ผู้จัดการรายวัน360-"บิ๊กตู่"ซัดนักการเมือง จับมือโรงสีบางรายกดราคาข้าวเปลือก หวังให้ชาวนาลุกฮือต่อต้านรัฐบาล สั่งแก้เกมดึงราคาทันที "หมอวรงค์"พูดอีกเสียง มีกลุ่มอำนาจเก่าอยู่เบื้องหลังจริง วงในแฉขั้นตอนทำงาน กลุ่มนักการเมืองพรรคเพื่อไทยใช้โรงสีเครือข่าย กดราคารับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา วางแผนให้อ้างสถานการณ์โลก ข้าวส่งออกราคาตก ผู้ส่งออกกดราคาซื้อ แล้วให้มากดราคาชาวนาอีกต่อ ตั้งเป้าบีบรัฐใช้วิธีแทรกแซงราคาสูง เพื่อสร้างความชอบธรรมให้ "ปู" ที่ทำโครงการจำนำเจ๊ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ (31 ต.ค.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
นายกรัฐมนตรีกล่าวช่วงต้นของการประชุมว่า ขอขอบคุณข้าราชการทุกหน่วยงานที่ได้ร่วมทำงานอย่างต่อเนื่อง และในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาข้าวเปลือกตกต่ำ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิมีปัญหา ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจาก 2 ประเด็น คือ การปรับโครงสร้างการเกษตรที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ครบวงจร ยังมีปัญหาอยู่ ยังทำไม่ได้ 100% ก็จะทำให้เกิดปัญหาอย่างแน่นอน และอีกประเด็น คือ การเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่มีการร่วมมือกันระหว่างนักการเมืองในพื้นที่ร่วมกับโรงสีบางโรงสีในการกำหนดราคาข้าวให้ต่ำลง โดยหวังให้เกิดประเด็นต่อประชาชนให้เกิดการต่อต้านหรือขัดแย้งกับรัฐบาล ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ต้องสร้างความเข้าใจทั้งระบบ โดยการประชุมในวันนี้จะมีการประชุมให้ได้ข้อยุติ
“การทำอะไรจะต้องมีก๊อกสองไว้อยู่เสมอ เพราะไม่มีปัญหาใดที่เป็นปัญหาที่ซับซ้อน ยาวนานอย่างปัญหาในเรื่องของข้าวและการเกษตร น้ำ ที่จะสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยวิธีการเดียว ดังนั้น เราจะเป็นต้องหาวิธีการที่เหมาะสมตามห้วงเวลา พร้อมทั้งขอให้กำหนดมาตรการการช่วยเหลือ และการดูแลในข้อกฎหมายเพื่อทำให้เกิดความรัดกุม โดยต้องได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด อย่าให้เกิดกรณีเหมือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ หน่วยงานของรัฐทั้งหน่วยราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานด้านงบประมาณที่เป็นรัฐวิสาหกิจของรัฐบาล จำเป็นต้องหามาตรการช่วยเหลือที่อาจมีความแตกต่างจากการแก้ปัญหายามปกติ แม้รัฐบาลจะต้องขาดทุนหรือไม่ก็ตาม แต่ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องดูแลอยู่แล้ว การประชุมวันนี้ขอให้ดำเนินการโดยใช้เวลาให้น้อยที่สุด มีข้อตกลงได้ในที่ประชุมและสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้ทันที เพราะไม่เช่นนี้ ก็จะถูกบิดเบือนไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นปัญหาทำให้การบริหารงานด้านอื่นๆ มีปัญหาตามมาด้วย” นายกรัฐมนตรีกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวภายหลังประชุม นบข. ว่า ได้สั่งการในการแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำไปเรียบร้อยแล้ว แต่จะให้รัฐบาลนำเงินไปให้ 15,000 บาทต่อตัน เหมือนที่ผ่านมา คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเวลานี้ข้าวที่ค้างสต๊อกจากการรับจำนำข้าว ยังอยู่อีกจำนวนมาก ระบายไม่ได้ ยิ่งนานคุณภาพยิ่งเสื่อม หากระบายออกมาตอนนี้ จะกระทบกับราคาข้าวที่ออกมาในฤดูกาลนี้ ทำให้เจ๊ง และประเทศก็จะล้มละลาย เพราะเป็นภาษีจากประชาชน แล้วใครเล่าที่รับจำนำข้าวไว้
ด้านนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีโรงสีบางส่วนกำลังเล่นเกมร่วมกับกลุ่มอำนาจเก่าทุบราคาข้าวจริง ทำให้การแก้ปัญหาเรื่องข้าว รัฐบาลจะคิดแบบเดิมไม่ได้ การแก้ปัญหาระยะยาวต้องระมัดระวังตกหลุมพลาง
ทั้งนี้ มีข้อเสนอในการปฏิรูประบบข้าวของประเทศว่า จะต้องผลักดันให้ชาวนาทำข้าวครบวงจร ปลูกเอง สีเอง ขายเอง โดยรัฐบาลใช้บริษัทประชารัฐเป็นแกนกลางทุกจังหวัด ไม่ต้องผ่านโรงสีใหญ่ โดย 1.ให้สหกรณ์ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน มาลงทะเบียนกับบริษัทประชารัฐทุกจังหวัด พร้อมที่จะสีข้าวสารที่รับซื้อจากชาวนาที่เป็นสมาชิก ในราคายุติธรรม โดยรัฐบาลให้แหล่งเงินทุนไม่คิดดอกเบี้ย และข้าวสารดังกล่าวส่งไปที่บริษัทประชารัฐ โดยมีเป้าหมายเพื่อการบริโภคภายในประเทศ 2.บริษัทประชารัฐของจังหวัด จะเป็นแกนกลางรับคำสั่งซื้อข้าวสารของชาวนา จากส่วนราชการ โรงพยาบาล โรงเรียน เทศบาล อบต. ร้านสะดวกซื้อ บริษัทห้างร้าน และ 3.ถ้ามีสิ่งใดที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการ เพื่อเป้าหมายสนับสนุนให้พี่น้องชาวนาปลูกเอง สีเอง ขายเอง ให้ใช้มาตรา 44 แก้ปัญหา
ขณะที่พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. กล่าวถึงความเคลื่อนไหวเรื่องข้าวในปัจจุบันว่า ปัญหาราคาข้าวในปัจจุบันมีความไม่ปกติ อาจเกิดจากหลายปัจจัย รวมทั้งอาจมีกระบวนการสร้างกลไกราคาเทียมซ้ำเติมเกษตรกร เพื่อหวังผลทางการการเมือง ซึ่ง คสช.โดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) กกล.รส. จะเข้าช่วยตรวจสอบและรับฟังข้อมูลจากเกษตรกรในทุกพื้นที่ ร่วมกับส่วนราชการที่รับผิดชอบโดยตรง ในการเข้าตรวจสอบการรับซื้อข้าวของโรงสีในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเสนอเป็นข้อมูลให้รัฐบาลนำไปพิจารณาบริหารจัดการในปัญหาที่เกิดขึ้นโดยด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาราคาข้าวตกต่ำในขณะนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลผลิตข้าวเริ่มออกสู่ตลาด และสถานการณ์ราคาข้าวในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ทำให้มีการหวังผลจากสถานการณ์ดังกล่าว โดยมีกลุ่มนักการเมืองของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ที่มีการเพาะปลูกข้าว ได้ร่วมมือกับโรงสีบางโรงสี ในการกดราคารับซื้อข้าวจากชาวนา โดยให้อ้างเหตุผลว่า ขณะนี้ราคาข้าวในตลาดโลกตกต่ำ โดยราคาข้าวหอมมะลิอยู่ที่ตันละประมาณ 500 เหรียญสหรัฐ ทำให้ผู้ส่งออกมากดราคารับซื้อข้าวจากโรงสี ทำให้โรงสีต้องมากดราคารับซื้อข้าวจากชาวนาอีกต่อหนึ่ง ไม่เช่นนั้นก็จะประสบปัญหาการขาดทุน ผลเสียหายก็เลยไปตกอยู่ที่ชาวนา ที่ขายข้าวเปลือกได้ในราคาต่ำ
ทั้งนี้ ผลการดำเนินการ มีการคาดหวังว่า จะให้เกิดกระแสการต่อต้านรัฐบาลของชาวนา โดยให้เริ่มจากการสร้างกระแสข่าวในโลกโซเซียล เพื่อให้เกิดการทำตาม เช่น การปักป้ายขายนา การออกมาแสดงความเสียใจกรณีข้าวราคาตกต่ำ และให้สื่อนำไปเสนอข่าวต่อ เพื่อให้ในที่สุด จะสร้างแรกผลักดันให้เกิดการประท้วงของชาวนากระจายไปยังจังหวัดต่างๆ และสร้างแรงกดดันต่อรัฐบาลในที่สุด
ขณะเดียวกัน ยังมีแผนที่จะจุดกระแสให้ชาวนา เรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาแทรกแซงราคาข้าวในราคาที่สูงกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพราะหวังผลว่า หากรัฐบาลยอมทำตาม จะเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่มีการกล่าวอ้างมาโดยตลอดว่าเป็นโครงการช่วยเหลือชาวนา
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า รัฐบาลได้ทราบความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมือง และปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยล่าสุด กระทรวงมหาดไทยได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ยกเว้นภาคใต้ 14 จังหวัด ให้ติดตามความเคลื่อนไหวของชาวนา และทำการชี้แจง ทำความเข้าใจกับชาวนา ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาชาวนาประท้วง
โดยหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด มีใจความว่า ขอให้ผู้ว่าฯ ใช้ศาสตร์และศิลป์ในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและป้องกันแก้ไขปัญหาการร้องเรียนหรือการเคลื่อนไหวต่างๆ โดยให้จัดประชุมคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวกับข้าวในระดับจังหวัด และเชิญสมาคมชาวนาจังหวัด โรงสี และองค์กรเกษตรในจังหวัด มาหารือ เพื่อรับทราบสถานการณ์ข้าว และให้ชี้แจงแนวทางการช่วยเหลือของรัฐบาลในการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก และขอให้ชาวนาชะลอการเกี่ยวข้าว และให้ตากข้าวให้แห้งให้มีความชื้นไม่เกิน 15% เพื่อให้ขายได้ราคาดี