xs
xsm
sm
md
lg

"เมียชูวงษ์"ลุยเอง ฟ้องอาญา"บรรยิน"3คดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน360-ภรรยา"เสี่ยชูวงษ์"ลุยฟ้อง"บรรยิน"ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และคดีปลอมเอกสารโอนหุ้น ศาลจังหวัดพระโขง และศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดไต่สวนมูลฟ้องปีหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ต.ค.2559 ที่ผ่านมา นางศิริรัตน์ แซ่ตั้ง ภรรยาของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุแบบมีเงื่อนงำเมื่อเดือนมิ.ย.2558 , นายกันต์ แซ่ตั๊ง บุตรชาย , นางกุลนิดา แซ่ตั๊ง และน.ส.กานติมา แซ่ตั๊ง ผู้เยาว์ โดยนางศิริรัตน์ ในฐานะมารดาและผู้แทนโดยชอบธรรมได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรมช.พาณิชย์ และอดีตส.ส.นครสวรรค์ เป็นคดีอาญาแล้วรวมทั้งสิ้น 3 คดี

โดยทั้ง 3 คดี ได้แก่ 1.ยื่นฟ้องพ.ต.ท.บรรยิน เป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดพระโขนง ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเพื่อปกปิดการกระทำความผิดอื่นของตน เพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนกับพวกได้กระทำความผิดอื่น หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ทั้งนี้ศาลได้รับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.4915/2559 และนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 10 เม.ย.2560 เวลา 09.00 น.

2.ยื่นฟ้องพ.ต.ท.บรรยิน, น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล โบรกเกอร์สาวบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งและนางศรีธรา พรหมา มารดาน.ส.อรชา เป็นจำเลยที่ 1-3 ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อหาร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม ลักทรัพย์ และรับของโจร ทั้งนี้ ศาลรับคำฟ้องไว้ เป็นคดีหมายเลขดำ ที่ อ.3352/2559 และ นัดไต่สวนมูลฟ้อง วันที่ 30 ม.ค.2560 เวลา 09.00 น.

3.นางศิริรัตน์, นายกันต์, นางกุลนิดา และน.ส.กานติมา ผู้เยาว์ โดยนางศิริรัตน์ ในฐานะมารดาและผู้แทนโดยชอบธรรม เป็นโจทก์ที่ 1-4 ยื่นฟ้องพ.ต.ท.บรรยิน จำเลยที่ 1 ,น.ส.สุทธาสินี ศิลปพรหมมาศ จำเลยที่ 2,น.ส.เกติอุมา เอกันต์ จำเลยที่ 3 (จำเลยที่ 2 และ 3 เป็นพนักงานของบริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) และ จำเลยที่ 4 น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล พริตตี้สาว ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ในข้อหาร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม ลักทรัพย์ และรับของโจร ทั้งนี้ศาลได้รับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ ที่ 3354/2559 และ นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 20 ก.พ.2560 เวลา 09.00 น.

ผู้สื่อข่างรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ต.ค.2559 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ในคดีหมายเลขดำ พ.1280/2559 ที่น.ส.ศิริรัตน์ และ นายกันต์ โจทก์ที่ 1-2 ในฐานะผู้จัดการมรดกของนายชูวงษ์ ฟ้องแพ่งน.ส.กัญฐณา ศิวาธนากุล หรือ ศิวาธนพล ,พ.ต.ท.บรรยิน, บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และพนักงานบริษัทอีก 2 คน เป็นจำเลยที่ 1-5 เรื่องขอเรียกคืนทรัพย์สินที่เป็นหุ้นของนายชูวงษ์ จำนวน 9.5 ล้านหุ้น มูลค่า 228 ล้านบาท ซึ่งถูกโอนโดยมิชอบ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี คืนกับโจทก์ทั้งสอง ที่เป็นภรรยา และบุตรชายของนายชูวงษ์ ในฐานะผู้จัดการมรดก โดยได้มีการยื่นฟ้องคดีเมื่อหลายเดือนก่อน ซึ่งต่อมาโจทก์ทั้งสอง ก็ได้ยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวต่อศาลด้วย เพื่อขอให้อายัดทรัพย์สิน 4 รายการ ประกอบด้วย หุ้นที่เหลือจำนวน 5.7 ล้านหุ้น , เงินในบัญชี , หุ้น WN ที่น.ส.กัญฐณา นำเงินจากการขายหุ้นของ นายชูวงษ์ไปซื้อมา และบ้านพร้อมที่ดินย่านนนทบุรี ที่มาจากเงินหุ้นดังกล่าว

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า หลังจากที่นายชูวงษ์ ถึงแก่กรรมแล้ว โจทก์ที่ 2 และครอบครัว ได้ตรวจสอบทรัพย์สินของนายชูวงษ์ พบว่าก่อนนายชูวงษ์ จะถึงแก่กรรม มีการโอนหุ้นในพอร์ตบัญชีที่เปิดไว้กับจำเลยที่ 3 และออกให้กับ จำเลยที่ 1 โดยมีข้อพิรุธหลายอย่าง หลังจากที่ จำเลยที่ 1 รับโอนมาแล้ว มีการโอนขายหุ้นหลักทรัพย์ EAอีกหลายครั้ง หลักทรัพย์บางส่วนมีการขายไปแล้วเป็นจำนวน 3,741,000 หุ้น คงเหลือหลักทรัพย์ EAในบัญชีของจำเลยที่ 1 ณ วันที่ 31 ส.ค.2558 จำนวน 5,759,000 หุ้น และจำเลยที่ 1 ยังนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นจำนวนดังกล่าว ไปซื้อหุ้นหลักทรัพย์ WNจำนวน 10,000,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ1 บาท เป็นเงิน 10,000,000 บาท คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินทั้ง 4 รายการดังกล่าวซึ่งอยู่ในพอร์ตหลักทรัพย์บัญชีของจำเลยที่ 1

นอกจากนี้ ยังได้ความว่า จำเลยที่1 ได้นำเงินบางส่วนที่ได้จากการขายหลักทรัพย์ ไปซื้อที่ดินพร้อมบ้าน ที่ ต.ขุนกลอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ในราคา 10,000,000 บาทด้วย กรณีฟ้องโจทก์มีมูล และมีเหตุเพียงพอที่จะนำวิธีคุ้มครองชั่วคราวมาใช้ก่อนคำพิพากษา

ศาลจึงมีคำสั่งให้อายัดหุ้นหลักทรัพย์ EAจำนวน 5,759,000 หุ้น ที่อยู่ในบัญชีหลักทรัพย์ของจำเลยที่ 1, หุ้นหลักทรัพย์ WN จำนวน 10,000,000 หุ้น ซึ่งอยู่ในพอร์ตบัญชีหลักทรัพย์ของจำนวนที่ 1 พร้อมทั้งอายัดเงินในบัญชีหลักทรัพย์ เลขที่ 909-0-45386-2 ของจำเลยที่ 1 จำนวน 55,980,275.87 บาท พร้อมดอกเบี้ยทั้งหมดที่อยู่ในความครอบครองของ จำเลยที่ 1 และอายัดบัญชีกระแสรายวันธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า 2 บัญชี เลขที่ 909-0-45386-2 ของจำเลยที่ 1 โดยมีหนังสือถึงธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า 2. ห้ามจำเลยที่ 1 ทำพินัยกรรมจำหน่าย จ่ายโอนหรือ สร้างภาระผูกพันใดๆ ในที่ดินโฉนด ที่ ต.ขุนกลอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พร้อมสิ่งปลูกสร้างด้วย

ด้านนายเอนก คำชุ่ม ทนายความของครอบครัวชูวงษ์ กล่าวว่า คำสั่งของศาลดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.2559 เป็นต้นไป จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น และตามกฎหมายฝ่ายจำเลย ยังใช้สิทธิ์อุทธรณ์คำสั่งได้ แต่คดีที่ฟ้องนี้ เป็นส่วนคดีแพ่งที่เราใช้สิทธิ์ตามกฎหมายเรียกคืนทรัพย์สินที่มีการโอนไปโดยมิชอบ ส่วนคดีปลอมเอกสารสิทธิ์การโอนหุ้นที่เป็นคดีอาญา ยังต้องรอ ผบ.ตร. สรุปความเห็นส่งให้อัยการสูงสุด หลังจากที่อัยการกรุงเทพใต้ มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีโอนหุ้นในชั้นแรก
กำลังโหลดความคิดเห็น