xs
xsm
sm
md
lg

WHO ยก “ในหลวง ร.๙” ผู้นำด้านสาธารณสุข

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 - ยอด ปชช.สักการะหน้าพระบรมศพ 17 วันทะลุ 5 แสนคน นายกฯระบุถวายพระราชสมัญญา "มหาราช" หลังพระราชพิธี เตือน ขรก.เซลฟี่ในวังไม่เหมาะสม มท.เตรียมจัดพื้นที่สร้างพระเมรุหลังปีใหม่ “องค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย” เผยแพร่คลิปพระราชกรณียกิจ “ในหลวง ร.๙” ด้านการแพทย์และสาธารณสุขเป็นภาษาอังกฤษ ยกเป็นผู้นำด้านสาธารณสุข และกษัตริย์ผู้เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน

วานนี้ (15 พ.ย.) เมื่อเวลา 07.04 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ พร้อมด้วยคุณพลอยไพลิน เจนเซน ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายภัตตาหารเช้า แด่พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

ด้าน สำนักพระราชวัง ได้สรุปประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ตั้งแต่ที่พระราชทานพระราชานุญาต จนถึงเมื่อเวลา 21.00 น. ของวันที่ 14 พ.ย. ว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 30,097คน รวม 17 วันมี 500,916 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 2,476,202.50 บาท รวม 17วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 33,967,978.75 บาท

ขณะที่ เต็นท์หน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ ฝั่งตรงข้ามประตูมณีนพรัตน์ พระบรมมหาราชวัง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงห่วงใยพสกนิกรที่เดินทางมาแสดงความอาลัย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ นำอาหาร ขนม ผลไม้ ของว่าง และน้ำดื่มพระราชทานมาแจกจ่ายให้ประชาชนตลอดทั้งวันเช่นเดิม

** ถวาย “มหาราช” หลังพระราชพิธี

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า ตนประทับใจในทุกบทบาทของพระองค์ท่าน ที่ได้เป็นข้าแผ่นดินทั้งก่อนและขณะเป็นทหารและเป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เด็กจนโต มีพระองค์เป็นต้นแบบ และทรงเป็นจอมทัพไทย ตนจึงอยากเป็นทหารของกองทัพบก จึงถือว่าประทับใจทุกเหตุการณ์ทุกช่วงวัยและทุกหน้าที่ที่รับผิดชอบ และที่ผ่านมาตนได้ถวายงานตามที่มีโอกาส ซึ่งประทับใจทุกเรื่องที่พระองค์ทำมาตลอดพระชนม์ชีพ ด้วยพระอัจฉรียภาพที่ทรงทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ตนพยายามทำให้ได้มากที่สุดตามแนวทางที่พระองค์เคยทำไว้แล้ว และรัฐบาลนำพระบรมราโชบายมาเป็นนโยบายของรัฐ ซึ่งพระองค์ทำเป็นแบบอย่าง เราต้องเอามาเป็นหลักการและประยุกต์ใช้ตามสถานการณ์ ซึ่งรัฐบาลทำตามกรอบที่ท่านทำทั้งสิ้น รวมถึงเรื่องข้าว ที่พระองค์ทรงรับสั่งหลายวาระทั้งทรงรับสั่งให้คนไทยปลูกข้าว และทำอย่างไรให้คนไทยมีรายได้สูงขึ้น จึงต้องมีการประยุกต์ ไม่ใช่ห้ามปลูกข้าว เป็นไปไม่ได้ แต่เป็นการปรับโครงสร้างให้ปลูกพืชที่เหมาะสมกับพื้นที่

ส่วนความคืบหน้าในการเสนอถวายพระราชสมัญญา "มหาราช" แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชนั้น นายกฯกล่าวว่า สิ่งที่ทุกคนคิดดีอยู่แล้ว แต่ยังไม่เหมาะสมแก่เวลา ต้องให้เสร็จสิ้นพระราชพิธีไปก่อน สำหรับการสร้างความรับรู้และบริจาคนั้น รัฐบาลต้องเป็นผู้นำในเรื่องนี้

"การสร้างอะไรที่ไหน รัฐบาลต้องเป็นคนอนุมัติ ต้องทำเรื่องขอไปทางสำนักพระราชวัง ทั้งการสร้างพระราชานุสาวรีย์ การจะถวาย การจัดตั้งมหาราช ทุกอย่างต้องผ่าน ครม.ทั้งหมด วันนี้ ครม.มีหน้าที่ทำเรื่องพระราชพิธีให้เป็นไปตามพระราชประเพณีจนถึงเวลาที่เหมาะสม วันหน้าทำก็ทัน เพราะทุกคนก็ตั้งใจทำถวายอยู่แล้ว และรัฐบาลก็คิดมาตลอด แต่เวลานี้ก็ยังไม่เหมาะที่จะมาคุยเรื่องนี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

** เตือน ขรก.เซลฟี่ในวังไม่เหมาะสม

พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีข้าราชการถ่ายรูปเซลฟี่ในพระบรมมหาราชวังว่า ได้มีการเตือนไปแล้ว ว่าเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม บางทีก็ต้องเห็นใจ ข้าราชการก็คือประชาชนเหมือนกัน ข้าราชการระดับเล็ก ๆ ได้เข้าวังก็ต้องการจะถ่ายรูปบ้าง แต่มันไม่เหมาะสมก็อย่าไปว่ากล่าวกันมากมายนักเลย

“ผมได้เตือนและสั่งการไปแล้วว่าถ้ากรณีที่พระบรมวงศานุวงศ์เสด็จ ไม่ควรใช้โทรศัพท์ และก่อนที่พระองค์ท่านจะเสด็จก็ให้พิจารณาดูเหตุผลอันสมควรอย่าใช้กันพร่ำเพรื่อ เคารพสถานที่บ้างเพราะเป็นเขตพระราชฐานในสำนักพระราชวัง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่าจะกำหนดวันหยุดราชการใหม่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะกำหนดได้ต่อเมื่อมีรัชกาลใหม่ เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องของภายในวังเป็นผู้กำหนด แต่คิดว่าวันเวลาสำคัญต่างๆในช่วงรัชกาลที่ 9 ยังคงมีอยู่ เพราะท่านทำไว้มากเพื่อประเทศไทย เพียงแต่อาจจะต้องเปลี่ยนการเรียกชื่อใหม่ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือ

** จัดกิจกรรม “รวมพลังแห่งความภักดี”

ด้าน พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบจัดกิจกรรมร่วมพลังแห่งความภักดี เพื่อประกาศความจงรักภักดี และร่วมกันรำลึกพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพปีที่ 89 โดยกิจกรรมแบ่งเป็น 3 แบบ คือ 1.การทำดีด้วยกาย เช่น การทำความสะอาดศาสนสถาน การให้บริการทางสาธารณะ และการจัดนิทรรศการหรือกิจกรรมตามที่เคยได้จัดมาแล้ว เป็นต้น 2.การทำความดีด้วยวาจา จะมีกิจกรรมทำความดีเพื่อชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และ 3.การทำความดีด้วยใจ คือ การจัดกิจกรรมอธิฐาน สำรวมจิตภาวนา การแผ่เมตตา ส่วนการปฏิญาณตนจะจัดที่เขตสถาบันการศึกษา ใน กทม.จะจัดขึ้นในวันที่ 22 พ.ย.นี้ เวลา 08.00 น. ขณะที่ในต่างจังหวัดให้จัดตามหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอ หลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายประชาชนออกนอกพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดความไม่สะดวกกับประชาชน สำหรับต่างประเทศนั้น กระทรวงการต่างประเทศจะจัดกิจกรรมในวันที่ 20 พ.ย.นี้ เนื่องจากจะง่ายต่อการจัดงานในต่างประเทศ ทั้งนี้ ในส่วนของรัฐบาลจะจัดที่ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้นำในการปฏิญาณ

** จัดพื้นที่สร้างพระเมรุหลังปีใหม่

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการคืนพื้นที่สนามหลวงให้กรมศิลปากรเพื่อดำเนินการสร้างพระเมรุมาศ ว่า ได้เตรียมการขั้นต้นไว้แล้ว เพราะกรมศิลปากรต้องสร้างพระเมรุมาศ โดยศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) เป็นผู้จัดพื้นที่ให้ประชาชนที่มาสักการะพระบรมศพ ทั้งนี้ ตนทราบว่า ศตส.โดยกรุงเทพมหานคร (กทม.) ประเมินว่าในช่วงปีใหม่จะมีประชาชนเดินทางมาสักการะพระบรมศพฯ จำนวนมาก ขอให้เลยช่วงปีใหม่ไปก่อนจึงจะคืนพื้นที่ แต่ขึ้นกับฝ่ายก่อสร้างว่าจำเป็นมากน้อยเพียงใด หากจำเป็นต้องขอคืนพื้นที่ก่อน ก็จะคืนให้ ส่วนการนำประชาชนจากต่างจังหวัดเข้าสักการะพระบรมศพฯ ยังคงจำนวนวันละ 3,000 คนเท่าเดิม โดยทุกหมู่บ้านจะเรียงลำดับกันมา จังหวัดละประมาณ 4 เที่ยว แต่มีผู้เดินทางมาเอง ซึ่งเราพยายามขอให้ประสานมาทางเราเพื่อที่จะได้จัดลำดับได้ เพราะคนที่อยู่ไกลอาจจะมีปัญหามาแล้วไม่ได้สักการะพระบรมศพ และหากต้องค้างคืน จะเป็นปัญหา อย่างไรก็ตามสำหรับการจัดสรรเวลานั้น อยู่ที่ความเหมาะสม

** WHO ร่วมสรรเสริญ “ในหลวง ร.๙”

วันเดียวกัน เฟซบุ๊กองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย “World Health Organization Thailand” ได้โพสต์คลิปวิดีโอความยาว 8.37 นาที โดยระบุข้อความทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นแรงบันดาลใจสำหรับเรา องค์การอนามัยโลก และผู้นำอื่นๆ ของโลก พระราชกรณียกิจต่างๆ ด้านการสาธารณสุขล้วนแต่เป็นเครื่องสะท้อนหลักการ “สุขภาพดีถ้วนหน้า” อย่างแท้จริง ที่เราต้องยึดเป็นแบบอย่างเพื่อปฏิบัติตามและต่อยอด นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงเป็นแบบอย่างที่ดีของประชากรไทย และโลก ในการต่อสู้กับปัญหาด้านสาธารณสุขที่สำคัญต่างๆ ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา

“องค์การอนามัยโลกจะเดินหน้าสานต่อเจตนารมณ์ของพระองค์ในการพัฒนางานด้านสาธารณสุขของไทย และพระองค์จะทรงสถิตย์ในใจของเราตลอดไป มิใช่ในฐานะผู้นำด้านสาธารณสุขเท่านั้น แต่ในฐานะที่ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนด้วย” เฟซบุ๊ก WHO ประเทศไทย ระบุ.
กำลังโหลดความคิดเห็น