MGR Online - อัยการสูงสุดแสดงวิสัยทัศน์ สั่งการอธิบดีทุกฝ่ายเน้นดุลพินิจการสั่งคดีต้องโปร่งใสไม่ลำเอียง ย้ำคดี “เสี่ยชูวงษ์” พร้อมรับคำฟ้องแย้ง และใช้ดุลพินิจขอความเป็นธรรม สั่งตรวจสอบสำนวนฆาตกรรมอีกรอบ ส่วนคดี “ธัมมชโย” รอฟัง นัดฟังคำสั่งทางคดี 6 ต.ค.ก่อนมีดุลพินิจอีกครั้ง
วันนี้ (21 ก.ย.) ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดประชุมแสดงวิสัยทัศน์ต่อรองอัยการสูงสุด ผู้ตรวจราชการ อธิบดีอัยการส่วนกลางและภูมิภาค รวมทั้งรองอธิบดีอัยการส่วนกลางรวม 163 คน ว่าสิ่งที่จะเน้น คือ ความยุติธรรมทางอาญาในเรื่องดุลพินิจการสั่งคดีต่างๆ และความโปร่งใสที่จะตรวจสอบได้ ความซื่อสัตย์ที่เชื่อถือได้ โดยส่วนที่มีการร้องขอความเป็นธรรมทางคดีเข้ามาที่ปัจจุบันนี้มีจำนวนมากที่มีทั้งฝ่ายผู้เสียหายและฝ่ายผู้ต้องหา โดยตนให้นโยบายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการพิจารณาอย่างละเอียดด้วยความรอบคอบในทุกประเด็นที่ร้องเข้ามา
“ไม่ใช่ดำเนินการให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น แต่ต้องทำทุกอย่างเสมอภาคและเที่ยงธรรมด้วยการพิจารณาตามพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนและใช้ดุลพินิจอย่างรอบคอบไม่เอียงข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หากสั่งคดีอย่างเป็นเหตุเป็นผลก็จะเป็นที่ยอมรับเอง” อัยการสูงสุดกล่าวย้ำ
เมื่อถามถึงกรณี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิโอนหุ้นมูลกว่า 300 ล้านบาทของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมารายใหญ่ มอบอำนาจให้ทนายความยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมในคดีที่ตกเป็นผู้ต้องหาฆ่านายชูวงษ์โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ที่กองปราบปรามส่งสำนวนมาให้อัยการพิจารณาเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา อัยการสูงสุดกล่าวว่า เมื่อมีการร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา ตามขั้นตอนหนังสือนั้นจะถูกส่งเข้ามายังสำนักงานงานคดีกิจการอัยการสูงสุดที่มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมพิจารณาซึ่งจะได้มีการตรวจดูรายละเอียดแล้วส่งไปให้สำนักงานคดีที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ ที่รับผิดชอบสำนวนคดีดังกล่าวเพื่อประกอบการพิจารณาสำนวนคดี ขณะที่ฝ่ายครอบครัวนายชูวงษ์ก็ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา ตนก็ได้มอบหมายให้นายวินัย ดำรงค์มงคลกุล รองอัยการสูงสุดที่ควบคุมดูแลด้านคดีอาญาได้รับผิดชอบคดีฆ่าไว้ส่วนหนึ่งแล้ว ขณะที่หนังสือร้องขอความเป็นธรรมนั้นจะส่งผ่านให้สำนักงานคดีกิจการอัยการสูงสุดที่มีรองอัยการสูงสุดอีกคนหนึ่งรับผิดชอบดูแล แต่อย่างไรก็ตามการพิจารณาก็จะเป็นไปในทางเดียวกัน
เมื่อถามถึงการพิจารณาสำนวนคดีพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย กับพวกรวม 5 คนถูกกล่าวหาร่วมกันฟอกเงิน ที่ขณะนี้รอสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นั้นมีความคืบหน้าอย่างไร ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ตอบว่า เบื้องต้นทราบว่าส่งรายละเอียดมาสำหรับผู้ต้องหามาแล้วบางคนแต่ยังไม่ครบถ้วนทั้งหมดซึ่งจะมีการนัดฟังคำสั่งทางคดีในวันที่ 6 ต.ค.นี้ โดยคดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชน ดังนั้นทุกหน่วยงานต้องให้ความสำคัญและควรจะเร่งรัดให้เร็วอยู่แล้ว แต่จะทำได้เร็วมากน้อยแค่ไหนขึ้นกับเงื่อนไขแต่ละอย่าง
“เราจะทำให้ดีและเร็วที่สุด เราไม่มีแรงกดดันอะไรอยู่แล้ว หากจะต้องสอบสวนเพิ่มเติมเราก็ต้องรอให้พนักงานสอบสวนส่งผลมาให้ ก่อนที่อัยการจะพิจารณาสั่งคดีอีกที โดยอัยการให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายอยู่แล้ว” อัยการสูงสุดกล่าว