ทุกชีวิตหนีไม่พ้น...เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย...!
จะตาย-เบาหวิวดุจขนนก หรือจะตาย-หนักแน่นดั่งขุนเขา ล้วนขึ้นอยู่กับแต่ละชีวิตได้เลือกเดิน...
“จารย์ปุ๊” หรือ “อาจารย์จันทน์ทิพย์ ลิ้มทองกุล” คู่ชีวิต “สนธิ ลิ้มทองกุล” ที่เป็นทั้ง...คู่รัก-คู่คิด-คู่ทุกข์-คู่ยาก ซึ่งเกิดมาเพื่อเป็น “คู่บุญ-กันและกัน”
เมื่อ “จารย์ปุ๊-สนธิลิ้ม” เริ่มก่อสร้างชีวิตคู่ แน่นอน...ทุกย่างก้าวที่ “สนธิลิ้ม” ตัดสินใจเดิน ทุกข์แค่ไหน? อันตรายต่อชีวิตเพียงใด? “จารย์ปุ๊-ภรรยา” ล้วนต้องแบกรับ โดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ไม่มีใครรู้ลึกถึงก้นบึ้งว่า “จารย์ปุ๊” เป็นห่วงสามีมากแค่ไหน? เมื่อ “สนธิลิ้ม” ตัดสินใจเป็นหนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ เพื่อต่อสู้กับอำนาจรัฐอธรรม “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ยิ่งใหญ่ล้นฟ้าเมืองไทยในยามนั้น
“จารย์ปุ๊-สนธิลิ้ม” และครอบครัว ต้องเผชิญกับสิ่งเลวร้ายสารพัดจากรัฐบาล “ทักษิณ” และเครือข่ายที่ข่มขู่-คุกคามครอบครัว “ลิ้มทองกุล” และธุรกิจสื่อในเครือ “ผู้จัดการ-เอเอสทีวี” อย่างหนัก
การสู้กับรัฐอธรรมเครือข่าย “ทักษิณ” หลายระลอก นอกจากชาว พธม.ได้ร่วมกันบริจาคทรัพย์แล้ว ทาง “สนธิลิ้ม-จารย์ปุ๊” ยังได้นำเงินทองทรัพย์สินที่หามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรง ออกขายชิ้นแล้วชิ้นเล่า เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการต่อสู้ชนิด “เจ๊งเป็นเจ๊ง-ตายเป็นตาย” อีกด้วย
การต่อสู้แบบบ้าระห่ำ “กินตัวเอง” เช่นนี้ ทำได้อย่างราบรื่นเพราะ “สนธิลิ้ม”โชคดี ด้วย “จารย์ปุ๊” รักชาติและกล้าหาญไม่ต่างไปจาก “สนธิลิ้ม” ดังนั้น “จารย์ปุ๊-ผู้ภรรยา” จึงเข้าใจ “สนธิลิ้ม-ผู้สามี” อย่างถ่องแท้! ทำให้ “จารย์ปุ๊” สนับสนุน “สนธิลิ้ม” อย่างสุดจิตสุดใจ จน “สนธิลิ้ม-แกนนำทุกคน-ชาว พธม.” ขับไล่รัฐบาลอธรรม “ทักษิณ” และเครือข่ายล้มครืนลงได้ถึง 3 รัฐบาล
ฉะนั้น บนการต่อสู้ที่แลกด้วยชีวิตและเลือดเนื้อ เพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ของ “สนธิลิ้ม-แกนนำทุกคน” และชาว พธม.ที่ผ่านมา จึงมี “พลังขับเคลื่อน” ที่กล้าหาญและสำคัญยิ่งของ “จารย์ปุ๊” อยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด
วันหนึ่ง “ชาว พธม.” ต้องตกใจและร่ำไห้ เมื่อ “สนธิลิ้ม” ถูก “มือมืดรุมสังหาร” ด้วยอาวุธสงครามกว่า 200 นัด! วันนั้น “จารย์ปุ๊-ผู้ภรรยา” ตกใจมากกว่าใครใช่ไหม? เลือดและความเจ็บปวดของ “สามี-สนธิลิ้ม” ในวันนั้น “จารย์ปุ๊” ต้องหลั่งน้ำตามากมายขนาดไหน? วันนั้น “จารย์ปุ๊” ต้องเจ็บปวดรวดร้าวใจมหาศาลปานใด...?
ด้วย “จารย์ปุ๊” และชาว พธม.รู้อยู่แก่ใจว่า “สนธิลิ้ม” เสียสละสู้เพื่อชาติมาตลอด แต่ “สนธิลิ้ม” กลับได้รับผลตอบแทน โดยถูก “ผู้มีอำนาจบางกลุ่ม” ล่าสังหารจน-เกือบตาย...!
ทุกวันนี้ “สนธิลิ้ม” ยังทุ่มเทชีวิต โดยเฉพาะสื่อในเครือ “ผู้จัดการ” ที่ “ลิ้มทองกุล” ก่อตั้ง ซึ่งอยู่ในสภาพ “ชักหน้าไม่ถึงหลัง” ยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงในการต่อสู้ ปกป้องชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ และพิทักษ์ผลประโยชน์ของประชาชนมาจนทุกวันนี้
ท่ามกลางขบวนการ “โกงชาติ-ล้มเจ้า” ที่ยังคงเคลื่อนไหวทั้งลับและเปิดเผย โดยรัฐบาล “บิ๊กตู่” กำลังใช้กฎหมายแก้ปัญหากลุ่มคนชั่วที่โกงการเลือกตั้ง เข้ายึดและใช้อำนาจรัฐคอร์รัปชันชาติ พร้อมกับใช้กฎหมายป้องกันมิให้กลุ่มคนชั่วกลับมายุ่งเกี่ยวกับการเมืองของชาติไทย รวมทั้งวางกลไกมิให้รัฐบาลในอนาคต ใช้อำนาจรัฐคอร์รัปชันชาติไทยอีกด้วย
การใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมาของรัฐบาล “บิ๊กตู่” ต่อทุกฝ่ายในขณะนี้ จะทำให้คนดีได้ขึ้นปกครองชาติไทยหรือไม่นั้น ต้องพิสูจน์กันในอนาคตอันใกล้นี้แหละภารกิจสู้เพื่อชาติที่แลกด้วยชีวิต ทั้งของชาว พธม.และชาว กปปส.ได้เป็น “บันได” ให้รัฐบาล “บิ๊กตู่” ขึ้นสู่อำนาจมาจนทุกวันนี้ ส่วนจะ “ต่อยอดภารกิจเพื่อชาติ” สำเร็จหรือไม่นั้น ยังไม่มีความแน่นอนให้เห็นแบบเต็มร้อย
วันที่ 6 ก.ย. 59 ขณะที่ “จารย์ปุ๊” กำลังป่วยหนักด้วยโรคมะเร็งขั้นสุดท้าย “สนธิลิ้ม” ได้ย้ายจาก “บ้านพระอาทิตย์” เข้าไปอยู่ใน “หมู่บ้านคลองเปรม” เพื่อให้ทุกฝ่ายได้เห็นว่า ชาติไทยมีแค่มาตรฐานเดียวเท่านั้น นั่นคือ กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย คำตัดสินของศาลต้องศักดิ์สิทธิ์...!
ท่ามกลางเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดกับ “ครอบครัวลิ้มทองกุล” ผมไม่เคยได้ยิน “จารย์ปุ๊” บ่นน้อยใจ และโทษโชคชะตาใดๆ ทั้งสิ้น...
“ภารกิจติดคุก” ของ “นักรบ-สนธิลิ้ม” เพิ่งเริ่มต้น! สักวัน “สนธิลิ้ม” ต้องกลับคืนสู่อิสรภาพอีกครั้ง แต่...3 ตุลาคม 2559 เวลา 05.30 น. “จารย์ปุ๊” กลับลาจาก “สนธิลิ้ม” ชั่วนิรันดร์ไปอย่างสงบเสียแล้ว
โดย “สนธิลิ้ม” ไม่มีโอกาสได้กล่าวคำอำลา “จารย์ปุ๊-ผู้ภรรยา!” ไม่มีโอกาสแม้แต่จะรดน้ำร่างไร้วิญญาณของ “จารย์ปุ๊-ผู้ภรรยา!” ไม่มีโอกาสแม้แต่จะเผาศพ “จารย์ปุ๊-ผู้ภรรยา” ฯลฯ
“จารย์ปุ๊” เหลือไว้ก็เพียงแค่ “เถ้ากระดูก” รอคอยการกลับมาของ “สนธิลิ้ม” เท่านั้น!
วันนี้ “จิตตนาถ ลิ้มทองกุล” ลูกชายคนเดียว ต้องเดินหน้านำสื่อในเครือ“ผู้จัดการ” ดิ้นรนต่อสู้เพื่อสืบทอดอุดมการณ์สู้เพื่อชาติ ของ “จารย์ปุ๊-สนธิลิ้ม” และ“ชาว พธม.” ต่อไป
นี่คือ หนึ่งในชีวิต “แกนนำ-นักรบ พธม.” ซึ่งเป็น “บันไดขั้นแรก” ของการต่อสู้ กับรัฐบาลอธรรมทักษิณและเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง โดย “อัศวินเขียวหลายคน” ได้ใช้ “บันได” นี้ ก้าวขึ้นยึดอำนาจรัฐเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตชาติอยู่ในวันนี้...
ขอคารวะและรำลึกพระคุณอย่างสูงต่อดวงวิญญาณ “อาจารย์จันทน์ทิพย์ ลิ้มทองกุล” ผู้เสียสละเพื่อชาติและประชาชน ด้วยความอาลัยยิ่ง...
จะตาย-เบาหวิวดุจขนนก หรือจะตาย-หนักแน่นดั่งขุนเขา ล้วนขึ้นอยู่กับแต่ละชีวิตได้เลือกเดิน...
“จารย์ปุ๊” หรือ “อาจารย์จันทน์ทิพย์ ลิ้มทองกุล” คู่ชีวิต “สนธิ ลิ้มทองกุล” ที่เป็นทั้ง...คู่รัก-คู่คิด-คู่ทุกข์-คู่ยาก ซึ่งเกิดมาเพื่อเป็น “คู่บุญ-กันและกัน”
เมื่อ “จารย์ปุ๊-สนธิลิ้ม” เริ่มก่อสร้างชีวิตคู่ แน่นอน...ทุกย่างก้าวที่ “สนธิลิ้ม” ตัดสินใจเดิน ทุกข์แค่ไหน? อันตรายต่อชีวิตเพียงใด? “จารย์ปุ๊-ภรรยา” ล้วนต้องแบกรับ โดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ไม่มีใครรู้ลึกถึงก้นบึ้งว่า “จารย์ปุ๊” เป็นห่วงสามีมากแค่ไหน? เมื่อ “สนธิลิ้ม” ตัดสินใจเป็นหนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ เพื่อต่อสู้กับอำนาจรัฐอธรรม “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ยิ่งใหญ่ล้นฟ้าเมืองไทยในยามนั้น
“จารย์ปุ๊-สนธิลิ้ม” และครอบครัว ต้องเผชิญกับสิ่งเลวร้ายสารพัดจากรัฐบาล “ทักษิณ” และเครือข่ายที่ข่มขู่-คุกคามครอบครัว “ลิ้มทองกุล” และธุรกิจสื่อในเครือ “ผู้จัดการ-เอเอสทีวี” อย่างหนัก
การสู้กับรัฐอธรรมเครือข่าย “ทักษิณ” หลายระลอก นอกจากชาว พธม.ได้ร่วมกันบริจาคทรัพย์แล้ว ทาง “สนธิลิ้ม-จารย์ปุ๊” ยังได้นำเงินทองทรัพย์สินที่หามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรง ออกขายชิ้นแล้วชิ้นเล่า เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการต่อสู้ชนิด “เจ๊งเป็นเจ๊ง-ตายเป็นตาย” อีกด้วย
การต่อสู้แบบบ้าระห่ำ “กินตัวเอง” เช่นนี้ ทำได้อย่างราบรื่นเพราะ “สนธิลิ้ม”โชคดี ด้วย “จารย์ปุ๊” รักชาติและกล้าหาญไม่ต่างไปจาก “สนธิลิ้ม” ดังนั้น “จารย์ปุ๊-ผู้ภรรยา” จึงเข้าใจ “สนธิลิ้ม-ผู้สามี” อย่างถ่องแท้! ทำให้ “จารย์ปุ๊” สนับสนุน “สนธิลิ้ม” อย่างสุดจิตสุดใจ จน “สนธิลิ้ม-แกนนำทุกคน-ชาว พธม.” ขับไล่รัฐบาลอธรรม “ทักษิณ” และเครือข่ายล้มครืนลงได้ถึง 3 รัฐบาล
ฉะนั้น บนการต่อสู้ที่แลกด้วยชีวิตและเลือดเนื้อ เพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ของ “สนธิลิ้ม-แกนนำทุกคน” และชาว พธม.ที่ผ่านมา จึงมี “พลังขับเคลื่อน” ที่กล้าหาญและสำคัญยิ่งของ “จารย์ปุ๊” อยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด
วันหนึ่ง “ชาว พธม.” ต้องตกใจและร่ำไห้ เมื่อ “สนธิลิ้ม” ถูก “มือมืดรุมสังหาร” ด้วยอาวุธสงครามกว่า 200 นัด! วันนั้น “จารย์ปุ๊-ผู้ภรรยา” ตกใจมากกว่าใครใช่ไหม? เลือดและความเจ็บปวดของ “สามี-สนธิลิ้ม” ในวันนั้น “จารย์ปุ๊” ต้องหลั่งน้ำตามากมายขนาดไหน? วันนั้น “จารย์ปุ๊” ต้องเจ็บปวดรวดร้าวใจมหาศาลปานใด...?
ด้วย “จารย์ปุ๊” และชาว พธม.รู้อยู่แก่ใจว่า “สนธิลิ้ม” เสียสละสู้เพื่อชาติมาตลอด แต่ “สนธิลิ้ม” กลับได้รับผลตอบแทน โดยถูก “ผู้มีอำนาจบางกลุ่ม” ล่าสังหารจน-เกือบตาย...!
ทุกวันนี้ “สนธิลิ้ม” ยังทุ่มเทชีวิต โดยเฉพาะสื่อในเครือ “ผู้จัดการ” ที่ “ลิ้มทองกุล” ก่อตั้ง ซึ่งอยู่ในสภาพ “ชักหน้าไม่ถึงหลัง” ยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงในการต่อสู้ ปกป้องชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ และพิทักษ์ผลประโยชน์ของประชาชนมาจนทุกวันนี้
ท่ามกลางขบวนการ “โกงชาติ-ล้มเจ้า” ที่ยังคงเคลื่อนไหวทั้งลับและเปิดเผย โดยรัฐบาล “บิ๊กตู่” กำลังใช้กฎหมายแก้ปัญหากลุ่มคนชั่วที่โกงการเลือกตั้ง เข้ายึดและใช้อำนาจรัฐคอร์รัปชันชาติ พร้อมกับใช้กฎหมายป้องกันมิให้กลุ่มคนชั่วกลับมายุ่งเกี่ยวกับการเมืองของชาติไทย รวมทั้งวางกลไกมิให้รัฐบาลในอนาคต ใช้อำนาจรัฐคอร์รัปชันชาติไทยอีกด้วย
การใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมาของรัฐบาล “บิ๊กตู่” ต่อทุกฝ่ายในขณะนี้ จะทำให้คนดีได้ขึ้นปกครองชาติไทยหรือไม่นั้น ต้องพิสูจน์กันในอนาคตอันใกล้นี้แหละภารกิจสู้เพื่อชาติที่แลกด้วยชีวิต ทั้งของชาว พธม.และชาว กปปส.ได้เป็น “บันได” ให้รัฐบาล “บิ๊กตู่” ขึ้นสู่อำนาจมาจนทุกวันนี้ ส่วนจะ “ต่อยอดภารกิจเพื่อชาติ” สำเร็จหรือไม่นั้น ยังไม่มีความแน่นอนให้เห็นแบบเต็มร้อย
วันที่ 6 ก.ย. 59 ขณะที่ “จารย์ปุ๊” กำลังป่วยหนักด้วยโรคมะเร็งขั้นสุดท้าย “สนธิลิ้ม” ได้ย้ายจาก “บ้านพระอาทิตย์” เข้าไปอยู่ใน “หมู่บ้านคลองเปรม” เพื่อให้ทุกฝ่ายได้เห็นว่า ชาติไทยมีแค่มาตรฐานเดียวเท่านั้น นั่นคือ กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย คำตัดสินของศาลต้องศักดิ์สิทธิ์...!
ท่ามกลางเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดกับ “ครอบครัวลิ้มทองกุล” ผมไม่เคยได้ยิน “จารย์ปุ๊” บ่นน้อยใจ และโทษโชคชะตาใดๆ ทั้งสิ้น...
“ภารกิจติดคุก” ของ “นักรบ-สนธิลิ้ม” เพิ่งเริ่มต้น! สักวัน “สนธิลิ้ม” ต้องกลับคืนสู่อิสรภาพอีกครั้ง แต่...3 ตุลาคม 2559 เวลา 05.30 น. “จารย์ปุ๊” กลับลาจาก “สนธิลิ้ม” ชั่วนิรันดร์ไปอย่างสงบเสียแล้ว
โดย “สนธิลิ้ม” ไม่มีโอกาสได้กล่าวคำอำลา “จารย์ปุ๊-ผู้ภรรยา!” ไม่มีโอกาสแม้แต่จะรดน้ำร่างไร้วิญญาณของ “จารย์ปุ๊-ผู้ภรรยา!” ไม่มีโอกาสแม้แต่จะเผาศพ “จารย์ปุ๊-ผู้ภรรยา” ฯลฯ
“จารย์ปุ๊” เหลือไว้ก็เพียงแค่ “เถ้ากระดูก” รอคอยการกลับมาของ “สนธิลิ้ม” เท่านั้น!
วันนี้ “จิตตนาถ ลิ้มทองกุล” ลูกชายคนเดียว ต้องเดินหน้านำสื่อในเครือ“ผู้จัดการ” ดิ้นรนต่อสู้เพื่อสืบทอดอุดมการณ์สู้เพื่อชาติ ของ “จารย์ปุ๊-สนธิลิ้ม” และ“ชาว พธม.” ต่อไป
นี่คือ หนึ่งในชีวิต “แกนนำ-นักรบ พธม.” ซึ่งเป็น “บันไดขั้นแรก” ของการต่อสู้ กับรัฐบาลอธรรมทักษิณและเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง โดย “อัศวินเขียวหลายคน” ได้ใช้ “บันได” นี้ ก้าวขึ้นยึดอำนาจรัฐเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตชาติอยู่ในวันนี้...
ขอคารวะและรำลึกพระคุณอย่างสูงต่อดวงวิญญาณ “อาจารย์จันทน์ทิพย์ ลิ้มทองกุล” ผู้เสียสละเพื่อชาติและประชาชน ด้วยความอาลัยยิ่ง...