ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา
การปล่อยให้คนร้ายร่วมขบวนการวางระเบิดสี่แยกราชประสงค์ เดินทางเข้าออกประเทศเป็นว่าเล่น ทำให้กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ถูกหมายหัว และกำลังเกิดการล้างบางตามมา
แต่ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง จะเอาเป็นเอาตายกับ ตม.จริงหรือ
เพราะก่อนเกิดเรื่องราวฉาวโฉ่ การรับส่วย และอำนวยความสะดวกให้ต่างชาติเดินทางเข้าออกประเทศไทย จนนำไปสู่การก่อเหตุร้ายบริเวณราชประสงค์ ตม.ก็มีปัญหาใหญ่ถึง 2 กรณี โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้ลงโทษอะไรจริงจัง
กรณีแรกผู้บังคับการตม.แสดงความกร่าง โดยหลังจากที่จะเข้าไปส่งผู้บังคับบัญชาที่บันไดเครื่องบิน สายการบินไทย แต่พนักงานการบินไทยไม่อนุญาต เพราะผิดระเบียบ จึงกลั่นแกล้ง ตรวจสอบเครื่องบิน ของการบินไทยที่กำลังจะบินขึ้น จนเกิดความอย่างล่าช้ากว่าปกติ
เมื่อมีการเสนอข่าวการใช้อำนาจกลั่นแกล้ง จนการบินไทยต้องเสียหาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งย้ายผู้บังคับการตม.และรองผู้บังคับการ และตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิด แต่ไม่ถึงเดือน ผู้บังคับการตม.ก็ย้ายกลับมารับตำแหน่งเดิม โดนไม่มีความผิดใดๆ
ส่วนอีกกรณีคือ กรณีของพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เจ้าของคำพูด “ตำแหน่งนี้ พี่(ทักษิณ)ให้” ซึ่งพกปืนขึ้นเครื่องบิน โดยตม.อาจมีส่วนรู้เห็นและอำนวยความสะดวก แต่จนถึงวันนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่มีความคืบหน้าในการสอบสวนใดๆ
ไม่มีความพยายามสอบสวนเค้นว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์นำปืนขึ้นเครื่องบินช่องทางไหน การดำเนินคดีกับพล.ต.ท.คำรณวิทย์ก็ไม่มีความคืบหน้า และมีแนวโน้มว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดองเรื่อง และ “เป่า” คดีให้หายในกลีบเมฆ
ดังนั้น การประกาศจะเล่นงานตม. ฐานปล่อยให้กลุ่มคนร้ายมาก่อวินาศกรรมในประเทศไทย จึงอาจเป็นเพียงแค่”ปาหี่” โดยพล.ต.อ.สมยศทำเป็นขึงขัง แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในตม.
ปัญหาการรับส่วยในตม.เป็นที่รับรู้กันมานานแล้ว การหากินกับแรงงานต่างชาติ การรีดไถแรงงานต่างชาติ ทำกันเป็นขบวนการในตม. จนรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เปิดให้ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างชาติ เพื่อตัดช่องทางทำมาหากินของตม. แต่ยังมีช่องทางอื่นที่ตม.ทำมาหากินได้ รวมทั้งการรับส่วยต่างชาติที่เข้ามาเดินเพ่นพ่าน เปิดโอกาสให้กลุ่มคนร้ายแฝงตัวเข้ามา จนก่อคดีร้ายแรง ทำลายภาพพจน์ประเทศไทยอย่างยับเยิน
ตำรวจตม.สมควรที่จะต้องล้างบางกันทั้งกระบิ เพราะแม้แต่คนขับแท็กซี่ ซึ่งรับส่งคนร้ายร่วมขบวนการวางระเบิด สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังเตรียมตั้งข้อหาหนัก ทั้งที่คนขับรถแท็กซี่ เพียงต้องการทำมาหากิน แต่ไม่ระมัดระวังในพฤติกรรมคนต่างชาติเท่านั้น
ส่วนตม.เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ กินเงินเดือนภาษีประชาชน มีหน้าที่ตรวจสอบคนเข้าเมือง แต่กลับละเลยต่อหน้าที่ ใช้เครื่องแบบแสวงหาประโยชน์ ทำให้ประเทศตกอยู่ในอันตราย จึงต้องเล่นงานหนัก ทั้งทางวินัยและอาญา
พล.ต.อ.สมยศ จะมีวาระซ่อนเร้น จะมีประเด็นการเมืองในสำนักงานตำรวจแห่งชาติพ่วงเข้ามาด้วยหรืออย่างไร ไม่มีใครใส่ใจ เพราะสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องการเห็นคือ การปฏิรูป การผ่าตัดใหญ่ และการล้างบางในตม.เท่านั้น
แต่ก็ยังสงสัยกันอยู่ว่า ตำรวจจะเล่นงานพวกเดียวกันจริงหรือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะถือว่า การรับส่วย รับสินบน หรือการรีดไถ เป็นความผิดร้ายแรงถึงขั้นต้องล้างบางกันจริงหรือเปล่า
เพราะถ้าการรับส่วยถือเป็นความผิดร้ายแรงจริง ตำรวจทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติกว่า 2 แสนคน คนจะถูกไล่ออกเกือบหมดแล้ว
แต่มีตำรวจสักกี่คนที่ถูกไล่ออกเพราะรับส่วน หรือไม่มีแม้สักคนเดียว
ต้นตอสำคัญที่ทำให้กลุ่มคนร้าย เข้ามาปฏิบัติการสะเทือนขวัญคนทั้งโลกได้คือตม. ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องพุ่งเป้าเอาผิดตม. แต่ตม.ก็เหมือนหน่วยงานอื่นในสังกัดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเป็นแหล่งบ่มเพาะการทุจริต
เป็นศูนย์รวมใหญ่ที่สุดของข้าราชการที่ใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาประโยชน์ และเป็นต้นกำเนิดความฟอนเฟะต่างๆในสังคม และไม่เคยมีใครสามารถปฏิรูปหรือผ่าตัดใหญ่ตำรวจได้
แม้แต่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ก็ตาม
ระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ชี้ชัดว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากความชุ่ยของตม. ทำให้ประเทศไทยต้องรับเคราะห์ ถูกผลกระทบจากความไม่เชื่อมั่นของต่างชาติอย่างรุนแรง และกลายเป็นหมากบังคับของ พล.ต.อ.สมยศที่จะลงไปล้างบางตม.
ก่อนเกษียณในอีกไม่กี่สัปดาห์ พล.ต.อ.สมยศต้องล้างบางตม. โดยหวังว่า จะไม่มีรายการ “ปาหี่” แหกตาชาวประชาอีกเช่นเคย
และถ้าเกิดการ “แหกตา” ตม.ยังลอยนวลต่อไป พล.อ.ประยุทธ์จะยอมไหม