การที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือกลุ่มการเมืองใดจะออกมาขายข้าวด้วยปริมาณน้อยนิดแล้วโปรโมทกันอย่างครึกโครม หรือซีพีให้ขายในร้านเซเว่น ถือว่าเป็นเรื่องดีทั้งนั้นขอให้มองในมุมบวก และถือว่าเป็นเรื่องดีเช่นกันที่ รัฐบาลเปิดกว้างให้ทุกฝ่ายเข้ามาช่วยเหลือ พร้อมทั้งฟื้นฟูการรวมกลุ่มแบบสหกรณ์ และให้หน่วยงานของรัฐเข้ามาช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีและมีความหวัง โดยเฉพาะการใช้ชาวนาได้ยืนได้ด้วยตัวเอง มีพลังต่อรองมากขึ้น นี่แหละคือการช่วยเหลือที่ยั่งยืนและเป็นทางรอดที่แท้จริง
"รัฐบาลส่งเสริมให้พี่น้องเกษตรกรชาวนาชาวไร่ และวิสาหกิจชุมชน รวมกลุ่มกันเป็นสหกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน จากที่แต่ละคนไม่สามารถแก้ปัญหาตามลำพังได้ไปสู่การดำเนินวิสาหกิจที่ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน มีเงินทุนหมุนเวียน มีอำนาจต่อรองในการซื้อขายสินค้า และยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ"
"ที่ผ่านมารัฐบาลได้จัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ หรือ CDC ซึ่งขณะนี้มีอยู่ประมาณ 107 แห่งทั่วประเทศ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีกเพื่อตอบสนองความต้องการของเกษตรกร และสมาชิกสหกรณ์ที่ส่งสินค้าไปขายยังศูนย์ดังกล่าว โดยตั้งแต่เริ่มจัดตั้งเดือน ต.ค.58-พ.ค.59 เพียง 6 เดือน มียอดจำหน่ายรวมกว่า 6,300 ล้านบาท"
"รัฐบาลยังได้ต่อยอดการซื้อขายสินค้าของสหกรณ์ด้วยการเชื่อมโยงกับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ตามนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และไทยแลนด์ 4.0 เพิ่มช่องทางการตลาดให้เข้าถึงผู้บริโภคทั่วโลก โดยนำข้อมูลผลิตภัณฑ์ของสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ที่มีคุณภาพดี ไปบรรจุไว้ในตลาดสินค้าสหกรณ์ออนไลน์ www.co-opclick.com ประกอบด้วย สินค้า 9 หมวด คือ ข้าวสาร น้ำดื่ม นม สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าแปรรูป ผลไม้ กาแฟ สินค้าประมง และสินค้าโอท็อป"
"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชื่นชมการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่พยายามช่วยเหลือเกษตรกรอย่างครบวงจร เป็นการแก้ปัญหาในระยะยาว ไม่ใช่อุดหนุนเงินแต่เพียงอย่างเดียว โดยย้ำว่า จุดเด่นของตลาดออนไลน์ที่รัฐบาลส่งเสริม ช่วยทำให้เกษตรกรและสหกรณ์ประหยัดค่าใช้จ่าย ลดต้นทุนการจัดทำห้องแสดงสินค้าหรืออาคารจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และขยายตลาดสินค้าไปได้ในทุกพื้นที่"
"นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้ปรารภด้วยว่า ประเทศไทยมีศักยภาพด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์อย่างมาก โดยในปี 2558 มูลค่าการซื้อขายเติบโตถึง 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจบริการที่พัก และอาหาร การผลิต ค้าปลีกและส่ง จึงต้องยกระดับสินค้าเกษตรให้มีมูลค่าการซื้อขายสูงขึ้นด้วยการใช้ประโยชน์จากช่องทางนี้ รัฐบาลจะส่งเสริมความเข้มแข็งของอีคอมเมิร์ซ อย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพด้านอีคอมเมิร์ซ ของภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และประชาชนให้ดีขึ้น โดยล่าสุด Alibaba.com ได้ร่วมมือกับ ม.หอการค้าไทย เปิดศูนย์ฝึกอบรมด้านอีคอมเมิร์ซ ในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยสร้างผู้ประกอบการใหม่ได้ 5,000 คนต่อปี และช่วยให้เอสเอ็มอีไทยสามารถขยายธุรกิจสู่ระดับนานาชาติได้มากยิ่งขึ้น"
คำแถลงของ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เปิดเผยถึงคำพูดและความต้องการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในการช่วยชาวนา และเกษตรกร
แน่นอนว่าทุกยุคทุกสมัยเมื่อถึงฤดูการเก็บเกี่ยว หรือฤดูที่ผลผลิตทางการเกษตรออกมาพร้อมกันเป็นจำนวนมากก็จะทำให้ราคาขายตกต่ำถูกกดราคาเป็นแบบนี้มาช้านาน และนับวันยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ นั่นเพราะยิ่งนานเกษตกรยิ่งมีหนี้สินมาก จนล้นพ้นตัว
สำหรับปีนี้ ก็แทบไม่ต่างจากปีก่อน โดยเฉพาะเรื่องราคาข้าว แม้ว่าอาจจะมีผลกระทบทางด้านราคาที่ลดลงกว่าเดิม อันเนื่องมาจากสต็อกเดิมที่ค้างมาจากโครงการรับจำนำข้าวที่รอเน่าเสียอยู่ในโกดังอีกกว่า 18 ล้านตัน ยังระบายออกไปได้ยากเป็นตัวซ้ำเติมด้านจิตวิทยาของราคาที่ทำให้พ่อค้านำมากดราคารับซื้อ ประกอบกับปีนี้แม้ว่าจะเจอกับภัยแล้งที่สาหัส แต่ก็กลายเป็นว่าผลผลิตข้าวในปีนี้กลับมีมากและออกมาสมทบกับข้าวเก่าจนกลายเป็นปัญหาสองสามเด้งพร้อมๆ กัน ซึ่งรวมถึงปริมาณของผลผลิตข้าวของประเทศคู่แข่งที่มีจำนวนมาก
**ดังนั้น อย่าได้แปลกใจที่ปีนี้เรื่องราคาข้าวกำลังกลายเป็นประเด็นทางการเมืองเหมือนปีก่อนๆ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันก็ต้องเป็นแบบนั้น เพราะข้าวคือเครื่องมือทางการเมืองของบรรดาพรรคการเมือง และนักการเมืองที่แข่งขันกันหาคะแนนเสียง ใช้ชาวนาและเกษตรกรเป็นเครื่องมือ และยิ่งปีนี้มีกลุ่มการเมืองที่วางเดิมพันเอาไว้สูงต้องการดิ้นรนเพื่อเอาตัวให้รอดมันก็ยิ่งเข้มข้น
แม้ว่านาทีนี้ กรณีการออกมาขายข้าวของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่กำลังถูกดำเนินคดีจากปัญหาโครงการรับจำนำข้าว และถูกเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท จะหวังผลทางการเมืองหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าใครที่พอมีสติปัญญาก็น่าจะมองออกว่าเป็นแบบไหน เป็นการเมืองแบบต้องการดิสเครดิตรัฐบาล หรือต้องการความเห็นใจจากชาวนาหลังจากตัวเองต้องเสี่ยงคุก และเสี่ยงถูกยึดทรัพย์ในอนาคตอันไม่นานนัก หรือไม่ก็ตาม
หรืออีกด้านหนึ่ง เวลานี้ก็มีการประกาศออกมาจากเครือบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี ว่าจะรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในราคาตลาด แล้วนำมาสีเป็นข้าวสารขายให้กับผูับริโภคในราคาทุน โดยจะให้วางขายในร้านเซเวน อีเลฟเวน และ ร้านทรูช็อป ในอีกไม่นานข้างหน้า
ที่ยกตัวอย่างมาสองรายนี้ก่อน เป็นเพราะทั้งสองรายนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่เสมอว่า "หวังผลทางการเมือง" หรือไม่มีเจตนาช่วยเหลือจริงจังอะไรประมาณนั้น แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง ในมุมอื่นที่สร้างกระแสการตื่นตัวในการช่วยเหลือชาวนา มองในแง่บวกก็อย่าถือสา มองเป็นการช่วยเหลือกันคนละไม้ละมือ อย่างไรก็ดี สิ่งที่อยากเห็นก็คือ ขอให้ช่วยเหลือกันยาวๆ นานๆ อย่าทำกันแบบวันสองวันให้มีการถ่ายรูปลงโซเชียลฯ แล้วหายไป
**ที่สำคัญกรณีของ ยิ่งลักษณ ชินวัตร นั้นการออกมาขายข้าวสารช่วยชาวนา มันคนละเรื่องกับการดำเนินคดี และการเรียกค่าเสียหายจะมาปะปน หรือลดราคาค่าเสียหายไม่ได้ ทุกอย่างว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ผิดถูกว่ากันไป
ขณะเดียวกัน จากราคาข้าวตกต่ำในปีนี้มองในมุมบวกก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ได้เห็นปรากฏการณ์ในการร่วมแรงร่วมใจกันของทุกภาคส่วนในเข้ามาช่วยเหลือทั้งในการช่วยขายข้าว การหาตลาด การออกแบบผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงหน่วยงานกลไกของรัฐ ทหาร รัฐวิสาหกิจ ที่ร่วมใจกันช่วยเหลืออย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แม้ว่าการช่วยเหลือแบบนี้จะเป็นการช่วยเหลือแบบเฉพาะหน้า และระบายข้าวดูดซับตลาดได้ไม่มากนักก็ตาม เมื่อเทียบกับปริมาณข้าวที่มีอยู่ แต่อย่างน้อยก็ได้เห็นการร่วมแรงร่วมใจของพี่น้องคนไทย ได้เห็นการตื่นตัวสำหรับการรวมกลุ่ม การกระตุ้นพัฒนาระบบสหกรณ์ "ตามรอยพ่อหลวง" ได้เห็นการตื่นตัวอย่างจริงจัง ในแบบ "เกษตรทฤษฎีใหม่" การน้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต แบบนี้ต่างหากที่เป็นแนวทางที่ยั่งยืน
ที่สำคัญในคราวนี้ได้เห็นการตื่นตัวของบรรดา "ลูกหลานชาวนา" ที่เป็นคนรุ่นใหม่ หันมาใช้สื่อออนไลน์ให้เป็นประโยชน์ในการหาตลาด ขายข้าวผ่านโซเซียลฯ กันอย่างคึกคัก แบบนี้ต่างหากที่เป็นความหวังที่จะทำให้ชาวนาในอนาคตได้มีความหวังที่จะยืนด้วยลำแข้ง มีช่องทางในการขายในการหาตลาดได้มากกว่าเดิม
ดังนั้น การที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือกลุ่มการเมืองใดจะออกมาขายข้าวด้วยปริมาณน้อยนิด แล้วโปรโมตกันอย่างครึกโครม หรือ ซีพี ให้ขายในร้านเซเว่น ถือว่าเป็นเรื่องดีทั้งนั้น ขอให้มองในมุมบวก และถือว่าเป็นเรื่องดีเช่นกันที่ รัฐบาลเปิดกว้างให้ทุกฝ่ายเข้ามาช่วยเหลือ พร้อมทั้งฟื้นฟูการรวมกลุ่มแบบสหกรณ์ และให้หน่วยงานของรัฐ เข้ามาช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีและมีความหวัง
**โดยเฉพาะการให้ชาวนาได้ยืนได้ด้วยตัวเอง มีพลังต่อรองมากขึ้น นี่แหละคือการช่วยเหลือที่ยั่งยืนและเป็นทางรอดที่แท้จริง !!
"รัฐบาลส่งเสริมให้พี่น้องเกษตรกรชาวนาชาวไร่ และวิสาหกิจชุมชน รวมกลุ่มกันเป็นสหกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน จากที่แต่ละคนไม่สามารถแก้ปัญหาตามลำพังได้ไปสู่การดำเนินวิสาหกิจที่ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน มีเงินทุนหมุนเวียน มีอำนาจต่อรองในการซื้อขายสินค้า และยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ"
"ที่ผ่านมารัฐบาลได้จัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ หรือ CDC ซึ่งขณะนี้มีอยู่ประมาณ 107 แห่งทั่วประเทศ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีกเพื่อตอบสนองความต้องการของเกษตรกร และสมาชิกสหกรณ์ที่ส่งสินค้าไปขายยังศูนย์ดังกล่าว โดยตั้งแต่เริ่มจัดตั้งเดือน ต.ค.58-พ.ค.59 เพียง 6 เดือน มียอดจำหน่ายรวมกว่า 6,300 ล้านบาท"
"รัฐบาลยังได้ต่อยอดการซื้อขายสินค้าของสหกรณ์ด้วยการเชื่อมโยงกับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ตามนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และไทยแลนด์ 4.0 เพิ่มช่องทางการตลาดให้เข้าถึงผู้บริโภคทั่วโลก โดยนำข้อมูลผลิตภัณฑ์ของสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ที่มีคุณภาพดี ไปบรรจุไว้ในตลาดสินค้าสหกรณ์ออนไลน์ www.co-opclick.com ประกอบด้วย สินค้า 9 หมวด คือ ข้าวสาร น้ำดื่ม นม สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าแปรรูป ผลไม้ กาแฟ สินค้าประมง และสินค้าโอท็อป"
"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชื่นชมการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่พยายามช่วยเหลือเกษตรกรอย่างครบวงจร เป็นการแก้ปัญหาในระยะยาว ไม่ใช่อุดหนุนเงินแต่เพียงอย่างเดียว โดยย้ำว่า จุดเด่นของตลาดออนไลน์ที่รัฐบาลส่งเสริม ช่วยทำให้เกษตรกรและสหกรณ์ประหยัดค่าใช้จ่าย ลดต้นทุนการจัดทำห้องแสดงสินค้าหรืออาคารจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และขยายตลาดสินค้าไปได้ในทุกพื้นที่"
"นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้ปรารภด้วยว่า ประเทศไทยมีศักยภาพด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์อย่างมาก โดยในปี 2558 มูลค่าการซื้อขายเติบโตถึง 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจบริการที่พัก และอาหาร การผลิต ค้าปลีกและส่ง จึงต้องยกระดับสินค้าเกษตรให้มีมูลค่าการซื้อขายสูงขึ้นด้วยการใช้ประโยชน์จากช่องทางนี้ รัฐบาลจะส่งเสริมความเข้มแข็งของอีคอมเมิร์ซ อย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพด้านอีคอมเมิร์ซ ของภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และประชาชนให้ดีขึ้น โดยล่าสุด Alibaba.com ได้ร่วมมือกับ ม.หอการค้าไทย เปิดศูนย์ฝึกอบรมด้านอีคอมเมิร์ซ ในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยสร้างผู้ประกอบการใหม่ได้ 5,000 คนต่อปี และช่วยให้เอสเอ็มอีไทยสามารถขยายธุรกิจสู่ระดับนานาชาติได้มากยิ่งขึ้น"
คำแถลงของ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เปิดเผยถึงคำพูดและความต้องการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในการช่วยชาวนา และเกษตรกร
แน่นอนว่าทุกยุคทุกสมัยเมื่อถึงฤดูการเก็บเกี่ยว หรือฤดูที่ผลผลิตทางการเกษตรออกมาพร้อมกันเป็นจำนวนมากก็จะทำให้ราคาขายตกต่ำถูกกดราคาเป็นแบบนี้มาช้านาน และนับวันยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ นั่นเพราะยิ่งนานเกษตกรยิ่งมีหนี้สินมาก จนล้นพ้นตัว
สำหรับปีนี้ ก็แทบไม่ต่างจากปีก่อน โดยเฉพาะเรื่องราคาข้าว แม้ว่าอาจจะมีผลกระทบทางด้านราคาที่ลดลงกว่าเดิม อันเนื่องมาจากสต็อกเดิมที่ค้างมาจากโครงการรับจำนำข้าวที่รอเน่าเสียอยู่ในโกดังอีกกว่า 18 ล้านตัน ยังระบายออกไปได้ยากเป็นตัวซ้ำเติมด้านจิตวิทยาของราคาที่ทำให้พ่อค้านำมากดราคารับซื้อ ประกอบกับปีนี้แม้ว่าจะเจอกับภัยแล้งที่สาหัส แต่ก็กลายเป็นว่าผลผลิตข้าวในปีนี้กลับมีมากและออกมาสมทบกับข้าวเก่าจนกลายเป็นปัญหาสองสามเด้งพร้อมๆ กัน ซึ่งรวมถึงปริมาณของผลผลิตข้าวของประเทศคู่แข่งที่มีจำนวนมาก
**ดังนั้น อย่าได้แปลกใจที่ปีนี้เรื่องราคาข้าวกำลังกลายเป็นประเด็นทางการเมืองเหมือนปีก่อนๆ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันก็ต้องเป็นแบบนั้น เพราะข้าวคือเครื่องมือทางการเมืองของบรรดาพรรคการเมือง และนักการเมืองที่แข่งขันกันหาคะแนนเสียง ใช้ชาวนาและเกษตรกรเป็นเครื่องมือ และยิ่งปีนี้มีกลุ่มการเมืองที่วางเดิมพันเอาไว้สูงต้องการดิ้นรนเพื่อเอาตัวให้รอดมันก็ยิ่งเข้มข้น
แม้ว่านาทีนี้ กรณีการออกมาขายข้าวของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่กำลังถูกดำเนินคดีจากปัญหาโครงการรับจำนำข้าว และถูกเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท จะหวังผลทางการเมืองหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าใครที่พอมีสติปัญญาก็น่าจะมองออกว่าเป็นแบบไหน เป็นการเมืองแบบต้องการดิสเครดิตรัฐบาล หรือต้องการความเห็นใจจากชาวนาหลังจากตัวเองต้องเสี่ยงคุก และเสี่ยงถูกยึดทรัพย์ในอนาคตอันไม่นานนัก หรือไม่ก็ตาม
หรืออีกด้านหนึ่ง เวลานี้ก็มีการประกาศออกมาจากเครือบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี ว่าจะรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในราคาตลาด แล้วนำมาสีเป็นข้าวสารขายให้กับผูับริโภคในราคาทุน โดยจะให้วางขายในร้านเซเวน อีเลฟเวน และ ร้านทรูช็อป ในอีกไม่นานข้างหน้า
ที่ยกตัวอย่างมาสองรายนี้ก่อน เป็นเพราะทั้งสองรายนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่เสมอว่า "หวังผลทางการเมือง" หรือไม่มีเจตนาช่วยเหลือจริงจังอะไรประมาณนั้น แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง ในมุมอื่นที่สร้างกระแสการตื่นตัวในการช่วยเหลือชาวนา มองในแง่บวกก็อย่าถือสา มองเป็นการช่วยเหลือกันคนละไม้ละมือ อย่างไรก็ดี สิ่งที่อยากเห็นก็คือ ขอให้ช่วยเหลือกันยาวๆ นานๆ อย่าทำกันแบบวันสองวันให้มีการถ่ายรูปลงโซเชียลฯ แล้วหายไป
**ที่สำคัญกรณีของ ยิ่งลักษณ ชินวัตร นั้นการออกมาขายข้าวสารช่วยชาวนา มันคนละเรื่องกับการดำเนินคดี และการเรียกค่าเสียหายจะมาปะปน หรือลดราคาค่าเสียหายไม่ได้ ทุกอย่างว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ผิดถูกว่ากันไป
ขณะเดียวกัน จากราคาข้าวตกต่ำในปีนี้มองในมุมบวกก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ได้เห็นปรากฏการณ์ในการร่วมแรงร่วมใจกันของทุกภาคส่วนในเข้ามาช่วยเหลือทั้งในการช่วยขายข้าว การหาตลาด การออกแบบผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงหน่วยงานกลไกของรัฐ ทหาร รัฐวิสาหกิจ ที่ร่วมใจกันช่วยเหลืออย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แม้ว่าการช่วยเหลือแบบนี้จะเป็นการช่วยเหลือแบบเฉพาะหน้า และระบายข้าวดูดซับตลาดได้ไม่มากนักก็ตาม เมื่อเทียบกับปริมาณข้าวที่มีอยู่ แต่อย่างน้อยก็ได้เห็นการร่วมแรงร่วมใจของพี่น้องคนไทย ได้เห็นการตื่นตัวสำหรับการรวมกลุ่ม การกระตุ้นพัฒนาระบบสหกรณ์ "ตามรอยพ่อหลวง" ได้เห็นการตื่นตัวอย่างจริงจัง ในแบบ "เกษตรทฤษฎีใหม่" การน้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต แบบนี้ต่างหากที่เป็นแนวทางที่ยั่งยืน
ที่สำคัญในคราวนี้ได้เห็นการตื่นตัวของบรรดา "ลูกหลานชาวนา" ที่เป็นคนรุ่นใหม่ หันมาใช้สื่อออนไลน์ให้เป็นประโยชน์ในการหาตลาด ขายข้าวผ่านโซเซียลฯ กันอย่างคึกคัก แบบนี้ต่างหากที่เป็นความหวังที่จะทำให้ชาวนาในอนาคตได้มีความหวังที่จะยืนด้วยลำแข้ง มีช่องทางในการขายในการหาตลาดได้มากกว่าเดิม
ดังนั้น การที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือกลุ่มการเมืองใดจะออกมาขายข้าวด้วยปริมาณน้อยนิด แล้วโปรโมตกันอย่างครึกโครม หรือ ซีพี ให้ขายในร้านเซเว่น ถือว่าเป็นเรื่องดีทั้งนั้น ขอให้มองในมุมบวก และถือว่าเป็นเรื่องดีเช่นกันที่ รัฐบาลเปิดกว้างให้ทุกฝ่ายเข้ามาช่วยเหลือ พร้อมทั้งฟื้นฟูการรวมกลุ่มแบบสหกรณ์ และให้หน่วยงานของรัฐ เข้ามาช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีและมีความหวัง
**โดยเฉพาะการให้ชาวนาได้ยืนได้ด้วยตัวเอง มีพลังต่อรองมากขึ้น นี่แหละคือการช่วยเหลือที่ยั่งยืนและเป็นทางรอดที่แท้จริง !!
