คดีตำรวจ “ยำ” นักไฮโล “ประยุทธ์” ลงมาช่วยที

ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา

คดี 7 ตำรวจสายสืบ สน.สุทธิสาร บุกจับกุมคนตั้งกลุ่มเล่นไฮโล จนนำไปสู่การรุมยำ ทำให้ นายดอน แดงจันติ๊บ หนึ่งในผู้เล่นเสียชีวิตระหว่างการจับกุมนั้น คงปิดสำนวนไม่ง่ายแล้ว เพราะญาติผู้เสียชีวิตประกาศสู้ยิบตา เดินหน้าประจานพฤติกรรมของตำรวจ

ล่าสุดได้แบกโลงศพนายดอนไปเรียกร้องขอความเป็นธรรมจาก สน.สุทธิสาร เมื่อไม่ได้รับการตอบรับ จึงเคลื่อนตัวไปร้องเรียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะไม่มีที่ไหนหยิบยื่นความยุติธรรมให้ได้แล้ว

พฤติกรรมของตำรวจสายสืบ สน.สุทธิสาร ไม่มีอะไรซับซ้อนซ่อนเงื่อน เพราะคลิปที่บันทึกภาพการจับกุม เป็นหลักฐานมัดตำรวจทั้ง 7 นาย ซึ่งร่วมกันทำร้ายนายดอน จนสิ้นลมหายใจในที่เกิดเหตุ

แต่ผลสอบสวนของ สน.สุทธิสารกลับบิดเบี้ยวไปจากคลิปที่ประชาชนทั้งประเทศได้เห็น โดยอ้างว่า นายดอนขัดขืนการจับกุม และเนื่องจากเป็นคนรูปร่างใหญ่ จึงต้องใช้กำลังเข้าจับกุมตามยุทธวิธีที่ได้รับการฝึกมา และผู้ตายก็มีโรคประจำตัว

แม้ตำรวจทั้ง 7 นายจะถูกตั้งข้อหาในเบื้องต้น ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และบรรดานายตำรวจชั้นผู้ใหญ่จะออกมายืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

แต่ไม่มีใครมั่นใจว่า ครอบครัวของนายดอนจะได้รับความเป็นธรรม ในเมื่อตำรวจพยายามเปลี่ยนรูปคดีมาตั้งแต่แรก พยายามปกป้องช่วยเหลือพวกพ้อง และปล่อยให้เหยื่อการใช้ความรุนแรงของตำรวจต้องตายฟรี เหมือนอีกหลายคดีที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม การทวงถามขอความเป็นธรรมในคดีนี้ ครอบครัวของนายดอนกลับต้องสู้กับตำรวจแทบทั้ง สน.สุทธิสาร

ยิ่งร้องขอความเป็นธรรม ยิ่งถูกคุกคาม ถูกข่มขู่ แม้กระทั่งการแบกศพเหยื่อตำรวจประท้วง ยังถูก สน.สุทธิสารขู่ดำเนินคดีในข้อหาเคลื่อนย้ายศพเสียอีก

ถึงวันนี้แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ยังอยากรู้หรือไม่ว่า ทำไมประชาชนจึงเรียกร้องให้ปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำไมจึงมีกระแสให้แยกงานสอบสวนพ้นจากมือตำรวจ เพราะถ้าอยากรู้ คดีฉาวโฉ่ตำรวจ สน.สุทธิสารรุมยำนักเล่นไฮโลจนตายคาที่คือคำตอบ

เพราะคดีนี้สะท้อนถึงพฤติกรรมเลวร้ายของตำรวจได้อย่างชัดเจน ทั้งบิดเบือนรูปคดี เปลี่ยนผิดให้เป็นถูก มีการสร้างข่าวที่เท็จ และมีความจงใจกลบเกลื่อนพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่จะใช้มัดตำรวจ

การชันสูตรศพนายดอนของโรงพยาบาลตำรวจ ไม่น่าจะอยู่ในบรรทัดฐานทั่วไป และดูเหมือนมีความจงใจละเลยการชันสูตรในรายละเอียดสำคัญ จนญาติต้องส่งศพไปให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ชันสูตรอีกครั้ง จึงได้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันการถูกทำร้ายจนเสียชีวิต

นอกจากนั้น ยังมีการนำม็อบจัดตั้ง มาสร้างภาพให้กำลังใจตำรวจสน.สุทธิสาร เพื่อเบี่ยงเบนกระแสถูกโจมตี พฤติกรรมการป้องปกพวกพ้อง

การจัดตั้งม็อบให้กำลังใจตำรวจที่ก่อคดีฉาวโฉ่ เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดบ่อย โดยคดีตำรวจสน.มีนบุรีรุมซ้อม รปภ.หมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ยัดข้อหามียาบ้า ก่อนรีดไถเงิน เมื่อถูกสังคมรุมประณาม ก็มีการจัดตั้งม็อบมาให้กำลังใจตำรวจที่ทำร้ายชาวบ้าน

คดีผู้กำกับ สน.ทุ่งสองห้อง ซึ่งมีข่าวว่ากดดันพนักงานสอบสวนให้คืนรถของกลางที่ยึดมา จนนายตำรวจเจ้าคดีที่ยึดรถของกลางไว้เกิดความเครียดและ ยิงตัวตาย ทำให้ผู้กำกับถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ ก็มีการจัดตั้งม็อบมาให้กำลังใจผู้กำกับสน.ทุ่งสองห้อง

ผู้กำกับ สน.ทุ่งสองห้องที่มีม็อบมามอบดอกไม้ให้กำลังใจ หลังมีข่าวกดดันผู้ใต้บังคับบัญชาจนฆ่าตัวตาย ปัจจุบันถูกย้ายมาเป็นผู้กำกับ สน.สุทธิสาร และไม่ใช่ใครที่ไหน พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาลนั่นแหละ

ตำรวจสายสืบ สน.สุทธิสาร 7 นายที่ร่วมทำร้ายนายดอน แม้ตกอยู่ในฐานะที่น่าเห็นใจ เพราะถ้าถูกตัดสินว่ามีความผิด ไม่เพียงจะต้องติดคุก ถูกไล่ออกจากราชการ ไม่มีบำเหน็จบำนาญ ต้องหมดอนาคต ครอบครัวอาจต้องล่มสลาย

แต่ก็ต้องคิดถึงชะตากรรมของครอบครัวเหยื่อที่เซ่นสังเวยพฤติกรรมของตำรวจ สน.สุทธิสารด้วยเหมือนกัน เพราะ ชีวิตจะดำเนินต่อไปอย่างไร เมื่อไม่มีผู้นำครอบครัว และจะต้องเจ็บปวดขนาดไหน ถ้านายดอนจะตายฟรี โดยไม่มีใครลงมาหยิบยื่นความเป็นธรรมให้

พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ลงมาหยิบยื่นความช่วยเหลือครอบครัวเหยื่อตำรวจสายสืบ สน.สุทธิสารบ้างหรือ จะยืนดูตำรวจร่วมกันยัดเยียดความไม่เป็นธรรมให้ครอบครัวต้องเผชิญมรสุมชีวิตอย่างเดียวดายหรือ

และเข้าใจหรือยังว่า ทำไมประชาชนทั้งประเทศ จึงต้องรณรงค์เรียกร้องให้ผ่าตัดตำรวจ ทุกวันนี้ก็ยังไม่เข่าใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ติดขัดอะไร ทำไมจึงไม่ปฏิรูปตำรวจตำรวจเสียที