ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา
คลิปสั้นๆ ความยาวเพียง1นาทีเศษ ที่ถูกเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย บอกเล่าเรื่องราวพฤติกรรมความก้าวร้าว การใช้ความรุนแรง ได้ทำให้อนาคตอันสดใสของดารานักแสดงและพิธีกรหนุ่มคนหนึ่งต้องดับสลายลงในทันที
“น็อต” หรือนายอัครณัฐ อริยฤทธ์วิกุล ดารานักแสดงและพิธีกร สังกัดค่ายแกรมมี่ ซึ่งแสดงบทเป็นอันธพาลบนท้องถนน กระชากคอคนขับรถมอเตอร์ไซด์ คู่กรณีที่เฉี่ยวชนรถมินิคูเปอร์มาต่อยและตบ จนดั้งจมูกหัก ก่อนบังคับให้กราบรถ กำลังจะจมธรณี หลังจากคลิปพฤติกรรมถูกเผยแพร่ และถูกสังคมรุมประณามอย่างหนักหน่วง
อารมณ์เพียงชั่ววูบ ได้เปลี่ยนชีวิตของนักแสดงหนุ่มรายนี้ภายในพริบตา โดยต้นสังกัดประกาศยกเลิกสัญญา สถานีโทรทัศน์บางแห่งออกแถลงการณ์ถอดรายการที่จัดอยู่ องค์กรที่เคยมอบรางวัลนักแสดงตัวอย่าง เตรียมเรียกรางวัลคืน
โลกโซเชียลมีเดีย เคยตีแผ่พฤติกรรมด้านมืดของคนเด่นคนดังมามากมาย แต่ไม่เคยมีดารานักแสดงคนใด แสดงความกร่างและก้าวร้าวรุนแรงได้ถึงใจเหมือน “น็อต” จึงไม่น่าแปลกว่า ทำไมปฏิกิริยาการต่อต้านจะลุกลามขยายวงอย่างรวดเร็ว
แทบไม่มีใครแสดงความเห็นอกเห็นใจ “น็อต” มีแต่การทับถม มีแต่การซ้ำเติม มีแต่กระแสเรียกร้องไม่ให้นักแสดงห้าวรายนี้มีที่ยืนในสังคม เพราะพฤติกรรมที่ก่อไว้เกินขีดจำกัดที่สาธารณชนจะยอมรับได้
ในอดีตใครที่มีพฤติกรรมเหมือน “น็อต” มักถูกประณามว่า เป็นลูกที่พ่อแม่ไม่สั่งสอน แต่ปัจจุบันไม่ค่อยได้ยินเสียงประณามทำนองนี้แล้ว เพราะคนที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว เป็นอันธพาล ข่มเหงรังแกคนอื่น ไม่ได้มีสาเหตุจากพ่อแม่ไม่อบรมสั่งสอนเท่านั้น แต่มีเหตุปัจจัยอื่นมากมาย
และพฤติกรรมความก้าวร้าวและใช้ความรุนแรง ก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับ “น็อต”เพียงคนเดียว
ลูกของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เคยสร้างตำนานความก้าวร้าว จนกระฉ่อนทั้งประเทศมาแล้ว และหากไม่มีพ่อเป็นนักการเมืองที่มีอำนาจ คงไม่มีที่ยืนในสังคมเหมือนกัน
ดีเจเก่งหรือนายภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ ซึ่งจัดฉากถอยรถชนคู่กรณี แต่อ้างว่า ถูกคู่กรณีขับรถชนท้าย ก็เป็นอีกกรณีที่สะท้อนความวิบัติของสังคม ยังไม่นับรวมเหตุการณ์ความก้าวร้าวรุนแรงต่างๆ ที่ถูกถ่ายทอดผ่านโซเชียลมีเดียและเหตุการณ์ที่ไม่มีบันทึกเผยแพร่
พฤติการณ์ของ “น็อต” ถูกสังคมลงทัณฑ์อย่างสาสมจนไม่ได้ผุดได้เกิดแล้ว แต่ไม่ได้เป็นบทสรุปว่า การใช้ความก้าวร้าวรุนแรงในสังคมจะหมดไป เพราะคนที่มีพฤติกรรมลักษณะเดียวกับ “น็อต” ยังมีอยู่ และพร้อมจะก่อเหตุร้ายได้ตลอดเวลา เพียงแต่ว่า ใครจะโชคร้ายเจอคนประเภทเดียวกับ “น็อต” เท่านั้น
กฎหมายและมาตรการทางสังคม ใช้ควบคุมพฤติกรรมความก้าวร้าวรุนแรงได้ระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะตราบใดที่คนยังไม่สำนึกในผิดชอบชั่วดี ไม่เกรงกลัวกฎหมาย พฤติกรรมความป่าเถื่อนยังจะเกิดขึ้นต่อไป โดยเฉพาะพฤติกรรมที่เกิดจากบรรดาลูกผู้มีอำนาจที่ไม่ได้รับการสั่นสอนทั้งหลาย
ไม่ว่าสังคมจะประณามนาย “น็อต” อย่างไร แต่สิ่งที่ต้องยอมรับกันคือ “น็อต” เป็นผลิตผลของสังคม พฤติกรรมก้าวร้าวดุจอันธพาล เป็นผลมาจากสังคมที่ขาดการอบรมสั่งสอนในเรื่องคุณธรรม ศีลธรรม ความดี และการปลูกฝังให้เป็นคนดี
ถ้ามาตรฐานทางสังคมเข้มแข็ง ถ้าทุกภาคส่วนเคร่งครัดในการปลูกฝังให้เป็นคนดี มีการอมรบสั่งสอนเรื่องคุณธรรม ศีลธรรมและการทำความดี สังคมคงไม่เต็มไปด้วยคนที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว และก่อความเดือดร้อนรำคาญเหมือนปัจจุบัน
สังคมที่เสื่อมทรุดลง เป็นเพราะคนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของคนอื่น ไม่กลัวถูกประณาม ไม่กลัวแม้แต่เสียงสาปแช่ง
พฤติกรรมกร่างหลุดโลกของ “น็อต” สะท้อนให้เห็นว่า ดารานักแสดงและพิธีกรที่สิ้นอนาคตรายนี้ ขาดการหล่อหลอมด้านศีลธรรม ขาดการปลูกฝังให้เป็นคนดี และน่าจะไม่มีการอบรมสั่งสอนให้แยกแยะผิดชอบชั่วดี
การหยุดยั้งความเสื่อมทรามทางสังคมนั้น มาตรการทางกฎหมายเพียงอย่างเดียวคงไม่เห็นผล มาตรการลงโทษทางสังคมคงไม่เพียงพอ แต่จะต้องแก้ที่ต้นเหตุ โดยการปลูกฝังให้ทุกคนมีสำนึก อบรมสั่งสอนให้ตระหนักถึงศีลธรรม และคุณค่าของการเป็นคนดี โดยเริ่มปลูกฝังกันตั้งแต่ครอบครัว สถาบันการศึกษา องค์กรศาสนา หน่วยงานรัฐและภาคเอกชน
ถ้าทุกภาคส่วนใส่ใจปลูกฝังให้คนมีสำนึก ยึดถือศีลธรรมและเป็นคนดี สังคมไทยจะสงบเรียบร้อยขึ้น พฤติกรรมเลวร้ายลักษณะเดียวกันกับ “น็อต” คงไม่ปรากฏให้เห็นบ่อยครั้งเหมือนทุกวันนี้
จะฝากผีฝากไข้ภารกิจ การจัดหลักสูตรอบรมสั่งสอนศีลธรรมและการปลูกฝังให้คนเป็นคนดีไว้กับรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชาได้ไหมหนอ
ต้องร่วมแรงร่วมใจช่วยกันสร้างคนดีแล้ว ไล่คนไม่ดีไปให้พ้นๆ จะเป็นดาราหรือนักการเมือง ถ้าไม่รักดี อย่าให้มีที่ยืนในแผ่นดินนี้
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา
คลิปสั้นๆ ความยาวเพียง1นาทีเศษ ที่ถูกเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย บอกเล่าเรื่องราวพฤติกรรมความก้าวร้าว การใช้ความรุนแรง ได้ทำให้อนาคตอันสดใสของดารานักแสดงและพิธีกรหนุ่มคนหนึ่งต้องดับสลายลงในทันที
“น็อต” หรือนายอัครณัฐ อริยฤทธ์วิกุล ดารานักแสดงและพิธีกร สังกัดค่ายแกรมมี่ ซึ่งแสดงบทเป็นอันธพาลบนท้องถนน กระชากคอคนขับรถมอเตอร์ไซด์ คู่กรณีที่เฉี่ยวชนรถมินิคูเปอร์มาต่อยและตบ จนดั้งจมูกหัก ก่อนบังคับให้กราบรถ กำลังจะจมธรณี หลังจากคลิปพฤติกรรมถูกเผยแพร่ และถูกสังคมรุมประณามอย่างหนักหน่วง
อารมณ์เพียงชั่ววูบ ได้เปลี่ยนชีวิตของนักแสดงหนุ่มรายนี้ภายในพริบตา โดยต้นสังกัดประกาศยกเลิกสัญญา สถานีโทรทัศน์บางแห่งออกแถลงการณ์ถอดรายการที่จัดอยู่ องค์กรที่เคยมอบรางวัลนักแสดงตัวอย่าง เตรียมเรียกรางวัลคืน
โลกโซเชียลมีเดีย เคยตีแผ่พฤติกรรมด้านมืดของคนเด่นคนดังมามากมาย แต่ไม่เคยมีดารานักแสดงคนใด แสดงความกร่างและก้าวร้าวรุนแรงได้ถึงใจเหมือน “น็อต” จึงไม่น่าแปลกว่า ทำไมปฏิกิริยาการต่อต้านจะลุกลามขยายวงอย่างรวดเร็ว
แทบไม่มีใครแสดงความเห็นอกเห็นใจ “น็อต” มีแต่การทับถม มีแต่การซ้ำเติม มีแต่กระแสเรียกร้องไม่ให้นักแสดงห้าวรายนี้มีที่ยืนในสังคม เพราะพฤติกรรมที่ก่อไว้เกินขีดจำกัดที่สาธารณชนจะยอมรับได้
ในอดีตใครที่มีพฤติกรรมเหมือน “น็อต” มักถูกประณามว่า เป็นลูกที่พ่อแม่ไม่สั่งสอน แต่ปัจจุบันไม่ค่อยได้ยินเสียงประณามทำนองนี้แล้ว เพราะคนที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว เป็นอันธพาล ข่มเหงรังแกคนอื่น ไม่ได้มีสาเหตุจากพ่อแม่ไม่อบรมสั่งสอนเท่านั้น แต่มีเหตุปัจจัยอื่นมากมาย
และพฤติกรรมความก้าวร้าวและใช้ความรุนแรง ก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับ “น็อต”เพียงคนเดียว
ลูกของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เคยสร้างตำนานความก้าวร้าว จนกระฉ่อนทั้งประเทศมาแล้ว และหากไม่มีพ่อเป็นนักการเมืองที่มีอำนาจ คงไม่มีที่ยืนในสังคมเหมือนกัน
ดีเจเก่งหรือนายภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ ซึ่งจัดฉากถอยรถชนคู่กรณี แต่อ้างว่า ถูกคู่กรณีขับรถชนท้าย ก็เป็นอีกกรณีที่สะท้อนความวิบัติของสังคม ยังไม่นับรวมเหตุการณ์ความก้าวร้าวรุนแรงต่างๆ ที่ถูกถ่ายทอดผ่านโซเชียลมีเดียและเหตุการณ์ที่ไม่มีบันทึกเผยแพร่
พฤติการณ์ของ “น็อต” ถูกสังคมลงทัณฑ์อย่างสาสมจนไม่ได้ผุดได้เกิดแล้ว แต่ไม่ได้เป็นบทสรุปว่า การใช้ความก้าวร้าวรุนแรงในสังคมจะหมดไป เพราะคนที่มีพฤติกรรมลักษณะเดียวกับ “น็อต” ยังมีอยู่ และพร้อมจะก่อเหตุร้ายได้ตลอดเวลา เพียงแต่ว่า ใครจะโชคร้ายเจอคนประเภทเดียวกับ “น็อต” เท่านั้น
กฎหมายและมาตรการทางสังคม ใช้ควบคุมพฤติกรรมความก้าวร้าวรุนแรงได้ระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะตราบใดที่คนยังไม่สำนึกในผิดชอบชั่วดี ไม่เกรงกลัวกฎหมาย พฤติกรรมความป่าเถื่อนยังจะเกิดขึ้นต่อไป โดยเฉพาะพฤติกรรมที่เกิดจากบรรดาลูกผู้มีอำนาจที่ไม่ได้รับการสั่นสอนทั้งหลาย
ไม่ว่าสังคมจะประณามนาย “น็อต” อย่างไร แต่สิ่งที่ต้องยอมรับกันคือ “น็อต” เป็นผลิตผลของสังคม พฤติกรรมก้าวร้าวดุจอันธพาล เป็นผลมาจากสังคมที่ขาดการอบรมสั่งสอนในเรื่องคุณธรรม ศีลธรรม ความดี และการปลูกฝังให้เป็นคนดี
ถ้ามาตรฐานทางสังคมเข้มแข็ง ถ้าทุกภาคส่วนเคร่งครัดในการปลูกฝังให้เป็นคนดี มีการอมรบสั่งสอนเรื่องคุณธรรม ศีลธรรมและการทำความดี สังคมคงไม่เต็มไปด้วยคนที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว และก่อความเดือดร้อนรำคาญเหมือนปัจจุบัน
สังคมที่เสื่อมทรุดลง เป็นเพราะคนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของคนอื่น ไม่กลัวถูกประณาม ไม่กลัวแม้แต่เสียงสาปแช่ง
พฤติกรรมกร่างหลุดโลกของ “น็อต” สะท้อนให้เห็นว่า ดารานักแสดงและพิธีกรที่สิ้นอนาคตรายนี้ ขาดการหล่อหลอมด้านศีลธรรม ขาดการปลูกฝังให้เป็นคนดี และน่าจะไม่มีการอบรมสั่งสอนให้แยกแยะผิดชอบชั่วดี
การหยุดยั้งความเสื่อมทรามทางสังคมนั้น มาตรการทางกฎหมายเพียงอย่างเดียวคงไม่เห็นผล มาตรการลงโทษทางสังคมคงไม่เพียงพอ แต่จะต้องแก้ที่ต้นเหตุ โดยการปลูกฝังให้ทุกคนมีสำนึก อบรมสั่งสอนให้ตระหนักถึงศีลธรรม และคุณค่าของการเป็นคนดี โดยเริ่มปลูกฝังกันตั้งแต่ครอบครัว สถาบันการศึกษา องค์กรศาสนา หน่วยงานรัฐและภาคเอกชน
ถ้าทุกภาคส่วนใส่ใจปลูกฝังให้คนมีสำนึก ยึดถือศีลธรรมและเป็นคนดี สังคมไทยจะสงบเรียบร้อยขึ้น พฤติกรรมเลวร้ายลักษณะเดียวกันกับ “น็อต” คงไม่ปรากฏให้เห็นบ่อยครั้งเหมือนทุกวันนี้
จะฝากผีฝากไข้ภารกิจ การจัดหลักสูตรอบรมสั่งสอนศีลธรรมและการปลูกฝังให้คนเป็นคนดีไว้กับรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชาได้ไหมหนอ
ต้องร่วมแรงร่วมใจช่วยกันสร้างคนดีแล้ว ไล่คนไม่ดีไปให้พ้นๆ จะเป็นดาราหรือนักการเมือง ถ้าไม่รักดี อย่าให้มีที่ยืนในแผ่นดินนี้
