กระพ้มมีความงุนงงสงสัยเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้คนต่างชาติอายุ 50 ปีขึ้นไป มีเงินเยอะเข้ามาอยู่ในเมืองไทยนานๆ มีเหตุจำเป็นอันใด ประเทศไทยมีคนต่างชาติน้อยไปหรือไง ทุกวันนี้อยู่ในเมืองหลวง และเมืองท่องเที่ยว ก็มีคนต่างชาติมากมาย
กระพ้มฟังคำอธิบายและเหตุผลยังไม่กระจ่าง ว่าทำไม ต้องการเงินมากหรือไง?
มาดูเรื่องราว เหตุผลของกฎใหม่ตามนโยบายนี้ก่อน “ครม. มีมติเห็นชอบอนุมัติขยายเวลาพำนักในราชอาณาจักรไทย สำหรับกลุ่มพำนักระยะยาว Long Stay Visa โดยมีหลักเกณฑ์ต้องเป็นชาวต่างชาติอายุ 50 ปีขึ้นไป”
สำหรับกฎเดิมนั้น จากเดิมเคยอนุมัติครั้งละไม่เกิน 1 ปี ครั้งนี้อนุมัติ 10 ปี โดยครั้งที่ 1 ไม่เกิน 5 ปี และสามารถต่ออายุครั้งที่ 2 ได้อีก 5 ปี ค่าธรรมเนียม 10,000 บาท อย่างไรก็ตาม ผู้ขอวีซ่าประเภทนี้ได้จะต้องมีเงินฝากในบัญชี 3 ล้านบาทขึ้นไป หรือรายได้ต่อเดือน 100,000 บาทขึ้นไป
นอกจากนี้ยังต้องคงบัญชีเงินฝากตามที่แสดงไว้ในธนาคารเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1ปี นับตั้งแต่วันตรวจลงตรา ต้องมีเอกสารประกันสุขภาพระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี ในวงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอกไม่ต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนผู้ป่วยในไม่ต่ำกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 กรมธรรม์ต่อ 1 ปี ซึ่งผู้ขอวีซ่าประเภทนี้ต้องรายงานตัวทุก 90 วัน
ขณะเดียวกัน ผู้ที่ต้องขอวีซ่าประเภทนี้ จะต้องเป็นนักท่องเที่ยวที่อยู่ในประเทศ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย นอร์เวย์ จีน สวีเดน เนเธอร์แลนด์ อินเดีย อิตาลี แคนาดา ไต้หวัน เนื่องจากเป็นนักท่องเที่ยวศักยภาพ และนิยมพำนักในจังหวัดท่องเที่ยวของไทย...
อย่างนี้แหละครับ กระพ้มสงสัยว่านักท่องเที่ยวแบบไหนต้องการท่องเที่ยวในไทยนานถึง 5 ปี หรือ 10 ปี ทั้งๆ ที่ประเทศของเราไม่ได้กว้างใหญ่ไพศาล ต้องใช้เวลานานถึงขนาดนั้น ถ้าเป็นประเทศจีน สหรัฐฯ แคนาดา รัสเซีย หรือทวีปแอฟริกา ก็ดูว่าพอฟังได้
และคนอายุ 50 ปีกว่านั้นกำลังเป็นวัยทำงาน เป็นผู้บริหาร เจ้าของกิจการทั้งนั้น จะมีเวลามาเดินทางท่องเที่ยวอาศัยอยู่ในประเทศอื่นๆ นานขนาดนั้นได้อย่างไร ถ้าเป็นพนักงาน ก็ย่อมไม่มีสิทธิลางานนานเป็นปีๆ ถ้าเป็นมหาเศรษฐี มีแต่เงิน ก็ไม่น่าเป็นไปได้
กระพ้มยิ่งคิดก็ยิ่งงง...และมีข้อกำหนดว่าต้องมีเงินฝากอย่างน้อย 3 ล้านบาท มีรายได้ต่อเดือน 1 แสนบาท มันเป็นเงื่อนไขจิ๊บจ๊อยมากครับ ถ้าต้องขายถิ่นที่อยู่ในไทยในราคานั้น และยิ่งมีคนชาติ “จีน” อีกด้วย ก็ยิ่งไปกันใหญ่ว่าอะไรจะอวยราคาต่ำขนาดนั้น
ใครมีญาติอยู่ในแผ่นดินจีน อยากให้มาอาศัยอยู่ในเมืองไทยนานๆ หรือขอรับ จึงต้องออกกฎแบบนี้ รู้หรือไม่ครับว่า 3 ล้านบาทนั่นมันทำอะไรไม่ได้หรอก ยิ่งเป็นคนต่างชาติบอกว่ามีรายได้ 1 แสนบาทต่อเดือน กินอยู่เสร็จ มันจะพอหรือ ต้องเป็นครอบครัวชนชั้นกลาง
เอาแค่เช่าคอนโดฯ ขนาดมาตรฐานก็เดือนละเป็นแสนแล้ว และคนอายุ 50 ปีกว่า จะมาอยู่คนเดียวได้อย่างไร ต้องมา 2 คนคือคู่สมรส เว้นแต่จะมีเจตนาหาคู่กิ๊ก หรือคู่สมรสใหม่ อย่างเช่นพวกฝรั่งยุโรปซึ่งนิยมไปอยู่อีสาน หาเมียใหม่จนมีฝรั่งหัวแดง หัวล้านเกลื่อน
ผมกลัวว่าพวกที่จะแห่มาอยู่กันเต็มเมืองคือชาวจีนนะครับ เงิน 3 ล้านบาทไทยเป็นเพียงเหมือนเศษเงิน ดูซิ เงิน 1 ล้านหยวนมันมากกว่า 5 ล้านบาทแล้ว ชาวนาจีนยุคนี้มีบ้านราคาหลังละ 1 ล้านกว่าหยวน ลองไปดูบ้านชาวนา 2 ข้างถนนระหว่างหังโจวไปเซี่ยงไฮ้ก็ได้
บ้านชาวนาจีนหลังขนาดใหญ่ มีปี่เซียะประดับหลังคาดูดี ไม่ใช่อยู่กระต๊อบแบบชาวนา หรือชาวนาเช่ารายได้ชักหน้าไม่ถึงหลังแบบบ้านเรา จนต้องให้คนช่วยให้รอดตาย
ผมคิดง่ายๆ นะ ถ้าคนจีนต้องการทำธุรกิจ ก็เอาเงินเข้ามาฝาก 3 ล้านบาท ปีเดียว จากนั้นก็เข้ามาอยู่ทำธุรกิจ หาเมียใหม่ก็ยังได้ จากนั้นทำธุรกิจเต็มที่ ถ้านาน 10 ปีผมกลัวว่าจะมีคนจีนเต็มประเทศนะครับ เขามี 1,300 ล้านคน มาอยู่สัก 10 ล้านคน ไม่ตายเรอะ
อย่าลืมว่าคนจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น และชาติอื่นๆ มีเงิน อยากมาอยู่เมืองไทยนะ ชาติอื่นๆ ผมไม่ห่วง ผมห่วงแต่คนจีน เพราะคนของเขามีเยอะ เงินก็เยอะ ไปดูซิย่านสุทธิสาร เยาวราช ประตูน้ำ รัชดาฯ มีแต่ร้านคนจีนใหม่อยู่แบบเปิดเผย ทำได้อย่างไร
มีเรื่องเล่ากันแบบนี้ จริงหรือไม่ลองฟังดู เขาว่าหนุ่มจีนไปเหมาหมอนวดสวยๆ ย่านรัชดาฯ จนหมดตู้ จากนั้นก็แต่งงานด้วย ได้สิทธิซื้อที่ดิน อาคารต่างๆ ใช้ชื่อเมียไทย แต่ตัวเองถือเอกสารโฉนดไว้ จ่ายเงินให้เมียไทยเป็นรายเดือน ดียิ่งกว่าการได้สิทธิอยู่อาศัยสบายๆ
อายุไม่ต้องถึง 50 ปี ได้เมียสวย ไม่ต้องเสียเงินไปนวด ได้บ้าน ทำธุรกิจ คนไทยได้แต่มองตาปริบๆ ทำอะไรไม่ได้ เพราะเขาอยู่แบบถูกต้อง เข้าๆ ออกๆ บินไปมา ไม่แพงด้วย โธ่! บินไปเมืองคุนหมิง หรือสิบสองปันนา ค่าเครื่องบินไม่กี่พัน ขอวีซ่าใหม่ก็กลับเข้ามาได้แล้ว
ที่พูดมานี้ไม่ใช่ว่ารังเกียจคนจีน แต่มีความกังวลว่าถ้าไม่มีมาตรการควบคุมแล้ว จำนวนคนที่เข้ามาด้วยเงินฝากแค่ 3 ล้านบาทมันง่ายเกินไป ไหนจะมีคนจากชาติอื่นๆ ทำให้เกิดเก็งกำไรในราคาอสังหาริมทรัพย์ จนคนไทยเงินไม่มี สิ้นโอกาสทำมาหากิน
น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือการให้เมียไทยซื้อที่ดิน จ้างคนทำนา ทำเกษตร ได้ครอบครองที่ดิน มีลูกก็ได้สัญชาติไทย จะทำให้ชาวนาแท้ๆ หมดเงินทุน หมดแรง ขายที่ดินได้ราคาดี การครอบครองธุรกิจ ทรัพย์สินจะกระจายไป เพราะมีช่องโหว่ทางกฎหมายให้ทำได้
คนไทยจะไปทำธุรกิจ ลงหลักปักฐานอาศัยในประเทศอื่นก็ไม่ง่าย อยู่บนแผ่นดินเกิดแท้ๆ ยังแทบไร้โอกาส แล้วจะได้ไปอยู่ที่ไหน แม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านก็ยังเข้าไปอยู่ยาก
กระพ้มฟังคำอธิบายและเหตุผลยังไม่กระจ่าง ว่าทำไม ต้องการเงินมากหรือไง?
มาดูเรื่องราว เหตุผลของกฎใหม่ตามนโยบายนี้ก่อน “ครม. มีมติเห็นชอบอนุมัติขยายเวลาพำนักในราชอาณาจักรไทย สำหรับกลุ่มพำนักระยะยาว Long Stay Visa โดยมีหลักเกณฑ์ต้องเป็นชาวต่างชาติอายุ 50 ปีขึ้นไป”
สำหรับกฎเดิมนั้น จากเดิมเคยอนุมัติครั้งละไม่เกิน 1 ปี ครั้งนี้อนุมัติ 10 ปี โดยครั้งที่ 1 ไม่เกิน 5 ปี และสามารถต่ออายุครั้งที่ 2 ได้อีก 5 ปี ค่าธรรมเนียม 10,000 บาท อย่างไรก็ตาม ผู้ขอวีซ่าประเภทนี้ได้จะต้องมีเงินฝากในบัญชี 3 ล้านบาทขึ้นไป หรือรายได้ต่อเดือน 100,000 บาทขึ้นไป
นอกจากนี้ยังต้องคงบัญชีเงินฝากตามที่แสดงไว้ในธนาคารเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1ปี นับตั้งแต่วันตรวจลงตรา ต้องมีเอกสารประกันสุขภาพระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี ในวงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอกไม่ต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนผู้ป่วยในไม่ต่ำกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 กรมธรรม์ต่อ 1 ปี ซึ่งผู้ขอวีซ่าประเภทนี้ต้องรายงานตัวทุก 90 วัน
ขณะเดียวกัน ผู้ที่ต้องขอวีซ่าประเภทนี้ จะต้องเป็นนักท่องเที่ยวที่อยู่ในประเทศ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย นอร์เวย์ จีน สวีเดน เนเธอร์แลนด์ อินเดีย อิตาลี แคนาดา ไต้หวัน เนื่องจากเป็นนักท่องเที่ยวศักยภาพ และนิยมพำนักในจังหวัดท่องเที่ยวของไทย...
อย่างนี้แหละครับ กระพ้มสงสัยว่านักท่องเที่ยวแบบไหนต้องการท่องเที่ยวในไทยนานถึง 5 ปี หรือ 10 ปี ทั้งๆ ที่ประเทศของเราไม่ได้กว้างใหญ่ไพศาล ต้องใช้เวลานานถึงขนาดนั้น ถ้าเป็นประเทศจีน สหรัฐฯ แคนาดา รัสเซีย หรือทวีปแอฟริกา ก็ดูว่าพอฟังได้
และคนอายุ 50 ปีกว่านั้นกำลังเป็นวัยทำงาน เป็นผู้บริหาร เจ้าของกิจการทั้งนั้น จะมีเวลามาเดินทางท่องเที่ยวอาศัยอยู่ในประเทศอื่นๆ นานขนาดนั้นได้อย่างไร ถ้าเป็นพนักงาน ก็ย่อมไม่มีสิทธิลางานนานเป็นปีๆ ถ้าเป็นมหาเศรษฐี มีแต่เงิน ก็ไม่น่าเป็นไปได้
กระพ้มยิ่งคิดก็ยิ่งงง...และมีข้อกำหนดว่าต้องมีเงินฝากอย่างน้อย 3 ล้านบาท มีรายได้ต่อเดือน 1 แสนบาท มันเป็นเงื่อนไขจิ๊บจ๊อยมากครับ ถ้าต้องขายถิ่นที่อยู่ในไทยในราคานั้น และยิ่งมีคนชาติ “จีน” อีกด้วย ก็ยิ่งไปกันใหญ่ว่าอะไรจะอวยราคาต่ำขนาดนั้น
ใครมีญาติอยู่ในแผ่นดินจีน อยากให้มาอาศัยอยู่ในเมืองไทยนานๆ หรือขอรับ จึงต้องออกกฎแบบนี้ รู้หรือไม่ครับว่า 3 ล้านบาทนั่นมันทำอะไรไม่ได้หรอก ยิ่งเป็นคนต่างชาติบอกว่ามีรายได้ 1 แสนบาทต่อเดือน กินอยู่เสร็จ มันจะพอหรือ ต้องเป็นครอบครัวชนชั้นกลาง
เอาแค่เช่าคอนโดฯ ขนาดมาตรฐานก็เดือนละเป็นแสนแล้ว และคนอายุ 50 ปีกว่า จะมาอยู่คนเดียวได้อย่างไร ต้องมา 2 คนคือคู่สมรส เว้นแต่จะมีเจตนาหาคู่กิ๊ก หรือคู่สมรสใหม่ อย่างเช่นพวกฝรั่งยุโรปซึ่งนิยมไปอยู่อีสาน หาเมียใหม่จนมีฝรั่งหัวแดง หัวล้านเกลื่อน
ผมกลัวว่าพวกที่จะแห่มาอยู่กันเต็มเมืองคือชาวจีนนะครับ เงิน 3 ล้านบาทไทยเป็นเพียงเหมือนเศษเงิน ดูซิ เงิน 1 ล้านหยวนมันมากกว่า 5 ล้านบาทแล้ว ชาวนาจีนยุคนี้มีบ้านราคาหลังละ 1 ล้านกว่าหยวน ลองไปดูบ้านชาวนา 2 ข้างถนนระหว่างหังโจวไปเซี่ยงไฮ้ก็ได้
บ้านชาวนาจีนหลังขนาดใหญ่ มีปี่เซียะประดับหลังคาดูดี ไม่ใช่อยู่กระต๊อบแบบชาวนา หรือชาวนาเช่ารายได้ชักหน้าไม่ถึงหลังแบบบ้านเรา จนต้องให้คนช่วยให้รอดตาย
ผมคิดง่ายๆ นะ ถ้าคนจีนต้องการทำธุรกิจ ก็เอาเงินเข้ามาฝาก 3 ล้านบาท ปีเดียว จากนั้นก็เข้ามาอยู่ทำธุรกิจ หาเมียใหม่ก็ยังได้ จากนั้นทำธุรกิจเต็มที่ ถ้านาน 10 ปีผมกลัวว่าจะมีคนจีนเต็มประเทศนะครับ เขามี 1,300 ล้านคน มาอยู่สัก 10 ล้านคน ไม่ตายเรอะ
อย่าลืมว่าคนจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น และชาติอื่นๆ มีเงิน อยากมาอยู่เมืองไทยนะ ชาติอื่นๆ ผมไม่ห่วง ผมห่วงแต่คนจีน เพราะคนของเขามีเยอะ เงินก็เยอะ ไปดูซิย่านสุทธิสาร เยาวราช ประตูน้ำ รัชดาฯ มีแต่ร้านคนจีนใหม่อยู่แบบเปิดเผย ทำได้อย่างไร
มีเรื่องเล่ากันแบบนี้ จริงหรือไม่ลองฟังดู เขาว่าหนุ่มจีนไปเหมาหมอนวดสวยๆ ย่านรัชดาฯ จนหมดตู้ จากนั้นก็แต่งงานด้วย ได้สิทธิซื้อที่ดิน อาคารต่างๆ ใช้ชื่อเมียไทย แต่ตัวเองถือเอกสารโฉนดไว้ จ่ายเงินให้เมียไทยเป็นรายเดือน ดียิ่งกว่าการได้สิทธิอยู่อาศัยสบายๆ
อายุไม่ต้องถึง 50 ปี ได้เมียสวย ไม่ต้องเสียเงินไปนวด ได้บ้าน ทำธุรกิจ คนไทยได้แต่มองตาปริบๆ ทำอะไรไม่ได้ เพราะเขาอยู่แบบถูกต้อง เข้าๆ ออกๆ บินไปมา ไม่แพงด้วย โธ่! บินไปเมืองคุนหมิง หรือสิบสองปันนา ค่าเครื่องบินไม่กี่พัน ขอวีซ่าใหม่ก็กลับเข้ามาได้แล้ว
ที่พูดมานี้ไม่ใช่ว่ารังเกียจคนจีน แต่มีความกังวลว่าถ้าไม่มีมาตรการควบคุมแล้ว จำนวนคนที่เข้ามาด้วยเงินฝากแค่ 3 ล้านบาทมันง่ายเกินไป ไหนจะมีคนจากชาติอื่นๆ ทำให้เกิดเก็งกำไรในราคาอสังหาริมทรัพย์ จนคนไทยเงินไม่มี สิ้นโอกาสทำมาหากิน
น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือการให้เมียไทยซื้อที่ดิน จ้างคนทำนา ทำเกษตร ได้ครอบครองที่ดิน มีลูกก็ได้สัญชาติไทย จะทำให้ชาวนาแท้ๆ หมดเงินทุน หมดแรง ขายที่ดินได้ราคาดี การครอบครองธุรกิจ ทรัพย์สินจะกระจายไป เพราะมีช่องโหว่ทางกฎหมายให้ทำได้
คนไทยจะไปทำธุรกิจ ลงหลักปักฐานอาศัยในประเทศอื่นก็ไม่ง่าย อยู่บนแผ่นดินเกิดแท้ๆ ยังแทบไร้โอกาส แล้วจะได้ไปอยู่ที่ไหน แม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านก็ยังเข้าไปอยู่ยาก
