xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“ซ้อต่าย บุรีรัมย์ – เสี่ยอนุสรณ์ ชัยนาท” “มาตรฐาน” ที่ชวนให้ขบคิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ซ้อต่าย –กรุณา ชิดชอบ
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - กลับมาเป็นเรื่องให้ถกเถียงกันอีกครั้ง สำหรับ นางกรุณา ชิดชอบ ภรรยานายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ถูกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ตรวจสอบการใช้เงินขององค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ ที่มี “ซ้อต่าย” นั่งตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด

ทั้งนี้ รายงานที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวอิศรา ระบุว่ามีการนำงบหลวงไปใช้สำหรับจัดหากองเชียร์ ทั้งค่าพาหนะ ค่าอาหาร และ เบี้ยเลี้ยง เข้าชมการแข่งขันของทีม บุรีรัมย์ฯ ที่เดินทางไปแข่งขันยังสนามในจังหวัดอื่นๆ ปีละ 20 ล้านบาท ตรวจพบย้อนหลัง 3 ปี รวมเป็นเม็ดเงินทั้งสิ้นราว 60 ล้านบาท

กล่าวสำหรับปัญหาดังกล่าวนั้น เคยถูกตรวจสอบเมื่อปีที่ 2558 ที่ผ่านมา และในขณะนั้น “ประธานเนวิน” ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยรับความช่วยเหลือจาก อบจ.บุรีรัมย์ สามารถตรวจสอบบัญชีได้ทุกเมื่อ ซึ่งฟังดูเป็นคำตอบที่หนักแน่น ทว่า หากคิดให้หนัก ก็เป็นการตอบไม่ตรงคำถาม เนื่องจาก สตง. ก็บอกอยู่แล้วว่านำเงิน อบจ. ไปขนกองเชียร์ ไม่ใช่นำเงินไปให้สโมสร ฉะนั้นหากมีการตรวจบัญชีตามที่อดีตนักการเมืองระดับลายครามกล่าว ก็คงไม่พบข้อพิรุธอยู่ดี

โดยหลักเกณฑ์ของ สตง. เมื่อตรวจพบก็จะเรียกคืนเงินที่มีการใช้จ่ายเงินแบบไม่ถูกต้องทั้งหมด แต่ทางด้าน อบจ.บุรีรัมย์ ก็ยืนยันว่าไม่ใช่ความผิดขององค์กร เนื่องจากมีหน้าที่เบิกงบให้หน่วยงานในจังหวัดแค่นั้น พร้อมโยนให้เป็นความรับผิดชอบของสมาคมกีฬาบุรีรัมย์ว่าเป็นผู้นำเงินไปมอบให้ สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ใช้จ้างคนไปเชียร์ฟุตบอล
เนวิน ชิดชอบ
หากลองพิจารณาดูอีกทีกรณีนี้จะเหมือนกับ อบจ.ชัยนาท ซึ่ง สตง. สอบพบการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ หมวดเงินอุดหนุนสนับสนุนสมาคมกีฬาจังหวัดชัยนาท ที่ นายอนุสรณ์ นาคาศัย เป็นนายกสมาคม เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพของสโมสรฟุตบอลจังหวัดชัยนาท ซึ่งน้องชาย “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย ประธานนกใหญ่พิฆาต รับตำแหน่งผู้จัดการทีมอยู่ และยังใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมแข่งขันชกมวยสากลระดับโลก รวมจำนวนเงิน 44,800,000 บาท

สตง. พิจารณาแล้วเห็นว่า การจัดแข่งขันกีฬาทั้งสองส่วนนี้ เป็นกีฬาเพื่อการอาชีพ ไม่ใช่กีฬา ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดต้องส่งเสริม อบจ.ชัยนาท จึงไม่อาจเบิกจ่ายเงินงบประมาณสนับสนุนกีฬา สมาคมกีฬาจังหวัดชัยนาทได้ และการดำเนินการของนายอนุสรณ์เข้าข่าย การมีผลประโยชน์ทับซ้อนด้วย
แฟนบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาจากการจ้าง
นอกจากนี้ยังมีการเบิกจ่ายเงินจำนวน 10,070,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย โครงการมหกรรมรวมพลังสร้างสุขภาพ ในวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งประชาติ ปี 2554 ของ อบจ.ชัยนาท ไม่สามารถเบิกจ่ายได้เช่นกัน เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ในจังหวัดสามารถดำเนินการได้เอง และหลายแห่งได้ดำเนินการอยู่ก่อนแล้ว ทำให้ถูกเรียกเงินส่งคืนคลัง อบจ.ชัยนาท รวมจำนวน 54,870,000 บาท พร้อมถูกสั่งพักงานตามมาตรา 44 ออกคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 43/2559 เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2559

แต่ในรายของ “ซ้อต่าย” กลับยังเงียบเฉย

อีกทั้ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) ยังออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม. ครั้งล่าสุด ว่ายังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีการหยิบยกความสัมพันธ์ของหัวเรือใหญ่เมืองปราสาทหิน เนวิน ชิดชอบ กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนปัจจุบัน ที่พ่วงตำแหน่งรองหัวหน้าและประธานคณะที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ขึ้นมาเหน็บแนมกัน
อนุสรณ์ นาคาศัย
เนื่องจากหลังเกษียณอายุราชการ พล.อ.ประวิตร ก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมืองในเก้าอี้ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชาชาชีวะ และมีส่วนทำให้พรรคประชาธิปัตย์สามารถพลิกขั้วกลับมาเป็นรัฐบาลได้สำเร็จ และในช่วงจังหวะนั้นเองที่ทำให้ พล.อ.ประวิตร ได้เข้าไปสานสัมพันธ์กับกลุ่มอำนาจทางการเมือง “สีน้ำเงิน” ที่มี “บิ๊กเน” แห่งพรรคภูมิใจไทย เป็นแกนนำคนสำคัญ และชักจูงไปให้รู้จักกับคนใหญ่คนโตในวงการการเมืองไทยอีกหลายคน

เพราะสาเหตุนี้เอง ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าความผิดของภรรยานายใหญ่เมืองบุรีรัมย์ จะมีมาตรฐานที่สองเข้ามาหยิบยื่นความช่วยเหลือ จนทำให้หลุดพ้นข้อกล่าวหาหรือไม่ประการใด

ก็ได้แต่หวังว่า คำตอบในเรื่องนี้คงจะไม่หายไปกับสายลม


กำลังโหลดความคิดเห็น