xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อความสับสนระหว่าง Information Systems และ Information Technology เป็นเหตุ

เผยแพร่:   โดย: ผศ.ดร.นิธินันท์ ธรรมากรนนท์

แฟ้มภาพ
ผศ.ดร.นิธินันท์ ธรรมากรนนท์
สาขาการจัดการระบบสารสนเทศ
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์


โดยทั่วไปคนจะได้ยินและรู้จักเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) จนเรียกกันติดปากว่าไอที (IT) ทำงานไอที เรียนไอที อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์คือไอที

อีกหลายคนก็เข้าใจผิดว่าระบบสารสนเทศ (Information Systems) หรือ IS คือ ระบบสารสนเทศทางการจัดการ MIS (Management Information Systems) ทั้งที่ระบบสารสนเทศจะมีหลายประเภท เช่น ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (Geographical Information System) ระบบสารสนเทศทางบัญชี หรือ Accounting Information Systems (AIS) ระบบสารสนเทศธุรกรรมหรือ Transaction Processing Systems (TPS) และแม้แต่ระบบสนับสนุนการตัดสินใจหรือ Decision Support Systems (DSS)

ส่วน MIS เป็นเพียงแค่หนึ่งประเภทของระบบสารสนเทศที่ใช้กับกระบวนการในธุรกิจเท่านั้น ซึ่งทำให้เกิดความสับสนและการทำงานที่ไม่ครอบคลุมจนเป็นปัญหาที่แปลกในสังคมไทย นั่นคือมีบุคลากรทางไอทีบางส่วนตกงาน และบุคลากรทางไอทีบางส่วนขาดแคลน ถ้าเราเข้าใจความแตกต่างระหว่าง IS และ IT ให้ถูกต้อง อาจจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้

ถ้าเข้าไปอ่านในบทความจากหลายเว็บไซต์และจากคำอธิบายหลักสูตรของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในต่างประเทศจะพบการระบุว่า “Information Technology is a subset of Information Systems.” แต่คนทั่วไปจะไม่เห็นความแตกต่างระหว่าง IT กับ IS เพราะเราจะเห็นว่ามีการใช้คำว่า IT แทนคำว่า IS เสมอ เพราะคนส่วนมากมีสมมติฐานว่าระบบสารสนเทศเป็นระบบที่มีคอมพิวเตอร์เป็นพื้นฐาน

แท้จริงแล้ว ระบบสารสนเทศ หรือ IS จะครอบคลุมทุกอย่างที่เกี่ยวกับระบบ (Systems) คน (people) และกระบวนการ (processes) ที่ออกแบบขึ้นมาเพื่อสร้าง เก็บ ใช้งาน แจกจ่าย และนำเสนอสารสนเทศ ดังนั้นระบบสารสนเทศจึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นสะพานเชื่อมระหว่างธุรกิจและวิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Sciences)

ระบบสารสนเทศอาจสามารถใช้เพียงแค่กระดาษกับดินสอหรือปากกา ร่วมกับสิ่งของหรืออะไรก็ตามที่สนใจเกิดเป็นระบบสำหรับรวบรวมและจัดเก็บสารสนเทศที่ไม่พึ่งพิงคอมพิวเตอร์หรือไม่พึ่งพิงเครื่องมือทางเทคนิคใด ๆ ก็เป็นได้ นั่นหมายถึงระบบสารสนเทศ หรือ IS เป็นระบบที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี หรือเครื่องมือทางเทคนิค หรือเป็นระบบที่ไม่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี หรือเครื่องมือทางเทคนิคเลยก็ได้

ในขณะที่เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ IT จะเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับระบบซึ่งนิยามได้ว่าเป็นการศึกษา ออกแบบ ติดตั้ง สนับสนุน และจัดการระบบสารสนเทศที่พึ่งพิงคอมพิวเตอร์เท่านั้น ดังนั้นเทคโนโลยีสารสนเทศจะรวมถึงฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ ฐานข้อมูล และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ยังรวมถึงการจัดหา ดำเนินการ จัดเก็บและนำเสนอข้อมูลและสารสนเทศที่จัดเก็บในรูปดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศจะเน้นเรื่องการจัดการเทคโนโลยีและพัฒนาการนำเทคโนโลยีไปใช้กับธุรกิจ

โดยสรุป เทคโนโลยีสารสนเทศจะเกี่ยวข้องกับระบบที่ใช้คอมพิวเตอร์ เท่านั้น แต่ในสภาพความเป็นจริง ข้อมูลและสารสนเทศอาจจะไม่อยู่ในรูปของดิจิตัล หรือไม่สามารถจัดเก็บในรูปดิจิตัลและรวบรวมไว้ในฐานข้อมูลที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือก็ได้ ระบบและกระบวนการก็อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือที่เป็นเทคนิคทั้งหลายเข้ามาช่วยดำเนินการ ซึ่งระบบ กระบวนการ ข้อมูลและสารสนเทศที่สามารถเก็บในรูปแบบดิจิตัลมีไม่ถึงครึ่งของข้อมูลและสารสนเทศที่มีทั้งหมด

ดังนั้นการที่มีแต่เทคโนโลยีสารสนเทศจึงทำให้ไม่ตอบสนองระบบ คน และกระบวนการที่เกี่ยวกับสิ่งของต่าง ๆ หรือ ธุรกิจทั้งหมดได้ และโดยธรรมชาติคอมพิวเตอร์ไม่สามารถจะสนับสนุนหรือดำเนินการใดๆ แทนคนได้ทั้งหมด การสนใจหรือให้ความสำคัญกับคอมพิวเตอร์หรือระบบงานที่พึ่งพิงคอมพิวเตอร์จึงไม่เพียงพอกับการบริหารธุรกิจและการพัฒนาทางสังคม ซึ่งสะท้อนกับสิ่งที่นักวิชาการระบุข้างต้นว่า เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นส่วนหนึ่งของระบบสารสนเทศ

การที่คนส่วนมากสนใจแต่เทคโนโลยีสารสนเทศและไม่ให้ความสนใจกับระบบสารสนเทศที่ตอบสนองความต้องการทางธุรกิจและสังคมจึงเป็นสาเหตุของปัญหาการขาดแคลนคนทางระบบสารสนเทศและปัญหาการตกงานของคนทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเน้นไปที่คอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือทางเทคนิค ทำให้มองข้ามความสามารถในการทำความเข้าใจธรรมชาติต่างๆ ของระบบสารสนเทศ ที่คอมพิวเตอร์ไม่สามารถตอบสนองได้ ความสามารถในการปฏิสัมพันธ์ จินตนาการ การคิดนอกกรอบที่ไม่เป็นโครงสร้างหรือไม่เป็นกระบวนการที่แน่นอนขาดหายไปเพราะระบบคอมพิวเตอร์ไม่สามารถพัฒนากระบวนการหรือขั้นตอนที่ไม่เป็นโครงสร้างหรือไม่เป็นขั้นตอนได้ จึงไม่แปลกใจที่องค์ความรู้ต่างๆ ที่ไม่อยู่ภายใต้ระบบคอมพิวเตอร์หรือเทคโนโลยีสารสนเทศก็จะขาดหายไปจากสังคมเช่นกัน

เพื่อตอบสนองการทำธุรกิจและเพื่อให้เกิดความคุ้มค่า และเพิ่มมูลค่าให้กับข้อมูล จึงต้องให้ความสำคัญกับการทำงานที่สอดคล้องร่วมกันระหว่างคน ระบบที่พึ่งพิงคอมพิวเตอร์และไม่พึ่งพิงคอมพิวเตอร์ รวมทั้งต้องไม่ละเลยข้อมูลที่ไม่ได้อยู่ในรูปดิจิตัล เพื่อลดการสูญเสียสารสนเทศและองค์ความรู้ที่มีประโยชน์กับธุรกิจและสังคม
กำลังโหลดความคิดเห็น