xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” เผยอยากเห็น “ทักษิณ” กลับมาติดคุกบ้าง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ASTVผู้จัดการ - “สนธิ ลิ้มทองกุล” ออกจากเรือนจำกลางคลองเปรม หลังศาลฎีกาอนุญาตให้ประกันตัว ให้สัมภาษณ์สื่อชีวิต 19 วันในเรือนจำได้เรียนรู้ชีวิตคนเยอะมาก เผย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุก 2 ปีตั้งแต่ปี 51 น่าจะกลับมาติดคุกบ้าง



วานนี้ (25 ส.ค.) หลังจากช่วงเย็นศาลฎีกาอนุญาตให้ประกันตัว นายสนธิ ลิ้มทองกุล พร้อมกับพวกอีก 2 คน โดยให้ใช้หลักทรัพย์เพิ่มขึ้นจากเดิม 10 ล้านเป็นคนละ 12 ล้านบาท หลังจากที่นายสนธิและพวกถูกตัดสินจำคุกตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยศาลอาญา รัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง โดยตัดสินให้มีความผิดรวม 17 กระทง ลงโทษ กระทงละ 5 ปี รวม 85 ปี แต่ให้รับโทษสูงสุด 20 ปี

ต่อมาเมื่อเวลา 18.30 น. กลุ่มญาติของนายสนธิ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ รวมถึงพนักงานในสื่อเครือเอเอสทีวี เดินทางมาถึงบริเวณหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม บางเขน โดยบรรยากาศบริเวณหน้าเรือนจำมีญาติสนิทของนายสนธิทยอยเดินทางมารอรับอย่างใจจดใจจ่อ

หลังจากเจ้าหน้าที่ได้นำหมายศาลมายังเรือนจำคลองเปรม เพื่อดำเนินการปล่อยตัว ต่อมาเมื่อเวลา 22.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ทำการปล่อยตัวนายสนธิ ลิ้มทองกุล ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นของญาติและบรรดาคนสนิท โดยนายสนธิอยู่ในชุดเสื้อโปโลสีขาว กางเกงผ้าร่มสีดำ เมื่อก้าวเท้าออกมาจากเรือนจำ ได้มีบรรดาแฟนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกล่าวร้องแสดงความยินดีที่ได้กลับบ้าน ซึ่งนายสนธิได้โผกอดญาติสนิทที่เดินทางมารับตัวอย่างอบอุ่น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง นายสนธิกล่าวว่า คุณมาถามได้ยังไงความรู้สึก คุณตลกหรือเปล่า ความรู้สึกก็ต้องดีใจสิที่ได้กลับบ้าน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ทิศทางของเอเอสทีวีจะเป็นอย่างไรเมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อนุญาตให้ออกอากาศได้ตามปกติ นายสนธิกล่าวต่อว่า ไม่ทราบต้องถามคนที่ทำเอเอสทีวี และคงไม่มีแผนอะไร ข้อชี้แจ้งสั้นๆ และจะไม่พูดอีกแล้ว ตนมีความสุขดีอยู่ในเรือนจำ ตนแค่เปลี่ยนที่นอนเฉยๆ เจ้าหน้าที่ในเรือนจำทกคนดูแลตนเป็นอย่างดี ทุกคนห่วงอยู่อย่างเดียวว่าจะมีการว่าจ้างใครมาทำร้ายตนหรือเปล่า ขณะอยู่ในเรือนจำเมื่อลงมาจากตึกก็จะมีคนมานั่งคุยด้วย เพราะเกรงว่าจะมีคนวางงานให้คนมาทำร้ายตน เนื่องจากบุคคลที่อยู่ข้างในก็ร้อยพ่อพันแม่

นายสนธิกล่าวต่อว่า การเข้าไปครั้งนี้ตนได้เห็นข้อเท็จจริงหลายอย่าง จากที่อยู่ 19 วัน ได้เรียนรู้ชีวิตคนเยอะมาก เรียนรู้ว่าปัญหาไม่ใช่แก้ที่คุก ต้องแก้ที่ต้นน้ำอย่างรัฐบาล อย่างตำรวจ ถ้าไม่กระทำแบบเหวี่ยงแห่ ผู้ต้องหาก็จะไม่เยอะขณะนี้ ทนายความบางคนได้รับค่าจ้างแค่พันบาท ให้มาว่าความ ก็สั่งให้ลูกความรับสารภาพไปเพื่อที่คดีจะได้จบแล้วก็ได้เงินไป โดยที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย เพราะงั้นแล้วความยุติธรรมชั้นต้นยังไม่มี สิ่งที่ที่ได้รู้ต่อมาคือ คุกเหมือนขณะที่เมื่อ คนสร้างปัญหาขึ้นมา ตำรวจสร้างปัญหาขึ้นมา รัฐบาลสร้างปัญหาขึ้นมา ก็จะจับคนมาไว้ในคุก แล้วบอกให้สร้างคุกเพิ่ม ผู้ต้องหา 290,000 คน เจ้าหน้าที่ 10,000 กว่าคน ทำงานทุกอย่าง เงินเดือนต่ำ เบี้ยเลี้ยงน้อยชีวิตส่วนตัวไม่มีเลยต่อเข้าเวรตลอดเวลา ตนคุยทุกเรื่องจนรู้ว่าการเป็นเจ้าหน้าที่ในกรมราชทัณฑ์คือการตกนรก ในชีวิตเหมือนตน ต่างที่ตอน 3 โมงครึ่งตนขึ้นตึก แต่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ยังเดินไปไหนมาได้ได้ เพราะงั้นตนอยากให้รู้ว่ากรมราชทัณฑ์ เป็นหน่วยงานที่ถูกละเลยมาก เมื่อเทียบกับที่อื่น ซึ่งตนคุยกับผู้คุมขังคนอื่นพบว่าโดนคดีใหญ่ๆ ทั้งสิ้น ผู้คุมขังจึงถามตนว่าโดนคดีอะไร ตนตอบว่าโดนคดีเอาอีกบริษัทมาค้ำให้อีกบริษัท เขาก็บอกว่าคดีมันเล็กน้อยมากพี่เข้ามาได้อย่างไร เมื่อให้สัมภาษณ์จบนายสนธิได้ขึ้นรถยนต์ส่วนตัวที่มาจอดรอรับออกไปทันที่ท่ามกลางความยินดีของผู้ที่มารอรับ

ระหว่างเดินทางกลับที่พัก นายสนธิได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเอเอสทีวีผู้จัดการเพิ่มเติมว่า หลังจากใช้ชีวิตในคุก 19 วัน ตนอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและนักโทษผู้หลบหนีคำพิพากษาจำคุกจากศาลฎีกาเป็นเวลา 2 ปี ตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งบอกมาตลอดว่าอยากกลับมาประเทศไทย เดินทางกลับมาประเทศไทยเพื่อติดคุกบ้าง

ชมคลิปจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ก้มลงกราบพ่อ เมื่อนายสนธิเดินทางกลับถึงบ้าน









กำลังโหลดความคิดเห็น