เมื่อเวลา 08.30 น. วานนี้ (11 ต.ค.) ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) พร้อมคณะเดินทางเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เพื่อนำร่างรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์ มาส่งมอบในเวลา 08.59 น. ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนและกำหนดเวลาที่มีการกำหนดไว้ โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานวิปรัฐบาล และ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมหารือ โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ภายหลังการหารือผู้สื่อข่าวถามว่า นายมีชัย ส่งร่างรธน.เรียบร้อยแล้วหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เรียบร้อย เมื่อถามต่อว่าจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ เลยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องตรวจทานก่อนซึ่งจะใช้ระยะเวลา 30 วัน
ด้านนายมีชัย กล่าวภายหลังนำคณะเข้าพบนายกฯ ว่า นายกฯได้แสดงความเห็นใจ เพราะกรธ.ทำงานเหนื่อยยาก และระบุด้วยว่า ขอให้อดทนเพราะทุกคนต่างโดนเล่นงานกันบ้าง ไม่มากก็น้อย ส่วนการร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล ตอนนี้ยังไม่ได้ร้องขอไปยังรัฐบาลว่าให้ช่วยงานกรธ.ในส่วนใดบ้าง แต่หากมีอะไรที่ขาดเหลือ คงบอกรัฐบาลไป อย่างไรก็ดี ตอนนี้ก็มีเรื่อง แต่ใครไม่สามารถช่วยได้ คือ เรื่องเวลามันน้อย หากมีเวลาสักวันละ 30 ชั่วโมงได้ ก็จะดีขึ้น
นายมีชัย กล่าวด้วยว่า ในระหว่างเข้าพบนายกฯได้เล่าให้ฟังว่า รัฐบาลกำลังมุ่งหน้าเดินเพื่อให้สอดคล้อกับโรดแมป และสอดคล้องกับรธน.อย่างไร ต้องเร่งทำกฎหมายที่ฝ่ายรัฐบาลต้องรับผิดชอบ ซึ่งอาจมีนับ 100 ฉบับ เพราะตาม รธน. ต้องออกกฎหมายจำนวนมาก และกฎหมายบางฉบับกำหนดระยะเวลาค่อนข้างสั้น ดังนั้น ต้องทำกันแบบตะลุมบอน ทำให้ทุกฝ่ายมีงานต้องทำกันเยอะ โดยส่วนของรัฐบาลต้องออกกฎหมายมารองรับอีกมาก เพราะรธน. กำหนดให้ออกกฎหมายเพิ่มเติมในเรื่องต่างๆ ทั้งที่เป็นสิทธิประโยชน์ หน้าที่ของหน่วยงานของรัฐ ประชาชน และโครงสร้างต่างๆ ต้องลงมือทำกัน
ส่วนการเตรียมการในระยะเร่งรัดเพื่อทำกฎหมายลูก 4 ฉบับ ให้เสร็จก่อนการเลือกตั้งนั้น นายมีชัย กล่าวว่า มีอนุกรรมการฝ่ายยกร่างฯทำอยู่แล้ว เพราะในขั้นตอนเมื่อ กรธ. ประชุมแล้วเสร็จ ประมาณ 17.00 น. คณะอนุฯ ยกร่างก็ต้องกลับไปทำร่างกฎหมายลูก โดยจะทำทุกวัน เสาร์ และอาทิตย์ก็ต้องไปทำ เพราะต้องรับลูกช่วยกันทำ แต่ไม่คิดว่าจะมีการตั้งบุคคล เพื่อให้ทำหน้าที่กรธ. เพิ่มเติม เพราะเท่าที่ทำอยู่ก็ทำไปได้ ซึ่งตัวคนที่ขาดไม่ใช่ กรธ. แต่เป็นคนที่ทำร่างกฎหมาย
สำหรับการออกกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ซึ่งฝ่ายการเมืองต้องจับตา และอาจถูกครหาว่าไม่ได้เป็นไปเพื่อองค์รวม จะมีวิธีดำเนินการอย่างไรนั้น นายมีชัย กล่าวว่า เวลาทำก็ทำเพื่อองค์รวม แต่ว่ากฎหมายเลือกตั้งยังมีเวลา เนื่องจาก กรธ. จะยกร่างให้แล้วเสร็จในช่วงท้ายของกรอบเวลาทำงาน ขณะที่กฎหมายพรรคการเมือง และกฎหมาย กกต. ต้องทำให้แล้วเสร็จโดยเร็ว จะได้ไปเตรียมตัวก่อน อย่างไรก็ตามหาก พรรคการเมืองสนใจ สามารถส่งความเห็นในส่วนที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งมาให้เราได้ เพื่อประกอบการพิจารณา เพราะเขาเชี่ยวชาญเรื่องการเลือกตั้งดีกว่า ดังนั้นโอกาสที่จะเผยแพร่ร่างกฎหมายการเลือกตั้ง จะมีมากกว่ากฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมาย กกต. โดยได้วางเป้าหมายทำให้เสร็จภายใน 1 เดือน เพราะต้องใช้เวลาพิจารณาใน สนช. อีก 70 วัน ถึงจะออกเป็นกฎหมายและลงมือ ดังนั้นตัวนี้รอนานไม่ได้ อาจไม่ได้มีโอกาสฟังอย่างทั่วหน้านัก ขณะนี้ กรธ.เตรียมจัดเวทีรับฟังความเห็นของประชาชนตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อเปิดรับฟังความเห็นในภาคต่างๆ ส่วนพรรคการเมืองนั้นเราก็เปิดโอกาสให้เข้าแสดงความเห็นไปแล้ว แต่คงไม่ทำในรูปแบบของการเดินสายพบ เพราะไม่รู้ว่าจะไปพบกับใคร
ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศคนที่ 1 กล่าวถึง ประเด็นการเซตซีโรพรรคการเมืองว่า แม้ส่วนตัวจะไม่เห็นด้วยกับการเซตซีโรพรรคการเมือง แต่จากโพลล่าสุดปรากฏว่า ประชาชนกว่า 70% สนับสนุนให้เซตซีโรพรรคการเมือง ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงมาก และน่าจะมีน้ำหนักพอที่ทุกพรรคการเมืองจะรับฟัง และเร่งปฏิรูปพรรค มิฉะนั้นกรธ.ซึ่งกำลังยกร่าง พ.ร.ป.พรรคการเมือง และ สนช. จะพิจารณาให้ความเห็นชอบกฎหมายดังกล่าวอาจดำเนินการตามความต้องการส่วนใหญ่ของประชาชน
ในฐานะที่ตนเคยเสนอให้ปฏิรูปพรรคการเมืองมาตั้งแต่ปี 56 ก็รู้สึกห่วงใยระบบพรรคการเมืองว่าอาจถูกล้างไพ่ จึงเห็นว่าทุกพรรคควรต้องเริ่มปฏิรูปพรรรเสียแต่วันนี้ เพื่อฟื้นฟูศรัทธาของประชาชนให้กลับคืนมา.
ทั้งนี้ ภายหลังการหารือผู้สื่อข่าวถามว่า นายมีชัย ส่งร่างรธน.เรียบร้อยแล้วหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เรียบร้อย เมื่อถามต่อว่าจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ เลยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องตรวจทานก่อนซึ่งจะใช้ระยะเวลา 30 วัน
ด้านนายมีชัย กล่าวภายหลังนำคณะเข้าพบนายกฯ ว่า นายกฯได้แสดงความเห็นใจ เพราะกรธ.ทำงานเหนื่อยยาก และระบุด้วยว่า ขอให้อดทนเพราะทุกคนต่างโดนเล่นงานกันบ้าง ไม่มากก็น้อย ส่วนการร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล ตอนนี้ยังไม่ได้ร้องขอไปยังรัฐบาลว่าให้ช่วยงานกรธ.ในส่วนใดบ้าง แต่หากมีอะไรที่ขาดเหลือ คงบอกรัฐบาลไป อย่างไรก็ดี ตอนนี้ก็มีเรื่อง แต่ใครไม่สามารถช่วยได้ คือ เรื่องเวลามันน้อย หากมีเวลาสักวันละ 30 ชั่วโมงได้ ก็จะดีขึ้น
นายมีชัย กล่าวด้วยว่า ในระหว่างเข้าพบนายกฯได้เล่าให้ฟังว่า รัฐบาลกำลังมุ่งหน้าเดินเพื่อให้สอดคล้อกับโรดแมป และสอดคล้องกับรธน.อย่างไร ต้องเร่งทำกฎหมายที่ฝ่ายรัฐบาลต้องรับผิดชอบ ซึ่งอาจมีนับ 100 ฉบับ เพราะตาม รธน. ต้องออกกฎหมายจำนวนมาก และกฎหมายบางฉบับกำหนดระยะเวลาค่อนข้างสั้น ดังนั้น ต้องทำกันแบบตะลุมบอน ทำให้ทุกฝ่ายมีงานต้องทำกันเยอะ โดยส่วนของรัฐบาลต้องออกกฎหมายมารองรับอีกมาก เพราะรธน. กำหนดให้ออกกฎหมายเพิ่มเติมในเรื่องต่างๆ ทั้งที่เป็นสิทธิประโยชน์ หน้าที่ของหน่วยงานของรัฐ ประชาชน และโครงสร้างต่างๆ ต้องลงมือทำกัน
ส่วนการเตรียมการในระยะเร่งรัดเพื่อทำกฎหมายลูก 4 ฉบับ ให้เสร็จก่อนการเลือกตั้งนั้น นายมีชัย กล่าวว่า มีอนุกรรมการฝ่ายยกร่างฯทำอยู่แล้ว เพราะในขั้นตอนเมื่อ กรธ. ประชุมแล้วเสร็จ ประมาณ 17.00 น. คณะอนุฯ ยกร่างก็ต้องกลับไปทำร่างกฎหมายลูก โดยจะทำทุกวัน เสาร์ และอาทิตย์ก็ต้องไปทำ เพราะต้องรับลูกช่วยกันทำ แต่ไม่คิดว่าจะมีการตั้งบุคคล เพื่อให้ทำหน้าที่กรธ. เพิ่มเติม เพราะเท่าที่ทำอยู่ก็ทำไปได้ ซึ่งตัวคนที่ขาดไม่ใช่ กรธ. แต่เป็นคนที่ทำร่างกฎหมาย
สำหรับการออกกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ซึ่งฝ่ายการเมืองต้องจับตา และอาจถูกครหาว่าไม่ได้เป็นไปเพื่อองค์รวม จะมีวิธีดำเนินการอย่างไรนั้น นายมีชัย กล่าวว่า เวลาทำก็ทำเพื่อองค์รวม แต่ว่ากฎหมายเลือกตั้งยังมีเวลา เนื่องจาก กรธ. จะยกร่างให้แล้วเสร็จในช่วงท้ายของกรอบเวลาทำงาน ขณะที่กฎหมายพรรคการเมือง และกฎหมาย กกต. ต้องทำให้แล้วเสร็จโดยเร็ว จะได้ไปเตรียมตัวก่อน อย่างไรก็ตามหาก พรรคการเมืองสนใจ สามารถส่งความเห็นในส่วนที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งมาให้เราได้ เพื่อประกอบการพิจารณา เพราะเขาเชี่ยวชาญเรื่องการเลือกตั้งดีกว่า ดังนั้นโอกาสที่จะเผยแพร่ร่างกฎหมายการเลือกตั้ง จะมีมากกว่ากฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมาย กกต. โดยได้วางเป้าหมายทำให้เสร็จภายใน 1 เดือน เพราะต้องใช้เวลาพิจารณาใน สนช. อีก 70 วัน ถึงจะออกเป็นกฎหมายและลงมือ ดังนั้นตัวนี้รอนานไม่ได้ อาจไม่ได้มีโอกาสฟังอย่างทั่วหน้านัก ขณะนี้ กรธ.เตรียมจัดเวทีรับฟังความเห็นของประชาชนตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อเปิดรับฟังความเห็นในภาคต่างๆ ส่วนพรรคการเมืองนั้นเราก็เปิดโอกาสให้เข้าแสดงความเห็นไปแล้ว แต่คงไม่ทำในรูปแบบของการเดินสายพบ เพราะไม่รู้ว่าจะไปพบกับใคร
ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศคนที่ 1 กล่าวถึง ประเด็นการเซตซีโรพรรคการเมืองว่า แม้ส่วนตัวจะไม่เห็นด้วยกับการเซตซีโรพรรคการเมือง แต่จากโพลล่าสุดปรากฏว่า ประชาชนกว่า 70% สนับสนุนให้เซตซีโรพรรคการเมือง ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงมาก และน่าจะมีน้ำหนักพอที่ทุกพรรคการเมืองจะรับฟัง และเร่งปฏิรูปพรรค มิฉะนั้นกรธ.ซึ่งกำลังยกร่าง พ.ร.ป.พรรคการเมือง และ สนช. จะพิจารณาให้ความเห็นชอบกฎหมายดังกล่าวอาจดำเนินการตามความต้องการส่วนใหญ่ของประชาชน
ในฐานะที่ตนเคยเสนอให้ปฏิรูปพรรคการเมืองมาตั้งแต่ปี 56 ก็รู้สึกห่วงใยระบบพรรคการเมืองว่าอาจถูกล้างไพ่ จึงเห็นว่าทุกพรรคควรต้องเริ่มปฏิรูปพรรรเสียแต่วันนี้ เพื่อฟื้นฟูศรัทธาของประชาชนให้กลับคืนมา.
