เบื้องลึก “รักสามเส้าศรุตานนท์”?? “พล.ต.อ.สันต์-คุณหญิงเกิดศิริ-น้องเรต”

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ยุ่งเสียแล้วล่ะสิ สำหรับ “ความรักครั้งใหม่” ของ “พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์” อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กับ “น้องเรต” ยุวเรต ศรุตานนท์ สกุลเดิม “กังสถาน” (ขอย้ำอีกครั้งว่าสาวและสวย จริงๆ ส่วนจะแซ่บหรือไม่คงต้องไปถาม ผบ.สันต์เอาเองนะจ๊ะ)

เมื่อวันดีคืนดี คือเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2559 คุณหญิงเกิดศิริ ศรุตานนท์ ได้ส่งจดหมายถึงสื่อมวลชนชี้แจงกรณีที่มีสื่อต่างๆ นำเสนอข่าวการหย่าขาดระหว่าง พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคุณหญิงเกิดศิริ ว่า ไม่เป็นความจริง

หรือแปลเป็นไทยเป็นไทยว่า คุณหญิงเกิดศิริยังคงสถานะเป็น “ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย” ของ พล.ต.อ.สันต์

อ้าว....อ้าว....อ้าว....
แล้วอย่างนี้ น้องเรตของ “ผบ.สันต์” ที่ควงคู่กันออกงาน “สวีตหวาน” จนมดยังอิจฉาจะทำอย่างไรดี จะตกอยู่ในฐานะไหน เพราะในอินสตาแกรมของเธอก็พิมพ์นามสกุลหราว่า @yuwared_sarutanond ไม่นับภาพของทั้งสองคนที่เผยแพร่ออกมาอย่างเป็นทางการอีกเป็นกระบุงโกย

ทั้งนี้ แม้ “ข้อเท็จจริง” ยังไม่กระจ่าง เนื่องจาก “ตัวละครที่เกี่ยวข้อง” ยังไม่มีใครยืนยันความถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นตัว “ผบ.สันต์” หรือเจ้าของจดหมายที่ส่งมาตามสื่อต่างๆ นั่นก็คือ “คุณหญิงเกิดศิริ” แม้กระทั่งตัว “น้องเรต” หรือ “คุณยุวเรต” ก็ยังไม่ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงตรงๆ จะมีก็แต่ “ความคิดเห็น” เลียบๆ เคียงๆ เมื่อถูกสังคมเข้าไปแสดงความคิดเห็นต่อว่าต่อขานเรื่องดังกล่าวในหน้าอินสตาแกรมของเธอ ประมาณว่า “ไปดรามาที่อื่น” หรือ “หนูยังสตรองนะจ๊ะ”

แต่ไม่ว่าจะเท็จหรือจริง เรื่องนี้ย่อมมีที่มาที่ไป และมีความน่าสนใจไม่น้อยเกี่ยวกับ “เรื่องราวความรักสามเส้า?” ในครั้งนี้

เรื่องราวนิยายรักศรุตานนท์อันเป็นที่โจษขานกันทั้งบ้านทั้งเมืองเริ่มต้นขึ้นเมื่อปรากฏภาพ “สาวสวย” คนหนึ่งข้างกาย พล.ต.อ.สันต์ และใครๆ ก็รับรู้กันว่ามีความสัมพันธ์ในระดับที่ไม่ธรรมดา ไม่น่าจะใช่ญาติพี่น้อง แม้อายุอานามจะห่างกันหลายรอบก็ตาม แล้วก็ไม่ใช่เพิ่งเกิดในปี 2559 นี้ หากแต่เป็นที่พบเห็นและเป็นที่รับรู้กันมาพอสมควร

ควงคู่ออกงานด้วยกัน
ไปไหนมาไหนด้วยกัน....ทั้งในและต่างประเทศ
ประมาณว่า เปิดตัวให้สังคมได้รับว่า น้องเรตคือผู้หญิงของ พล.ต.อ.สันต์

ที่สำคัญคือในอินสตาแกราของน้องเรตเองก็นำภาพของเธอกับ พล.ต.อ.สันต์มาเผยแพร่อยู่เป็นระยะๆ อย่างเปิดเผย

ขณะที่ตัว พล.ต.อ.สันต์เองก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวกระชากวัยให้สอดคล้องกับน้องเรตให้เห็นเสมอๆ

ส่วนความสัมพันธ์ระหว่าง พล.ต.อ.สันต์กับคุณหญิงเกิดศิรินั้น ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่า เป็นอย่างไร โดยเฉพาะในทางกฎหมาย เพียงแต่ไม่เคยพบเห็นทั้งคู่ออกงานด้วยกันนานมากถึงมากที่สุด

สำหรับตัว พล.ต.อ.สันต์ ใครๆ ก็รู้ว่า นายพลตำรวจวัย 70 ปี ผู้นี้นั้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติระดับมหาเศรษฐีมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก เพราะมีมรดกตกทอดมาเป็นกระบุงโกย เอาแค่ที่ดินในซอยสุขุมวิท 68 จำนวนกว่า 36 ไร่(ปัจจุบันขายออกไปแล้ว 30 ไร่ เหลือเพียง 6 ไร่) ก็ไม่ต้องคำนวณแล้วว่า คิดเป็นเงินมหาศาลแค่ไหน

แถมยังมีรสนิยมระดับพรีเมียมมาโดยตลอด เช่น ขับรถยนต์โรลส์-รอยซ์ รถยนต์เบนท์ลีย์ มาทำงาน ใส่นาฬิกาปาเต๊ะ ฟิลลิปส์ เป็นต้น

ส่วนข้อมูลส่วนตัวของน้องเรตเท่าที่พอจะสืบเสาะได้ก็คือน่าจะรู้จักกันนานพอสมควร แต่ที่ชัดๆ เห็นจะเป็นเมื่อครั้งที่น้องเรตเรียนปริญญาตรี เพราะมีข่าวว่า เที่ยวนั้น พล.ต.อ.สันต์ตบรางวัลอันเป็นที่เปิดเผยคือ ทองน้ำหนัก 10 บาท จากนั้นเมื่อน้องเรตจบปริญญาโทศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาการจัดการทางวัฒนธรรม ก็ปรากฏภาพของทั้งสองคนในวันรับปริญญาคู่กัน และก็มีข่าวออกมาว่า พล.ต.อ.สันต์ให้รางวัลเป็นทองคำแท่งหนัก 20 บาท

ส่วนหน้าที่การงานของน้องเรตนั้น สื่อหลายสำนักลงข้อมูลตรงกันจากการให้สัมภาษณ์ของเธอเองว่า ทำธุรกิจนายหน้าค้าที่ดิน โดยที่ พล.ต.อ. สันต์ คอยเป็นผู้ให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด

“หลักการซื้อ-ขายคือ ที่ต้องสวย นอกจากจะติดถนน ทางเข้าสวย ต้องไม่ใช่ที่ตาบอด เพื่อจะขายต่อได้ง่ายขึ้น” น้องเรตให้สัมภาษณ์ถึงคำแนะนำในการทำธุรกิจจาก พล.ต.อ.สันต์

ขณะที่กิจกรรมที่น้องเรตชื่นชอบและโปรดปรานเป็นพิเศษก็คือ การเล่นโยคะ

ด้านนิสัยส่วนตัว รู้แต่เพียงว่า น้องเรตนั้น “ขี้อ้อน” และ “เอาใจเก่งสุดๆ” ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ ภาพในอินสตาแกรมขณะที่อยู่ในอ้อมกอดของ พล.ต.อ.สันต์ ซึ่งเธอโพสต์ข้อความบรรยายเอาไว้ว่า “อุ่นใดใดโลกนี้ไม่มีเทียบเทียม อุ่นอกอ้อมแขนอ้อมกอดท่าน”

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า (ย้ำ...ขอใช้คำว่าเชื่อว่า) มูลเหตุอันเป็นที่มาของจดหมายน้อยที่เผยแพร่ออกมาในช่วงนี้เป็นผลมาจากการที่น้องเรตประกาศก้องให้โลกได้รู้ว่า เธอได้เปลี่ยนจากนามสกุลเดิมคือ “กังสถาน” มาใช้ “ศรุตานนท์” ของ พล.ต.อ.สันต์ เป็นที่เรียบร้อยเมื่อราวๆ เดือนกันยายนปี 2559 นี้

เรียกว่าเปิดเผยอย่าง “สตรอง” จนสังคมเข้าใจถึงสถานะใหม่ของเธอว่า “ถูกต้องตามกฎหมาย” แล้วนะจ๊ะ

น้องเรตได้ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุในการเปลี่ยนนามสกุลซึ่งถูกนำมาเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์นิตยสาร Hello Thailand เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2559 เอาไว้ว่า “ ที่เปลี่ยนมาใช้ นามสกุล ‘ศรุตานนท์’ เพราะได้รับอนุญาตจาก พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ซึ่งเป็นผู้อาวุโสของต้นนามสกุลพระราชทานนี้ ด้วยเห็นว่าตัวเองคอยดูแลท่านมานานจึงอนุญาตให้ใช้นามสกุลนี้ได้ค่ะ ไม่ได้มีโอกาสพิเศษอะไร”

ขีดเส้นใต้เอาไว้อีกครั้งกับคำให้สัมภาษณ์ดังกล่าว เพราะจะเห็นได้ว่าน้องเรตไม่ได้บ่งชี้ชัดเจนถึงสถานะทางกฎหมายของเธอกับ พล.ต.อ.สันต์ เพียงแต่บอกว่าใช้ศรุตานนท์เพราะ พล.ต.อ.สันต์อนุญาตให้ใช้

อย่างไรก็ดี เชื่อว่า(ย้ำ...ขอใช้คำว่าเชื่อว่าอีกครั้ง) อีกหนึ่งมูลเหตุสำคัญเห็นทีจะหนีไม่พ้น “ภาพชุดล่าสุดระหว่าง พล.ต.อ.สันต์” ที่ถูกเผยแพร่ผ่านอินสตาแกรมของน้องเรตเอง และสื่อต่างๆ ก็พากันขยายความนำมาลงกันจ้าละหวั่น

นั่นคือภาพชุด “โยคะ” ที่น้องเรตทำร่วมกับ พล.ต.อ.สันต์ ซึ่งใครๆ เห็นแล้วก็ต่างร้องซี้ดซ้าดกระตุกต่อมความอิจฉากันจนตาร้อนผ่าว เพราะเป็นภาพขณะที่น้องเรตกำลังเล่นโยคะอยู่บนตัวของ พล.ต.อ.สันต์ชนิดสนิทแนบแน่นแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน

เพราะทำให้สื่อหลักๆ พากันไปขุดคุ้ยแล้วนำมาขยายความ จากนั้นก็ไปค้นเจอถึงคำให้สัมภาษณ์เรื่องการเปลี่ยนมาใช้นามสกุลศรุตานนท์ รวมทั้งเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม 2559 นิตยสาร HELLO และ แพรว ได้มีการให้ข้อมูลว่า พล.ต.อ.สันต์ ได้หย่าขาดกับ คุณหญิงเกิดศิริ ศรุตานนท์ และได้เปิดตัวภรรยาสาวสวยคนใหม่ที่มีชื่อว่า “น้องเรต” ยุวเรต ศรุตานนท์ (กังสถาน) เป็นที่เรียบร้อย

ปมเหตุที่ผสมผเสปนเปกันดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ทำให้เรื่องราวของนิยายรักครั้งนี้ดุเดือดเลือดพล่านถึงขีดสุดกระทั่งปรากฏเป็นข่าวเรื่องจดหมายน้อยในที่สุด

จดหมายฉบับดังกล่าวร่างขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2559 ณ บ้านเลขที่ 10 ถนนสุขุมวิท ซอย 68 เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260 เรื่อง “ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีข่าวการหย่าของ พล.ต.อ.สันต์ และ คุณหญิงเกิดศิริ ศรุตานนท์” มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

เรียน สื่อมวลชน
จากกรณีที่มีสื่อต่างๆ นำเสนอข่าวการหย่า ระหว่าง พล.ต.อ.สันต์ กับ คุณหญิงเกิดศิริ ศรุตานนท์ ดิฉัน คุณหญิงเกิดศิริ ศรุตานนท์ ขอเรียนความจริงดังนี้
1) กรณีข่าวการหย่าระหว่างดิฉันกับ พล.ต.อ.สันต์ ไม่เป็นความจริงและดิฉันไม่เคยคิดที่จะหย่า ความจริงคือ ดิฉันกับ พล.ต.อ.สันต์ ยังคงสถานภาพสมรสและปัจจุบันยังพักอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันตามเอกสารสำเนาทะเบียนสมรสและสำเนาทะเบียนบ้านที่แนบ
2) หากมีเอกสารหรือข่าวอื่นๆ ที่แสดงว่าดิฉันกับสามีหย่าขาดจากกัน ถือว่าเป็นการแอบอ้างหรือเป็นเอกสารปลอม
3) หากมีผู้อื่นแสดงตนว่าเป็นคู่สมรส หรือ แสดงเอกสารการจดทะเบียนสมรสกับสามีของดิฉัน ถือเป็นการแอบอ้างหรือจดทะเบียนสมรสซ้อน มีความผิดตามกฎหมาย
สุดท้ายนี้ดิฉันต้องขอโทษท่านสื่อมวลชน กรณีที่ดิฉันออกมาชี้แจงล่าช้า เนื่องจากในขณะที่มีมีข่าวการหย่าของดิฉันและสามีเผยแพร่ออกไป ดิฉันอยู่ในระหว่างการเดินทางต่างประเทศ
จึงเรียนมาเพื่อทราบ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความกรุณาในการนำเสนอความจริงต่อไป และขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้

สิ้นสุดคำชี้แจงผ่านจดหมายน้อย(ที่ยังไม่ได้รับการยืนยันจากปากของคุณหญิงเกิดศิริจริงๆ) ความสับสนอลหม่านก็เกิดขึ้น เพราะไม่มีใครทราบข้อเท็จจริงที่ถูกต้องและเป้าแรกที่ต้องเผชิญกับคำถามก็คือตัวน้องเรตเอง

ในในอินสตาแกรม yuwared_sarutanond ซึ่งน้องเรตโพสต์เป็นภาพอาหาร พร้อมข้อความว่า “ตับปลานึ่ง Ankimo #redredfood” ได้มีผู้เข้าไปแสดงความเห็นมากมาย โดยน้องเรตก็ได้ตอบกลับแทบจะทุกความเห็น เช่นความเห็นที่เข้ามาพูดจาเหน็บแหนม เธอก็ได้เชิญให้ไปดราม่าที่อื่น หรือหากใครเข้าไปให้กำลังใจ เธอก็จะเข้าไปขอบคุณเป็นการตอบกลับ รวมทั้งยังยืนยันว่าแม้จะโดยกระหน่ำหนัก แต่เธอยัง “สตรอง” โดยตอนนี้จะขอเล่นโยคะสุดโปรดเป็นการสงบจิตสงบใจไปในตัว

เรียกว่า แซ่บ ซี้ด และสตรองแบบสุดติ่งกระดิ่งแมวตามสไตล์สาวมั่นอย่างน้องเรตอยู่แล้ว ซึ่งก็ไม่เป็นที่น่าประหลาดใจอะไรที่เธอจะตอบด้วยความมั่นใจเช่นนั้น

ทว่า แม้เธอจะจัดเป็นสายแข็งและสตรองเพียงไร แต่ในที่สุดน้องเรตก็ได้ลบภาพดังกล่าวออกไปจากอินสตาแกรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่ที่ไม่น่าเชื่อก็คือเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นยังได้กลายเป็นสมรภูมิในโลกไซเบอร์อย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะในเว็บไซต์ “วิกิพีเดีย” ซึ่งก่อนหน้านี้ระบุประวัติว่า “พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เกิดวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2487 ที่กรุงเทพมหานคร สมรสครั้งแรกกับคุณหญิง เกิดศิริ ศรุตานนท์ (สกุลเดิม เศรษฐบุตร)ไม่มีบุตร สมรสครั้งที่สองกับนางสาวยุวเรต ศรุตานนท์ (สกุลเดิม กังสถาน) ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2544 - 30 กันยายน พ.ศ. 2547” ทว่า เมื่อเกิดกรณีจดหมายน้อยจากคุณหญิงเกิดศิริได้มีผู้เข้าไปแก้ไขข้อมูลในส่วนของ “คู่สมรส” หลายครั้ง จนล่าสุดข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ในวิกิพีเดีย ระบุว่า คู่สมรสของ พล.ต.อ.สันต์ คือ คุณหญิง เกิดศิริ ศรุตานนท์ (2520 - ปัจจุบัน)

ขณะที่ในเวลาต่อมาบทความดังกล่าวได้ถูกวิกิพีเดียปิดกั้นมิให้แก้ไข โดยระบุว่า “บทความนี้ถูกกึ่งล็อกมิให้แก้ไข เนื่องจากถูกก่อกวนหลายครั้งติดต่อกัน ผู้ไม่ลงทะเบียน หรือผู้ใช้ใหม่ ไม่สามารถแก้ไขบทความนี้ได้ แต่ผู้ใช้ทั่วไปยังแก้ไขได้ตามปกติ ทุกคนสามารถเสนอความคิดเห็นและข้อควรปรับปรุงได้ในหน้าอภิปราย หรือแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อขอยกเลิกการป้องกันหรือเพิ่มการป้องกันเป็นการล็อกสมบูรณ์”

เห็นไหมล่ะว่า ไม่ธรรมดาจริงๆ

ส่วนเรื่องราวความรักครั้งนี้จะจบลงอย่างไร บอกได้เลยว่า น้องเรตเป็นผู้ชนะอย่างไม่เห็นฝุ่น แต่ในทางกฎหมายแล้ว ตอบแบบไม่ต้องคิดว่า ราตรีนี้ยังอีกยาวไกลลลลลลลลลลลลลลลลล....