสินใจลดค่าไฟก็คาดว่าจะลดไม่มากนักเฉลี่ย 5-6 สตางค์ต่อหน่วย"แหล่งข่าวกล่าว
ทั้งนี้ค่าไฟที่มีแนวโน้มขาขึ้นเป็นไปตามทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกปี 2560 ที่คาดว่าจะอยู่ระดับ 50-55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลจากปีนี้เฉลี่ยที่ 40-45 เหรียญฯต่อบาร์เรล ซึ่งราคาน้ำมันดังกล่าวจะไปสะท้อนในสูตรราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าย้อนหลัง 6-12เดือน ขณะเดียวกันปัจจัยค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าเพิ่มขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปรับขึ้นดอกเบี้ยและจะทยอยขึ้นอีก 3 ครั้งในปี 2560 ซึ่งจะส่งผลให้เงินไหลออกฉุดให้ค่าเงินบาทของไทยอ่อนค่าต่อเนื่องซึ่งจะกระทบต่อต้นทุนการนำเข้าเชื้อเพลิง
สำหรับค่าFt งวด ก.ย.-ธ.ค. 2559 กกพ.ตรึงไว้ที่ -33.29 สตางต์ต่อหน่วย และเมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐาน ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทอยู่ที่ 3.4227 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)โดยกกพ.ได้เลือกที่จะไม่ลด Ft ในงวดนี้เพื่อนำเงินมาเกลี่ยดูแลค่าFt ในงวดม.ค.-เม.ย.60 โดยยังเหลือเงินค่า AF หรือค่าคาดเคลื่อนที่เกิดจากการคำนวณ 2,397 ล้านบาทหรือลดค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 2.9 สต่างค์ต่อหน่วยและยังมีเงินจากการลงทุนไม่เป็นไปตามแผนของ 3 การไฟฟ้า(คอลแบ็ก)อีกส่วนหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยในการลดค่าไฟ