ผู้จัดการรายวัน360-"บิ๊กตู่"ใช้ มาตรา44 ปลด "สุขุมพันธุ์" พ้นผู้ว่าฯกทม. ตั้ง"อัศวิน ขวัญเมือง"ขึ้นแทน เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วนในการบริหารงาน งบประมาณ และอํานวยความสะดวกแก่ประชาชนในช่วงงานพระราชพิธีพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้าน “อัศวิน”เผยเร่งตั้งทีมรองฯส่งครม.ก่อนศุกร์นี้
ขณะที่ ป.ป.ช. ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน “จักรมณฑ์” แล้ว
วานนี้ (18 ต.ค.) ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 64/2559 เรื่อง การให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ้นจากตําแหน่ง และการแต่งตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
จากกรณีที่มีคําสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 50/2559 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 6 ลงวันที่ 25ส.ค.59 โดยให้ระงับการปฏิบัติราชการ หรือหน้าที่ในกรุงเทพมหานคร ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. เป็นการชั่วคราว เนื่องจากมีการตรวจสอบ หรือการสอบข้อเท็จจริง ตามข้อกล่าวหาต่างๆ ขององค์กรที่มีอํานาจหน้าที่ตรวจสอบตามกฎหมาย ยังต้องดําเนินไปอีกระยะหนึ่ง ในขณะที่วาระการดํารงตําแหน่งของผู้ว่าฯใกล้จะสิ้นสุดลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งก็จะยังไม่สามารถจัดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ได้
แต่ในขณะนี้ มีความจําเป็นต้องเร่งจัดการบริหารราชการกทม. ให้เป็นที่เรียบร้อย เกิดความต่อเนื่อง สามารถประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และภาคประชาชนอย่างมีเอกภาพ โดยเฉพาะในเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อย การรักษาความสะอาด การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การแก้ปัญหาการจราจร การพัฒนาชุมชน การอํานวยความสะดวกแก่ประชาชนในช่วงเวลาที่มีงานพิธีสําคัญ และการตรวจสอบการทุจริต และประพฤติมิชอบในความรับผิดชอบของกทม. ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนในขณะนี้ หากมิได้รับการแก้ไขโดยเร็ว จะเกิดเป็นความเสียหายต่อราชการแผ่นดิน
อาศัยอํานาจตามความใน มาตรา 44 ของรธน.(ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 หัวหน้าคสช. โดยความเห็นชอบของคณะคสช. จึงมีคําสั่งให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร พ้นจากตําแหน่ง ผู้ว่าฯกทม. และให้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯกทม. เป็นผู้ว่าฯกทม.แทน และให้มีรองผู้ว่าฯกทม. ไม่เกิน 4 คน ตามที่ผู้ว่าฯกทม. แต่งตั้งตามมาตรา49 (3) และมาตรา 55 แห่งพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 ทั้งนี้ จนกว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. หรือ คสช. มีคําสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นประการอื่น ส่วนการแต่งตั้ง และถอดถอนรองผู้ว่าฯกทม. ให้กระทําได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ภายใต้บังคับ มาตรา 49 (3) และ มาตรา 52 นายกรัฐมนตรี อาจสั่งให้ ผู้ว่าฯกทม. หรือรองผู้ว่าฯกทม. ออกจากตําแหน่งได้ เมื่อมีกรณีแสดงให้เห็นว่า ได้กระทําการอันเสื่อมเสียแก่เกียรติศักดิ์ของตําแหน่ง หรือปฏิบัติการ หรือละเลยไม่ปฏิบัติการอันควรปฏิบัติในลักษณะที่เห็นได้ว่าจะเป็นเหตุให้เสียหายอย่างร้ายแรงแก่กรุงเทพมหานคร หรือแก่ราชการโดยส่วนรวม หรือแก่การรักษาความสงบเรียบร้อย หรือสวัสดิภาพของประชาชน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี อาจเสนอให้คสช. มีคําสั่งแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกคําสั่งนี้ได้ โดยคําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 18 ต.ค.59 ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การใช้ มาตรา 44 ปลด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ พ้นตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. และ แต่งตั้งพล.ต.อ. อัศวิน ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.แทน ว่า ขออย่าเพิ่งไปว่ามีใครผิด หรือถูก เพราะทุกอย่างล้วนอยู่ในกระบวนการทั้งสิ้น และวันนี้จำเป็นต้องปรับการบริหารงานให้สอดคล้องกับภาระหน้าที่ เพราะบางอย่างหากไม่เกิดความชัดเจน จะบริหารงบประมาณไม่ได้ จึงต้องมีคนเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากคำสั่งคสช.ดังกล่าวส่งผลให้ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. พร้อมทีมผู้บริหารฝ่ายการเมืองทั้งหมด คือ รองผู้ว่าฯกทม.ที่เหลืออีก3 คน คือ นายจุมพล สำเภาพล นางผุสดี ตามไท นายอมร กิจเชวงกุล ต้องพ้นจากตำแหน่งไปด้วย รวมทั้งฝ่ายการเมืองที่เป็นที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. เลขานุการผู้ว่าฯกทม. และผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่ากทม.ทั่งหมดรวม 11 ตำแหน่ง พ้นจากตำแหน่งโดยทันทีตามประกาศคสช.ดังกล่าว โดยจะเหลือเพียงพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมืองที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.และเลือกทีมงานผู้บริหารของตนเองมาทำหน้าที่ต่อไป
*** “อัศวิน” เร่งตั้งทีมรองฯส่งครม.ก่อนศุกร์นี้
วานนี้ พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯกทม.กล่าวภายหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช.ได้ออกประกาศให้หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.และแต่งตั้งให้พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ว่า ไม่รู้สึกกังวล แต่ขอเวลาในการทำงานก่อน ในเรื่องการดูแลความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ที่จะเดินทางมา กราบพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และร่วมถวายความอาลัย
สำหรับการแต่งตั้งทีมผู้บริหารก็จะเร่ง ดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนวันศุกร์นี้ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง โดยในตำแหน่งรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะไม่มีมาจากทีมรองผู้ว่าฯเดิม ขณะนี้สรรหาได้ 1 คน คือ นายจักกพันธ์ ผิวงาม อดีตรองปลัดกรุงเทพมหานครที่เพิ่งเกษียณอายุราชการ จะมาเป็นรองผู้ว่าฯดูแลงานด้านการระบายน้ำ สิ่งแวดล้อม และการคลัง ส่วนอีก 3 คนที่เหลือกำลังสรรหาอยู่ ทางด้านทีมที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะมีจากทีมเดิมมาบ้าง คือ นายวัลลภ สุวรรณดี พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ มีเพียร นายยุทธพันธ์ มีชัย และนายสมชัย ไตรพิทยากุล อดีตผู้อำนวยการเขตพระนครที่เพิ่งเกษียณอายุราชการ ที่เหลือกำลังเร่งสรรหา
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า ก่อนที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เรื่องการให้ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครพ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯกทม. ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. แทน พล.ต.อ.อัศวิน ได้เดินทางเข้าพบนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายชวน ให้คำแนะนำว่า ขอให้ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต อย่าทำงานคนเดียว ต้องกระจายงานให้ผู้อื่นทำด้วย และเมื่อใดที่รัฐบาล กระทรวง หน่วยงาน ทบวง กรมมีการประชุม ทางผู้ว่าฯกทม.จะต้องไปประชุมด้วยตัวเอง เพราะนโยบายกทม.จะได้ไม่ไปขัดกับของรัฐบาล
** ป.ป.ช.ตั้งอนุกก.ไต่สวน “จักรมณฑ์”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรม รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาแล้ว โดยได้เริ่มไต่สวนข้อเท็จจริง รวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำพยานบุคคล และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงแล้ว
โดยแหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า กรณีของนายจักรมณฑ์ ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง สืบเนื่องจากที่มีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ทองคำในหลายพื้นที่ภาคกลางขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายจักรมณฑ์ เนื่องจากอาจมีส่วนได้ส่วนเสีย และเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชนในการเปิดเหมืองแร่ดังกล่าว โดยมีการกล่าวหาว่า นายจักรมณฑ์ถือหุ้นอยู่ในกลุ่มบริษัทที่ได้สัมปทานเหมืองแร่ทองคำ ซึ่งประเด็นนี้อยู่ระหว่างการไต่สวน และรวบรวมพยานหลักฐานอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายจักรมณฑ์ที่แจ้งต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า เคยดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) (หนึ่งในบริษัทที่ได้รับประทานบัตรเหมืองแร่ทองคำ) ช่วงปี 2556-2557 โดยเมื่อวันที่ 6 ส.ค.2557 นายจักรมณฑ์ได้ทำหนังสือแจ้งการลาออก ต่อ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ประธานกรรมการบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ก่อนจะมาดำรงตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2557.
ขณะที่ ป.ป.ช. ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน “จักรมณฑ์” แล้ว
วานนี้ (18 ต.ค.) ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 64/2559 เรื่อง การให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ้นจากตําแหน่ง และการแต่งตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
จากกรณีที่มีคําสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 50/2559 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 6 ลงวันที่ 25ส.ค.59 โดยให้ระงับการปฏิบัติราชการ หรือหน้าที่ในกรุงเทพมหานคร ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. เป็นการชั่วคราว เนื่องจากมีการตรวจสอบ หรือการสอบข้อเท็จจริง ตามข้อกล่าวหาต่างๆ ขององค์กรที่มีอํานาจหน้าที่ตรวจสอบตามกฎหมาย ยังต้องดําเนินไปอีกระยะหนึ่ง ในขณะที่วาระการดํารงตําแหน่งของผู้ว่าฯใกล้จะสิ้นสุดลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งก็จะยังไม่สามารถจัดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ได้
แต่ในขณะนี้ มีความจําเป็นต้องเร่งจัดการบริหารราชการกทม. ให้เป็นที่เรียบร้อย เกิดความต่อเนื่อง สามารถประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และภาคประชาชนอย่างมีเอกภาพ โดยเฉพาะในเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อย การรักษาความสะอาด การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การแก้ปัญหาการจราจร การพัฒนาชุมชน การอํานวยความสะดวกแก่ประชาชนในช่วงเวลาที่มีงานพิธีสําคัญ และการตรวจสอบการทุจริต และประพฤติมิชอบในความรับผิดชอบของกทม. ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนในขณะนี้ หากมิได้รับการแก้ไขโดยเร็ว จะเกิดเป็นความเสียหายต่อราชการแผ่นดิน
อาศัยอํานาจตามความใน มาตรา 44 ของรธน.(ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 หัวหน้าคสช. โดยความเห็นชอบของคณะคสช. จึงมีคําสั่งให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร พ้นจากตําแหน่ง ผู้ว่าฯกทม. และให้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯกทม. เป็นผู้ว่าฯกทม.แทน และให้มีรองผู้ว่าฯกทม. ไม่เกิน 4 คน ตามที่ผู้ว่าฯกทม. แต่งตั้งตามมาตรา49 (3) และมาตรา 55 แห่งพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 ทั้งนี้ จนกว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. หรือ คสช. มีคําสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นประการอื่น ส่วนการแต่งตั้ง และถอดถอนรองผู้ว่าฯกทม. ให้กระทําได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ภายใต้บังคับ มาตรา 49 (3) และ มาตรา 52 นายกรัฐมนตรี อาจสั่งให้ ผู้ว่าฯกทม. หรือรองผู้ว่าฯกทม. ออกจากตําแหน่งได้ เมื่อมีกรณีแสดงให้เห็นว่า ได้กระทําการอันเสื่อมเสียแก่เกียรติศักดิ์ของตําแหน่ง หรือปฏิบัติการ หรือละเลยไม่ปฏิบัติการอันควรปฏิบัติในลักษณะที่เห็นได้ว่าจะเป็นเหตุให้เสียหายอย่างร้ายแรงแก่กรุงเทพมหานคร หรือแก่ราชการโดยส่วนรวม หรือแก่การรักษาความสงบเรียบร้อย หรือสวัสดิภาพของประชาชน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี อาจเสนอให้คสช. มีคําสั่งแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกคําสั่งนี้ได้ โดยคําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 18 ต.ค.59 ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การใช้ มาตรา 44 ปลด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ พ้นตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. และ แต่งตั้งพล.ต.อ. อัศวิน ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.แทน ว่า ขออย่าเพิ่งไปว่ามีใครผิด หรือถูก เพราะทุกอย่างล้วนอยู่ในกระบวนการทั้งสิ้น และวันนี้จำเป็นต้องปรับการบริหารงานให้สอดคล้องกับภาระหน้าที่ เพราะบางอย่างหากไม่เกิดความชัดเจน จะบริหารงบประมาณไม่ได้ จึงต้องมีคนเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากคำสั่งคสช.ดังกล่าวส่งผลให้ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. พร้อมทีมผู้บริหารฝ่ายการเมืองทั้งหมด คือ รองผู้ว่าฯกทม.ที่เหลืออีก3 คน คือ นายจุมพล สำเภาพล นางผุสดี ตามไท นายอมร กิจเชวงกุล ต้องพ้นจากตำแหน่งไปด้วย รวมทั้งฝ่ายการเมืองที่เป็นที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. เลขานุการผู้ว่าฯกทม. และผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่ากทม.ทั่งหมดรวม 11 ตำแหน่ง พ้นจากตำแหน่งโดยทันทีตามประกาศคสช.ดังกล่าว โดยจะเหลือเพียงพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมืองที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.และเลือกทีมงานผู้บริหารของตนเองมาทำหน้าที่ต่อไป
*** “อัศวิน” เร่งตั้งทีมรองฯส่งครม.ก่อนศุกร์นี้
วานนี้ พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯกทม.กล่าวภายหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช.ได้ออกประกาศให้หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.และแต่งตั้งให้พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ว่า ไม่รู้สึกกังวล แต่ขอเวลาในการทำงานก่อน ในเรื่องการดูแลความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ที่จะเดินทางมา กราบพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และร่วมถวายความอาลัย
สำหรับการแต่งตั้งทีมผู้บริหารก็จะเร่ง ดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนวันศุกร์นี้ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง โดยในตำแหน่งรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะไม่มีมาจากทีมรองผู้ว่าฯเดิม ขณะนี้สรรหาได้ 1 คน คือ นายจักกพันธ์ ผิวงาม อดีตรองปลัดกรุงเทพมหานครที่เพิ่งเกษียณอายุราชการ จะมาเป็นรองผู้ว่าฯดูแลงานด้านการระบายน้ำ สิ่งแวดล้อม และการคลัง ส่วนอีก 3 คนที่เหลือกำลังสรรหาอยู่ ทางด้านทีมที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะมีจากทีมเดิมมาบ้าง คือ นายวัลลภ สุวรรณดี พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ มีเพียร นายยุทธพันธ์ มีชัย และนายสมชัย ไตรพิทยากุล อดีตผู้อำนวยการเขตพระนครที่เพิ่งเกษียณอายุราชการ ที่เหลือกำลังเร่งสรรหา
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า ก่อนที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เรื่องการให้ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครพ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯกทม. ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. แทน พล.ต.อ.อัศวิน ได้เดินทางเข้าพบนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายชวน ให้คำแนะนำว่า ขอให้ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต อย่าทำงานคนเดียว ต้องกระจายงานให้ผู้อื่นทำด้วย และเมื่อใดที่รัฐบาล กระทรวง หน่วยงาน ทบวง กรมมีการประชุม ทางผู้ว่าฯกทม.จะต้องไปประชุมด้วยตัวเอง เพราะนโยบายกทม.จะได้ไม่ไปขัดกับของรัฐบาล
** ป.ป.ช.ตั้งอนุกก.ไต่สวน “จักรมณฑ์”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรม รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาแล้ว โดยได้เริ่มไต่สวนข้อเท็จจริง รวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำพยานบุคคล และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงแล้ว
โดยแหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า กรณีของนายจักรมณฑ์ ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง สืบเนื่องจากที่มีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ทองคำในหลายพื้นที่ภาคกลางขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายจักรมณฑ์ เนื่องจากอาจมีส่วนได้ส่วนเสีย และเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชนในการเปิดเหมืองแร่ดังกล่าว โดยมีการกล่าวหาว่า นายจักรมณฑ์ถือหุ้นอยู่ในกลุ่มบริษัทที่ได้สัมปทานเหมืองแร่ทองคำ ซึ่งประเด็นนี้อยู่ระหว่างการไต่สวน และรวบรวมพยานหลักฐานอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายจักรมณฑ์ที่แจ้งต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า เคยดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) (หนึ่งในบริษัทที่ได้รับประทานบัตรเหมืองแร่ทองคำ) ช่วงปี 2556-2557 โดยเมื่อวันที่ 6 ส.ค.2557 นายจักรมณฑ์ได้ทำหนังสือแจ้งการลาออก ต่อ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ประธานกรรมการบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ก่อนจะมาดำรงตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2557.
