xs
xsm
sm
md
lg

ทุ่ม1.8หมื่นล้าน นบข.อุ้มข้าวเปลือกเจ้า-หอมปทุม ทหารลุยตรวจโรงสี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน360-"ประยุทธ์"เรียกประชุมแก้ราคาข้าวตกต่ำ ยันไม่เคยทอดทิ้งเกษตรกร แจงคิดแก้ปัญหาทั้งระบบตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ยันไม่คิดโต้ใคร ใครตั้งใจทำดี ก็จะได้ดี เป็นกุศล นบข. ทุ่ม 1.8 หมื่นล้าน ช่วยข้าวเปลือกเจ้า เผยชาวนาได้สูงสุดตันละ 10,500 บาท ส่วนข้าวเปลือกปทุมธานีตันละ 11,300 บาท ชงครม.อนุมัติวันนี้ ผบ.มทบ.26 นำทีมตรวจโรงสีบุรีรัมย์ ป้องกันกดราคา โกงน้ำหนักชาวนา "หมอวรงค์"ฉะอีก "ปู" เลือดเย็นรังแกชาวนา หลังจัดฉากทุบราคาข้าว ด้านลูกหาบออกมาแก้ตัวสลอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (7 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เข้าร่วม

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวก่อนการประชุมว่า เป็นการประชุมเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับชาวนาที่ปลูกข้าวเจ้า และข้าวหอมปทุมธานี เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง โดยจะใช้หลักการใกล้เคียงกับของเดิมที่ได้ให้ความช่วยเหลือข้าวหอมมะลิไปแล้ว

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์แถลงภายหลังการประชุมว่า ยืนยันรัฐบาลไม่เคยทอดทิ้งเกษตรกร ทั้งชาวนา ชาวไร่ และชาวสวน ทุกอย่างที่เสนอมาได้รับฟังทุกคน ทั้งชาวนา โรงสีข้าว และผู้ประกอบการค้าข้าว ไม่ใช่ตนกำหนดเอง การแก้ปัญหาราคาข้าวทั้งหมดจะต้องมีมาตรการรองรับที่เหมาะสม อยากจะบอกว่าวันนี้เรากำลังพูดถึงแค่ปลายทางเท่านั้น และก็แก้ปัญหากันมาแบบนี้ตลอด ตนเข้าใจเพราะประชาชนเดือดร้อน แต่จะทำอย่างไรให้ถูกกฎหมาย ไม่ให้กลไกในตลาดเสียหาย นี่คือหลักการสำคัญ ล่าสุดรัฐบาลได้มีมาตรการให้สินเชื่อชะลอการระบายข้าวในส่วนของข้าวหอมมะลิ และวันนี้กำลังดูเรื่องของข้าวขาวและข้าวหอมปทุม เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ขณะที่ข้าวชนิดอื่น ก็เตรียมมาตรการรองรับด้วยเช่นกัน หากราคามีปัญหา แต่ตอนนี้ยังไม่พูดถึง ยืนยันว่าห่วงใยทุกคน รัฐบาลต้องคิดล่วงหน้าแบบนี้

ทั้งนี้ นายกฯ ได้ย้ำว่า รัฐบาลได้ตั้งเป้าที่จะแก้ปัญหาข้าวตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง แต่ทุกวันนี้ เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายทาง ซึ่งจะต้องปรับใหม่ทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมา 3 ปี ได้ดำเนินการไปแล้ว ตั้งแต่การเข้าไปช่วยเหลือชาวนา ปรับโครงสร้างการเพาะปลูก ส่วนกลางทาง คือ การผลิตได้เข้าไปดูแลโรงสี ภาคเอกชน และปลายทาง ผลักดันส่งออก ที่จะต้องสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าวด้วยการใส่นวัตกรรมเข้าไป

"วันนี้มาตรการต่างๆ ต้องทำควบคู่กันไป แต่ไปได้ช้า เพราะส่วนใหญ่ติดกับวัฒนธรรมหรือพฤติกรรมการปลูกข้าวแบบเดิม ขอให้เข้าใจตรงกัน ถ้ามีอะไรผิดก็ให้บอกมา แต่ไม่น่าผิด ตนคิดมานาน คิดมา 3 ปีแล้ว แต่ทำได้แค่นี้ เพราะเจอปัญหาแบบนี้ วันนี้ต้องคิดใหม่ทั้งหมด ไม่อย่างนั้นจะเป็นวงจรแบบเดิม ขอให้ช่วยรัฐบาล ผมจะไม่ไปโต้ตอบกับใคร ใครจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ ถ้าทำดี ตั้งใจดี บริสุทธิ์มันก็เป็นกุศล ก็แค่นั้นเอง รัฐบาลไม่ได้ไปมุ่งหวังทำอะไรให้ใครเสียหายอยู่แล้ว เรื่องที่มีเหตุการณ์นี้โน้นเกิดขึ้น ขอให้พอได้แล้ว ผมจะไม่ตอบโต้อะไรทั้งสิ้น เฉยๆ สังคม ประชาชน จะดูเอง ใครทำดีก็ต้องขอบคุณ ใครทำดีได้ดี”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นอกจากนี้ นายกฯ ยังระบุอีกว่า เรื่องอื่นๆ ที่กำลังแก้ ก็มีเรื่องข้าวโพด ขออย่าเพิ่งออกมาเรียกร้องอะไรมาก ตอนนี้รัฐบาลกำลังแก้อยู่ แต่มันแก้สิ่งที่เกิดมา 20-30 ปี คงแก้ไม่ได้ภายในวันเดียว คงต้องแก้ทั้งระบบทั้งต้นทาง กลางทาง และปลายทาง หากแก้เช่นนี้ได้ ตนรับรองไม่เกิน 5 ปี ชาวนาชาวไร่รวยขึ้นเยอะ

เมื่อถามว่าจะมีโอกาสไปพบกับชาวนาด้วยตัวเองหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนมีงานที่ต้องทำอยู่ นายกฯ ต้องทำทุกอย่างเลยหรือไร มีงานอีกเยอะ แต่ก็ได้สั่งงานไปแล้ว

***ทุ่ม1.8หมื่นล้านช่วยข้าวเจ้า-หอมปทุม

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ที่ประชุม. นบข. ได้เห็นชอบมาตรการสินเชื่อเพื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2559/60 เพื่อแก้ปัญหาราคาตกต่ำ โดยข้าวเปลือกเจ้า เกษตรกรจะได้รับเงินทั้งหมด 10,500 บาท แบ่งเป็นวงเงินสินเชื่อร้อยละ 90 จากราคาตลาด หรือได้ประมาณตันละ 7,000 บาท ความชื้น 15% โดยจะได้ค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว 2,000 บาทต่อตัน และค่าเก็บรักษาข้าวเปลือกในยุ้งฉาง 1,500 บาทต่อตัน ส่วนข้าวปทุมธานี เกษตรกรจะได้รับเงินทั้งสิ้น 11,300 บาทต่อตัน แบ่งเป็นวงเงินสินเชื่อ 7,800 บาทต่อตัน ค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว 2,000 บาทต่อตัน และค่าเก็บรักษาข้าวเปลือกในยุ้งฉาง 1,500 บาทต่อตัน รายละไม่เกิน 15 ไร่ ใช้วงเงินรวม 18,000 ล้านบาท โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันนี้ (8 พ.ย.)

สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ได้ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรฯ ส่งเสริมให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิตด้วยการรวมตัวทำโครงการนาแปลงใหญ่ ซึ่งขณะนี้มีนาแปลงใหญ่แล้วกว่า 1 ล้านไร่ ขณะที่ด้านการตลาด จะมีการขยายตลาดเพิ่มขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ โดยในต่างประเทศได้เชิญผู้ซื้อข้าวจากทั่วโลกกว่า 100 ราย มาเจรจาซื้อขายข้าวจากไทยในวันที่ 13-16 พ.ย.2559

**ผบ.มทบ.26 นำทีมลุยตรวจโรงสี

พล.ต.เดชอุดม นิชรัตน์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายประภาส รักษาทรัพย์ รองผวจ.บุรีรัมย์ นายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร พาณิชย์จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ธ.ก.ส. เกษตรจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภาวะราคาข้าว และสุ่มตรวจโรงสีข้าวในเขตอ.เมือง และอ.สตึก โดยได้เน้นการตรวจมาตรฐานเครื่องวัดความชื่น เครื่องชั่งน้ำหนัก รวมถึงการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อข้าวของผู้ประกอบการ เพื่อป้องกันการเอาเปรียบชาวนา ที่นำข้าวเปลือกนาปีมาขายให้กับโรงสี

ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบ พบว่า ราคารับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิสด ยังอยู่ที่กก.ละ 6.50 บาท หรือตันละ 6,500 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลิแห้ง กก.ละ 8.50 บาท ส่วนบรรยากาศซื้อขายข้าวตามโรงสีต่างๆ ค่อนข้างเงียบเหงา โดยผู้ประกอบการยอมรับว่า หลังจากราคาข้าวตกต่ำ ทำให้ชาวนาชะลอการขาย ประกอบกับชาวนาบางส่วนก็นิยมสีแปรสภาพเป็นข้าวสารไปขายเอง จึงทำให้ยอดรับซื้อข้าวเปลือกที่โรงสีลดลงถึงร้อยละ 90

นายประภาส รักษาทรัพย์ รองผวจ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ได้บูรณาการกันหลายภาคส่วน เพื่อออกตรวจสอบโรงสีข้าว พร้อมติดตามสถานการณ์ราคาข้าวในพื้นที่ เป็นการป้องกันการเอาเปรียบชาวนาในช่วงภาวะราคาข้าวตกต่ำ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับชาวนา โดยผลการออกสุ่มตรวจ ไม่พบปัญหาหรือการเอารัดเอาเปรียบชาวนาแต่อย่างใด ส่วนราคาที่รับซื้อขณะนี้ ก็เป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งจากนี้ไป หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกสุ่มตรวจอย่างต่อเนื่อง และยังได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการโรงสี ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อข้าวให้ชัดเจน

***"หมอวรงค์"ซัด"ปู"เลือดเย็น

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จัดกิจกรรมขายข้าว ว่า ตนเข้าใจว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์คงต้องเก็บตัวเงียบ และปล่อยให้ลิ่วล้อมาแก้ตัวเบี่ยงประเด็น หลังจากแผนที่ทำถูกจับได้ ตั้งแต่ชาวนาหน้านวลเป็นชาวนาปลอม ข้าวหอมมะลิที่อ้างซื้อจากชาวนามาขาย ก็กลายเป็นข้าวสารจากโรงสีเพราะถุงใส่ข้าวสารขนาด 50 กิโล บ่งบอกว่าต้องมาจากโรงสีขนาดใหญ่ที่ทันสมัย เพื่อส่งลูกค้ารายใหญ่หรือส่งออก ที่สำคัญข้าวหอมมะลิจากราคาตกอยู่แล้ว มาขายทุบราคาเหลือ 20บาทต่อกิโล กลายเป็นซ้ำเติมชาวนา

ทั้งนี้ ตอนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นรัฐบาล ตลาดข้าวจากปกติ ก็มาใช้นโยบายซื้อขาด ราคาสูงกว่าตลาดโดยใช้เงินรัฐบาล แล้วมาสีเอง เก็บเอง ขายเองโดยรัฐบาล ซึ่งจริงๆ แล้วก็ต้องจ้างหรือเช่าคนอื่นอีกที แต่มาตั้งชื่อเรียกนโยบายรับจำนำให้คนสับสน ตอนสีเสร็จเอามาเก็บกองไว้ในโกดังจนข้าวแทบล้นประเทศ ขายก็ขายไม่ได้ ยกเว้นเอามาขายจีทูจีราคาพิเศษ ข้าวที่เก็บในโกดังก็มีปัญหามากทั้งเน่า เหลือง ผิดประเภท ยัดนั่งร้าน ระบบข้าวประเทศจึงเสียหายมาถึงวันนี้

“ไม่แปลกที่จะพูดได้เต็มปากว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ใจร้ายแบบเลือดเย็นจริงๆ มีแต่ทำให้ชาวนาอ่อนแอ ระบบข้าวประเทศมีปัญหา ทุจริตกันอย่างมโหฬาร โดยที่ตัวเองไม่รู้สึกร้อนหนาวต่อปัญหาที่เกิดขึ้น หรือใครจะคัดค้าน”นพ.วรงค์กล่าว

***กองทัพเดินหน้าซื้อข้าวชาวนา

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.)ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือชาวนาตามแนวทางที่ คสช. กำหนดให้ ทั้งเรื่องการเข้ารับฟังปัญหาของชาวนา การใช้กำลังทหารเข้าช่วยเก็บเกี่ยวผลผลิต การรับซื้อข้าวจากชาวนาผ่านระบบสหกรณ์การเกษตรและรับซื้อจากชาวนาโดยตรง รวมทั้งการเปิดพื้นที่ของส่วนราชการและหน่วยทหารให้เป็นที่จำหน่ายข้าว ซึ่งได้ส่งผลดีทำให้ราคาข้าวในตลาดสูงขึ้น และจะมีการเข้าไปช่วยชาวนาและช่วยซื้อข้าวอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ในช่วง 2-5 พ.ย.ที่ผ่านมา กกล.รส. ได้เข้าช่วยชาวนาเกี่ยวข้าว พร้อมรับซื้อข้าวเปลือกและข้าวสาร โดยพื้นที่ภาคเหนือ กกล.รส.กองทัพภาคที่ 3 ได้เข้าช่วยชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวใน 16 จังหวัด พื้นที่ 266 ไร่ และรับซื้อข้าวสาร 38.4 ตัน ข้าวเปลือก 180ตัน ในพื้นที่ภาคอีสาน กองทัพภาคที่ 2 ได้เข้าช่วยชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวใน 17 จังหวัด พื้นที่ 280 ไร่ และรับซื้อข้าวสาร 88.71 ตัน ข้าวเปลือก 7.098ตัน ในพื้นที่ภาคกลาง กองทัพภาคที่ 1 ได้เข้าช่วยเกี่ยวข้าวใน 6 จังหวัด พื้นที่ 98ไร่ 2 งาน และรับซื้อข้าวเปลือกจำนวน 3.5 ตัน

**สกัดลักลอบนำเข้าข้าวโพด-มันสำปะหลัง

พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. กล่าวภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ระดับผู้บัญชาการกองพลขึ้นไปว่า ได้เน้นย้ำ 7 กองกำลังตามแนวชายแดน คือ การตรวจตราเส้นทาง การดูแลการลักลอบเข้าเมืองของบุคคล การลักลอบค้าขายอาวุธสงครามและยาเสพติด รวมถึงการป้องกันการลักลอบนำผลิตผลทางด้านการเกษตรเข้ามา ทั้งข้าวโพด และมันสำปะหลังเข้ามา ซึ่งอาจะมีผลกระทบต่อราคาภายในประเทศ

***เพื่อไทยขู่ฟ้อง "วรงค์"หมิ่นประมาท

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณี นพ.วรงค์ ที่ออกมาพูดกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถล่มราคาข้าว ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยกำลังพิจารณาเรื่องนี้ว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาททำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงหรือไม่ เช่นเดียวกับที่ฝ่ายกฎหมาย ได้เข้าร้องทุกข์แจ้งความกับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งในประเด็นเดียวกันไปแล้ว


***ลูกหาบออกโรงป้องนายหญิง

นายยรรยง พวงราช อดีต รมช.พาณิชย์ ได้เขียนข้อความผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊กมีใจความสรุปว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปเยี่ยมชาวนา และรับซื้อข้าวจากชาวนามาช่วยขาย ไม่ได้เป็นการทุบราคาข้าว เพราะราคาที่ขายกิโลกรัม (กก.) ละ 20 บาท เป็นราคาใกล้เคียงกับราคาขายส่งข้าวสารหอมมะลิ 100% ชั้น 2 และที่ขายถูกได้ เพราะซื้อจากชาวนาโดยตรง ไม่ผ่านคนกลาง จึงลดค่าใช้จ่ายได้มาก การรับซื้อและเอามาขาย ไม่เป็นการถล่มราคาหรือกดราคาข้าว เพราะซื้อจำนวนน้อย ไม่มีผลต่อราคา และเห็นว่านพ.วรงค์ที่ออกมาโจมตี เป็นการแสดงอคติที่รุนแรง และขาดความรู้กลไกตลาดข้าว

ด้านนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า การให้สัมภาษณ์ของอดีต ส.ส. พรรคการเมืองหนึ่งว่าอดีตนายกฯ ทุบราคาข้าว เป็นการแสดงถึงภูมิปัญญาและระดับจิตใจของผู้พูด เพราะข้าวราคาตก มาจากปัจจัยตลาดโลก ประกอบกับผลผลิตข้าวไทยมีมาก และเมื่อมีปัญหาแทนที่จะแก้ปัญหา กลับระดมสติปัญญาและสรรพกำลังออกมาให้สัมภาษณ์กระแนะกระแหน และสถานีโทรทัศน์ 24TV ยังถูกพักออกอากาศ เพราะไปเสนอประเด็นเกี่ยวกับโครงการจำนำข้าว
กำลังโหลดความคิดเห็น