เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกมาโพสต์แสดงความเสียใจที่ทีมตนไม่สามารถป้องกันแชมป์ลีกได้สำเร็จ ลั่นพร้อมผ่าตัดทีมเพื่อนำกลับสู่ความสำเร็จอีกครั้งในฤดูกาลหน้า ก่อนมีการเปิดตัวกุนซือใหม่
ภายหลังจากสถานการณ์ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บิ๊กทีมแห่งศึกไทยลีก ทำผลงานในฤดูกาล 2016 ได้ไม่น่าประทับใจเท่าไรนัก โดยปัจจุบันรั้งอันดับ 3 ของตารางคะแนน แข่งไปแล้ว 28 นัด ชนะ 14 เสมอ 10 และแพ้ 4 นัด มี 52 คะแนน แถมตามหลัง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จ่าฝูงถึง 19 แต้ม หมดลุ้นแชมป์ลีก แน่นอนแล้ว รวมถึงยังตกรอบ ฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก และฟุตบอลเอฟเอ คัพ เหลือให้ได้ลุ้นเพียงฟุตบอลลีก คัพ ซึ่งอยู่ในรอบรองชนะเลิศเท่านั้น
อีกทั้งฤดูกาลนี้ยังเป็นปีที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีการปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญ โดยเฉพาะการปล่อยผู้เล่นอย่าง ธีราทร บุญมาทัน กัปตันทีมชาติไทย ออกจากทีม รวมถึงมีการแยกทางกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนไปแล้วถึง 2 ราย อย่าง อเล็กซานเดอร์ กามา และ อัฟชิน ก็อตบี ก่อนจะมีการเปิดตัวกุนซือคนใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคมนี้
อย่างไรก็ตาม เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจของสโมสร กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงภายในทีม ก็เพื่อนำทัพกลับมาประสบความสำเร็จในฤดูกาลหน้าให้ได้
เรียน แฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เคารพ ทุกท่าน ปีนี้เป็นปีที่น่าผิดหวังที่สุดสำหรับผม เพราะเป็นปีที่ผมตั้งความหวังไว้มากว่าเราน่าจะประสบความสำเร็จมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา แต่กลับเป็นปีที่เราโชคร้ายมากที่สุด นักฟุตบอลของเราบาดเจ็บมากจนเกินกว่าที่นักฟุตบอลที่เหลืออยู่จะพาทีมไปสู่จุดหมายที่เราตั้งความหวังไว้ได้ นำมาสู่เสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย ทั้งหนักและเบา ซึ่งผมน้อมรับทุกประการ สำหรับความเห็น และข้อเสนอแนะของแฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และหลาย ๆ คำแนะนำ ผมจะนำไปใช้พัฒนา ปรับปรุงทีมของเราต่อไป
การไม่สามารถรักษาแชมป์ไทยลีก และ แชมป์เอฟเอคัพ ไว้ให้กับแฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ เป็นสิ่งที่ผมเสียใจมากที่สุด ที่มากไปกว่านั้น คือ ทำให้แฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต้องผิดหวัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือ ลมหายใจของผม เพราะฉะนั้น ไม่ต้องถามว่า เมื่อบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นแบบนี้ ผมจะเป็นแบบไหน แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมจะยืนอยู่ตรงนี้ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะชนะ หรือ เสมอ หรือ แพ้ ผมก็จะยืนอยู่ตรงนื้ ไม่ว่าจะมีแฟนบอลกี่คน ผมก็จะอยู่กับลมหายใจของผมตลอดไป จนกว่าผมจะหมดลมหายใจ
6 ปีที่ผ่านมา เราได้ 20 แชมป์ ทุกคนในทีมก็มีส่วนร่วมกับรางวัล และได้รับเกียรติยศกันถ้วนหน้า ปีนี้ เราพลาดเสียแชมป์ไปแล้ว 2 แชมป์ ไม่ต้องถามหาความรับผิดชอบจากใคร เพราะทั้งหมดที่ประกอบกันขึ้นเป็นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือ ความรับผิดชอบของผมคนเดียว แต่สิ่งที่ผมต้องทำ ในฐานะผู้รับผิดชอบ ไม่ใช่การถอย หรือทิ้งทีมไป ผมต้องเดินหน้า และทำงานมากขึ้นกว่าเดิม ผมต้องทำทุกวิถีทางที่จะให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รักษาแชมป์ที่เหลืออยู่ คือ โตโยต้า ลีกคัพ ไว้ให้ได้ และจบฤดูกาลนี้ด้วยอันดับที่ดีที่สุด ต่อจากนั้น เราจะต้องทำงานกันอย่างหนัก เพื่อนำบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กลับคืนมาสู่การเป็นสโมสรฟุตบอลอันดับ 1 ของประเทศไทย และทวงแชมป์ที่เสียไป กลับมาให้แฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ให้เร็วที่สุด
การเปลี่ยนแปลงผู้ฝึกสอนทั้ง 2 คน ในปีนี้ หลายคนอาจจะมองว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด ในฐานะที่ผมอยู่กับทีม ทำงานกับโค้ชทั้ง 2 คน มากที่สุดกว่าทุก ๆ คน ผมยังคงยืนยันว่า ผมได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับทีม แม้ว่าผลของการเปลี่ยนแปลง จะไม่ได้ผลตามที่ผมตั้งความหวังไว้ ก็ตาม ฟุตบอลไม่ได้มีแค่ 90 นาทีในสนาม ที่แฟน ๆ ได้เห็น ได้ดีใจ หรือ เสียใจกับผลการแข่งขัน ก่อนจะเป็น 90 นาทีในสนาม และหลังจาก 90 นาทีในสนาม ผ่านพ้นไป ผมได้อยู่ ได้เห็น ได้แก้ไข ได้ตัดสินใจทุก ๆ วัน กับการทำงานของทุกคน รวมถึงโค้ชและทีมงาน
ผมไม่ได้ตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ เพราะการแข่งขัน และผลการแข่งขันเท่านั้น มีองค์ประกอบหลายอย่างที่ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งผมเห็นว่าไม่ควรจะนำมาพูดจาในวงกว้าง ก็เหมือนองค์กรต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงคนทำงาน ก็จะไม่นำเหตุผลมาพูด มาเปิดเผยให้บุคคลทั่วไป ได้รับรู้ทั่วกัน เพราะเป็นมารยาทของคนทำงาน การเปลี่ยนแปลงทุกครั้ง คือ ความเสี่ยง แต่ผมพร้อมจะเสี่ยง และเดินไปข้างหน้า ดีกว่าย่ำอยู่กับที่ เพราะการย่ำอยู่กับที่ เป็นการเสียโอกาสของทีม และจะนำความเสียใจมาสู่แฟน ๆ ในที่สุด
การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้ ผมหวังว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่ดีกว่า ทุก ๆ บทเรียน ทุก ๆ ประสบการณ์ ที่ได้รับมาตลอด 6 ปีเศษที่ผ่านมา ผมศึกษาและนำมาใช้อย่างระมัดระวังที่สุด แต่ไม่มีใครจะหยั่งรู้อนาคตได้ หากผลการเปลี่ยนแปลงในวันนี้ ไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ ก็เป็นเรื่องที่เราต้องใช้ความพยายามกันต่อไป
สำหรับผมแล้ว ไม่ว่าจะต้องใช้ความพยายาม พละกำลังมากเท่าใด ใช้ทรัพยากรมากเท่าใด ผมต้องทำ ต้องทุ่มเท เพื่อบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นลมหายใจของผม เพื่อแฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นมิตรแท้ของผม ผมพร้อมจะทุ่มเททุกอย่างในชีวิต เพื่อบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และหวังว่า แฟน ๆ จะยังคงยืนเคียงข้างกัน ส่งเสียงเชียร์และสนับสนุนทีมของเรา เป็นกำลังใจให้พวกเรากลับมาได้ อีกครั้งหนึ่ง