ผู้จัดการรายวัน 360/กระบี่ - "ป๋าเปรม" นำคณะองคมนตรีเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตน ก่อนปฏิบัติหน้าที่ ขณะที่ทรงมีพระราชดำรัส มอบภารกิจ ที่จะให้คำแนะนำ ตลอดจนช่วยกันดำรงความมั่นคงสถาบันของประเทศชาติ อุ่นใจมี"ป๋าเปรม"เป็นประธาน ส่วนจังหวัดกระบี่ เตรียมทูลเกล้าฯ ถวาย เรือหัวโทงจำลอง รับเสด็จร.10 ที่จะเสด็จพระราชดำเนินไปเปิดอาคารศาลากลางจังหวัดหลังใหม่ วันที่ 9 ธ.ค.นี้ ด้าน "บิ๊กตู่" ให้ "วิษณุ" รักษาการ รมว.ยุติธรรม-"ธีระเกียรติ" รักษาการ รมว.ศึกษาฯไปพลางก่อน โผครม. "ประยุทธ์ 4" รอเวลาเหมาะสม สะพัดโยก"บิ๊กโด่ง" นั่งรมว.ศึกษาฯ ร่วมงาน "บิ๊กน้อย" ขับเคลื่อนแก้ไฟใต้ คาด"บิ๊กเบี้ยว-บิ๊กโชย" คู่แคนดิเดตเสียบ รมช.กลาโหม แทน
เวลา 18.49 น. วานนี้ (7ธ.ค.) สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี นำคณะองคมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง จำนวน 10 คน ประกอบด้วย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายเกษม วัฒนชัย นายพลากร สุวรรณรัฐ นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ นายศุภชัย ภู่งาม นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุก พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ พล.อ. ธีรชัย นาควานิช พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่
การนี้พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นำกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณว่า "ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดี ต่อพระมหากษัตริย์และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้ และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ"
โอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชดำรัสกับคณะองคมนตรีที่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณว่า
"ขอบใจ และแสดงความยินดี ขอบใจที่มีน้ำใจช่วยงาน ที่ว่าคณะองคมนตรีในยุคนี้ ปัจจุบันนี้ก็จะได้รับการมอบภารกิจ ตลอดจนได้รับโอกาส หรือหน้าที่ ที่จะให้คำแนะนำ ตลอดจนช่วยกันดำรงความมั่นคงสถาบันของประเทศชาติ ตลอดจนแบ่งงานกันให้ละเอียดอีกครั้งว่าใคร ทำอะไร เรื่องทำงานก็จะให้ขอคำแนะนำ ตลอดจนปรับความสำคัญในการทำงานของประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายเกี่ยวกับสถาบันและประเทศชาติ เป็นเรื่องของแผ่นดินมีเรื่องต่างๆ ที่จะมอบให้ก็มาก ดังที่ได้คุยกันนอกรอบแล้ว ขอขอบคุณ และได้ป๋ามาเป็นประธานก็อุ่นใจแล้ว ทุกคนก็เคยทำหน้าที่ถวายรัชกาลก่อน หลายคนก็เชื่อมือกัน มีความสุข ตั้งใจทำงานได้ ขอบคุณ "
** เสด็จ จ.กระบี่ วันที่ 9 ธ.ค.
วันเดียวกันนี้ ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่กองออกแบบและก่อสร้างพลับพลาพิธี กรมโยธาธิการและผังเมือง กำลังเร่งจัดสร้างและตกแต่งพลับพลาที่ประทับเพื่อรอรับเสด็จฯสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดกระบี่ พิธีเปิดอาคารศาลากลางจังหวัดกระบี่หลังใหม่ ในวันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2559 นี้ เวลาประมาณ 15.00 น.นับเป็นจังหวัดแรกในรัชสมัย รัชกาลที่ 10 ที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจ โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิด ภ.จว.กระบี่ คอยรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในพื้นที่
นายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ที่พสกนิกรชาวจังหวัดกระบี่ และจังหวัดใกล้เคียงจะได้มีโอกาสเฝ้ารับเสด็จฯ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ขณะนี้จังหวัดกระบี่ได้จัดเตรียมความพร้อมสถานที่ มาตรการรักษาความปลอดภัยในทุกด้านเพื่อรอรับเสด็จ นับเป็นจังหวัดแรกในรัชสมัยรัชกาลที่ 10 ที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจ
สำหรับสิ่งของที่ทางจังหวัดกระบี่ เตรียมทูลเกล้าฯ ถวายจำนวน 4 อย่าง ประกอบด้วย เรือหัวโทงจำลอง ชื่อ "ปกาสัย" ทำจากฝีมือของกลุ่มผลิตเรือหัวโทงจำลอง ต.คลองประสงค์ อ.เมือง จ.กระบี่ กระเช้าผลิตภัณฑ์โอทอป ประกอบด้วย ขนม และกาแฟ กระบี่ จากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกระบี่ กระเช้าผลไม้ จากสำนักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ ประกอบด้วย กล้วยหอมทอง ข้าวกล้อง และกุ้งมังกร จำนวน 10 ตัว สำหรับการแต่งกายของพสกนิกรที่จะมารอรับเสด็จขอให้สวมใส่ชุดสุภาพไว้ทุกข์ โดยคาดว่าจะมีพสกนิกรชาวจังหวัดกระบี่ มารอรับเสด็จฯ ไม่ต่ำกว่า 3.5 หมื่นคน
*** "บิ๊กตู่" ตั้งรักษาการรมว.ยธ.-ศึกษาฯ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการปรับครม. หลังมีพระราชโองการแต่งตั้ง พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เป็นองคมนตรี ว่า ถึงวันนี้ยังไม่จำเป็นต้องปรับครม.ทั้งหมด โดยตนมอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รักษาการตำแหน่ง รมว.ยุติธรรมไปพลางก่อน และให้นายธีระเกียรติ์ เจริญเศรษฐศิลป์ รมช.ศึกษาธิการ ทำหน้าที่รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ ส่วนการปรับในตำแหน่งอื่นๆ ตนจะเป็นผู้ดำเนินการในเวลาที่เหมาะสม
ส่วนตำแหน่ง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมนั้น ก็จะรอแต่งตั้งพร้อมๆกับตำแหน่งอื่นในคราวเดียวกัน ซึ่งขณะนี้พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ก็ทำหน้าที่รักษาการ รมว.ดิจิทัลฯอยู่ ซึ่งงานต่างๆก็ยังคงเดินหน้า
สำหรับกรณีที่มีข่าวว่าจะมีการปรับย้าย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นั้น ตนเห็นว่าก็ยังทำงานได้เดินหน้าอยู่
เมื่อถามว่าการจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ที่จะเข้ามารับหน้าที่ใน ครม.เสร็จเรียบร้อย และนำขึ้นทูลเกล้าฯแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า“ยัง”
ส่วนเรื่องของโรดแมป ที่สงสัยกันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้น ตนพูดมาตลอดว่า มันมีอะไรเกิดขึ้นบ้างในประเทศไทยในขณะนี้ ขอให้ไปดูสถานการณ์ และติดตามความก้าวหน้ากันต่อไป ไม่ใช่เป็นเพราะรัฐบาลอยากจะเปลี่ยน หรืออยากจะทำ
*** ราชกิจจาฯเผยแพร่2รมต.ลาออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 133 ตอนพิเศษ 284 ง ลงวันที่ 7 ธันวาคม 2559เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง รัฐมนตรีลาออก ด้วยได้มีรัฐมนตรีขอลาออกจากตำแหน่งจำนวน 2 ราย คือ 1.พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ 2.พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2559
**โยก"บิ๊กโด่ง"นั่งรมว.ศึกษาฯ
ทั้งนี้ มีรายงานว่าปรับครม. ครั้งนี้ ในส่วนของศธ.นั้น คาดว่านายกฯจะให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม มาเป็นรมว.ศึกษาฯ ส่วนพล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษา ยังอยู่ที่เดิม
ในขณะที่ตำแหน่ง รมช.กลาโหม ที่จะว่างลงนั้น มีแคนดิเดตประกอบด้วย พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เตรียมทหารรุ่น 15 สมาชิก สนช. อดีตเสนาธิการทหารบก ซึ่งติดโผ ครม. มาตั้งแต่เกษียณอายุราชการในปี 57 แต่ในขณะนั้นนายกฯ ยังไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้ได้ จึงแต่งตั้งให้เป็นประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย และกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อตอบแทนไปก่อน
ส่วนแคนดิเดตอีกคนที่จะได้รับพิจารณาคือ พล.อ.กัปนาท รุดดิษฐ์ เตรียมทหารรุ่น 16 สมาชิกสนช.และอดีต ผู้ช่วยผบ.ทบ. นายทหารทำงานใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังเป็นน้องรัก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รวมถึงพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ พล.อ.อุดมเดช จะถูกย้ายไปเป็น รมว.ศึกษาธิการ แต่ยังคงเป็นหัวหน้าผู้แทนพิเศษรัฐบาลใน คปต.ส่วนหน้า เนื่องจากเป็นการแต่งตั้งที่ตัวบุคคล ไม่ได้แต่งตั้งตามตำแหน่ง จึงไม่ส่งผลกระทบต่อการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ในขณะที่แคนดิเดตที่จะเข้ามาเป็น รมช.กลาโหม ทั้งสองคน มีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่แล้ว ทั้งในส่วนของ พล.อ.ฉัตรเฉลิม เคยเป็นอดีตเสนาธิการทหารบก ในฐานะอดีตเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายมนราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ส่วนพล.อ.กัปนาท เคยปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อยู่หลายปี
ด้านพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับครม. ที่จะให้ตนไปดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ ว่า เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาที่จะพิจารณาว่าใครเหมาะสมอย่างไร ตนไม่ทราบอะไร เพราะท่านไม่ได้บอก แต่จะให้ไปอยู่ตรงไหน ตนก็พร้อม
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากต้องเปลี่ยนตำแหน่ง จะต้องตั้งหัวหน้าคณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาลคนใหม่เพื่อไปแก้ปัญหาภาคใต้ หรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า แล้วแต่ผู้บังคับบัญชา เพราะยังไม่ได้คุยกัน
เวลา 18.49 น. วานนี้ (7ธ.ค.) สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี นำคณะองคมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง จำนวน 10 คน ประกอบด้วย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายเกษม วัฒนชัย นายพลากร สุวรรณรัฐ นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ นายศุภชัย ภู่งาม นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุก พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ พล.อ. ธีรชัย นาควานิช พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่
การนี้พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นำกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณว่า "ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดี ต่อพระมหากษัตริย์และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้ และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ"
โอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชดำรัสกับคณะองคมนตรีที่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณว่า
"ขอบใจ และแสดงความยินดี ขอบใจที่มีน้ำใจช่วยงาน ที่ว่าคณะองคมนตรีในยุคนี้ ปัจจุบันนี้ก็จะได้รับการมอบภารกิจ ตลอดจนได้รับโอกาส หรือหน้าที่ ที่จะให้คำแนะนำ ตลอดจนช่วยกันดำรงความมั่นคงสถาบันของประเทศชาติ ตลอดจนแบ่งงานกันให้ละเอียดอีกครั้งว่าใคร ทำอะไร เรื่องทำงานก็จะให้ขอคำแนะนำ ตลอดจนปรับความสำคัญในการทำงานของประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายเกี่ยวกับสถาบันและประเทศชาติ เป็นเรื่องของแผ่นดินมีเรื่องต่างๆ ที่จะมอบให้ก็มาก ดังที่ได้คุยกันนอกรอบแล้ว ขอขอบคุณ และได้ป๋ามาเป็นประธานก็อุ่นใจแล้ว ทุกคนก็เคยทำหน้าที่ถวายรัชกาลก่อน หลายคนก็เชื่อมือกัน มีความสุข ตั้งใจทำงานได้ ขอบคุณ "
** เสด็จ จ.กระบี่ วันที่ 9 ธ.ค.
วันเดียวกันนี้ ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่กองออกแบบและก่อสร้างพลับพลาพิธี กรมโยธาธิการและผังเมือง กำลังเร่งจัดสร้างและตกแต่งพลับพลาที่ประทับเพื่อรอรับเสด็จฯสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดกระบี่ พิธีเปิดอาคารศาลากลางจังหวัดกระบี่หลังใหม่ ในวันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2559 นี้ เวลาประมาณ 15.00 น.นับเป็นจังหวัดแรกในรัชสมัย รัชกาลที่ 10 ที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจ โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิด ภ.จว.กระบี่ คอยรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในพื้นที่
นายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ที่พสกนิกรชาวจังหวัดกระบี่ และจังหวัดใกล้เคียงจะได้มีโอกาสเฝ้ารับเสด็จฯ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ขณะนี้จังหวัดกระบี่ได้จัดเตรียมความพร้อมสถานที่ มาตรการรักษาความปลอดภัยในทุกด้านเพื่อรอรับเสด็จ นับเป็นจังหวัดแรกในรัชสมัยรัชกาลที่ 10 ที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจ
สำหรับสิ่งของที่ทางจังหวัดกระบี่ เตรียมทูลเกล้าฯ ถวายจำนวน 4 อย่าง ประกอบด้วย เรือหัวโทงจำลอง ชื่อ "ปกาสัย" ทำจากฝีมือของกลุ่มผลิตเรือหัวโทงจำลอง ต.คลองประสงค์ อ.เมือง จ.กระบี่ กระเช้าผลิตภัณฑ์โอทอป ประกอบด้วย ขนม และกาแฟ กระบี่ จากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกระบี่ กระเช้าผลไม้ จากสำนักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ ประกอบด้วย กล้วยหอมทอง ข้าวกล้อง และกุ้งมังกร จำนวน 10 ตัว สำหรับการแต่งกายของพสกนิกรที่จะมารอรับเสด็จขอให้สวมใส่ชุดสุภาพไว้ทุกข์ โดยคาดว่าจะมีพสกนิกรชาวจังหวัดกระบี่ มารอรับเสด็จฯ ไม่ต่ำกว่า 3.5 หมื่นคน
*** "บิ๊กตู่" ตั้งรักษาการรมว.ยธ.-ศึกษาฯ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการปรับครม. หลังมีพระราชโองการแต่งตั้ง พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เป็นองคมนตรี ว่า ถึงวันนี้ยังไม่จำเป็นต้องปรับครม.ทั้งหมด โดยตนมอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รักษาการตำแหน่ง รมว.ยุติธรรมไปพลางก่อน และให้นายธีระเกียรติ์ เจริญเศรษฐศิลป์ รมช.ศึกษาธิการ ทำหน้าที่รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ ส่วนการปรับในตำแหน่งอื่นๆ ตนจะเป็นผู้ดำเนินการในเวลาที่เหมาะสม
ส่วนตำแหน่ง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมนั้น ก็จะรอแต่งตั้งพร้อมๆกับตำแหน่งอื่นในคราวเดียวกัน ซึ่งขณะนี้พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ก็ทำหน้าที่รักษาการ รมว.ดิจิทัลฯอยู่ ซึ่งงานต่างๆก็ยังคงเดินหน้า
สำหรับกรณีที่มีข่าวว่าจะมีการปรับย้าย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นั้น ตนเห็นว่าก็ยังทำงานได้เดินหน้าอยู่
เมื่อถามว่าการจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ที่จะเข้ามารับหน้าที่ใน ครม.เสร็จเรียบร้อย และนำขึ้นทูลเกล้าฯแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า“ยัง”
ส่วนเรื่องของโรดแมป ที่สงสัยกันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้น ตนพูดมาตลอดว่า มันมีอะไรเกิดขึ้นบ้างในประเทศไทยในขณะนี้ ขอให้ไปดูสถานการณ์ และติดตามความก้าวหน้ากันต่อไป ไม่ใช่เป็นเพราะรัฐบาลอยากจะเปลี่ยน หรืออยากจะทำ
*** ราชกิจจาฯเผยแพร่2รมต.ลาออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 133 ตอนพิเศษ 284 ง ลงวันที่ 7 ธันวาคม 2559เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง รัฐมนตรีลาออก ด้วยได้มีรัฐมนตรีขอลาออกจากตำแหน่งจำนวน 2 ราย คือ 1.พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ 2.พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2559
**โยก"บิ๊กโด่ง"นั่งรมว.ศึกษาฯ
ทั้งนี้ มีรายงานว่าปรับครม. ครั้งนี้ ในส่วนของศธ.นั้น คาดว่านายกฯจะให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม มาเป็นรมว.ศึกษาฯ ส่วนพล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษา ยังอยู่ที่เดิม
ในขณะที่ตำแหน่ง รมช.กลาโหม ที่จะว่างลงนั้น มีแคนดิเดตประกอบด้วย พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เตรียมทหารรุ่น 15 สมาชิก สนช. อดีตเสนาธิการทหารบก ซึ่งติดโผ ครม. มาตั้งแต่เกษียณอายุราชการในปี 57 แต่ในขณะนั้นนายกฯ ยังไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้ได้ จึงแต่งตั้งให้เป็นประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย และกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อตอบแทนไปก่อน
ส่วนแคนดิเดตอีกคนที่จะได้รับพิจารณาคือ พล.อ.กัปนาท รุดดิษฐ์ เตรียมทหารรุ่น 16 สมาชิกสนช.และอดีต ผู้ช่วยผบ.ทบ. นายทหารทำงานใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังเป็นน้องรัก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รวมถึงพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ พล.อ.อุดมเดช จะถูกย้ายไปเป็น รมว.ศึกษาธิการ แต่ยังคงเป็นหัวหน้าผู้แทนพิเศษรัฐบาลใน คปต.ส่วนหน้า เนื่องจากเป็นการแต่งตั้งที่ตัวบุคคล ไม่ได้แต่งตั้งตามตำแหน่ง จึงไม่ส่งผลกระทบต่อการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ในขณะที่แคนดิเดตที่จะเข้ามาเป็น รมช.กลาโหม ทั้งสองคน มีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่แล้ว ทั้งในส่วนของ พล.อ.ฉัตรเฉลิม เคยเป็นอดีตเสนาธิการทหารบก ในฐานะอดีตเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายมนราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ส่วนพล.อ.กัปนาท เคยปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อยู่หลายปี
ด้านพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับครม. ที่จะให้ตนไปดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ ว่า เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาที่จะพิจารณาว่าใครเหมาะสมอย่างไร ตนไม่ทราบอะไร เพราะท่านไม่ได้บอก แต่จะให้ไปอยู่ตรงไหน ตนก็พร้อม
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากต้องเปลี่ยนตำแหน่ง จะต้องตั้งหัวหน้าคณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาลคนใหม่เพื่อไปแก้ปัญหาภาคใต้ หรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า แล้วแต่ผู้บังคับบัญชา เพราะยังไม่ได้คุยกัน