xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” แย้มจะอยู่บริหารประเทศด้วยกลไก ปชต.อย่างสง่างาม ยันไม่คิดรังแก้ใคร แต่คนทำผิดมันอยู่ข้างเดียวกันหมด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” ยันดูแลคนทั้งประเทศ ไม่จัดงบฯให้เฉพาะพื้นที่ผ่านประชามติ ขณะเดียวกันไม่เคยคิดรังแกใคร แต่คนทำผิดอยู่ข้างเดียวกันหมด ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่จะมากล่าวหาว่าถูกรังแก ส่งสัญญาณจะอยู่ทำงานต่อด้วยกลไกประชาธิปไตยอย่างสง่างาม ฉุนถูกกล่าวหารีดภาษีชาวบ้าน ชี้แค่จัดระเบียบ จัดการพวกหนีภาษี เดือดเจออาจารย์พูดไม่สร้างสรรค์ กล่าวหาไม่ทำเรื่องใหญ่มัวแต่สั่งให้กำจัดผักตบชวา แถมยังประชดวันหน้าให้เอาผักตบมาผัดกินแทนผักบุ้งก็ให้เตี่ยมันไปทำก็แล้วกัน บอกอย่ามายุให้ทะเลาะกับพี่ใหญ่ ปมแต่งตั้ง ผบ.ทบ. ชี้นั่งตำแหน่งไหนศักดิ์ศรีเท่ากัน

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานประธานในพิธีมอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ครั้งที่ 3 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอแสดงความยินดีแก่ทุกคนที่ได้รับรางวัล ที่ผ่านมาการบริหารจัดการองค์กรอาจมีปัญหาบ้างก็มีการปรับแก้โดยเฉพาะในเรื่องของการบูรณาการการใช้จ่ายของรัฐให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดทั้งรัฐบาล หน่วยงานที่จัดสรรงบประมาณ ผู้ใช้จ่ายงบประมาณ หน่วยตรวจสอบทั้งหมดตนถือว่าเป็นเครื่องจักรสำคัญของประเทศ กระทรวงการคลังก็ต้องเป็นหลัก เราต้องเดินหน้าประเทศไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม มีประสิทธิภาพ และไม่ต้องการให้ผลงานปรากฏเป็นแท่งเพราะถือเป็นงานตามฟังก์ชันปกติในหน้าที่ แต่ทั้งหมดต้องจัดเป็นกลุ่มงาน เป็นกิจกรรม เพราะทุกรัฐบาลต้องมีการใช้จ่ายงบประมาณที่เหมาะสม ทั้งงบประมาณตามฟังก์ชันและงบประมาณตามนโยบาย ภายใต้การปฏิรูปประเทศหรือการทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อเดินหน้าให้ได้ ดังนั้นการใช้จ่ายงบประมาณต้องมีความสอดคล้องตั้งแต่วันนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราต้องมองว่าอนาคตเราจะอยู่กันอย่างไร ถ้าเรามองแต่ประชาธิปไตยตามที่มีการเรียกร้องอยู่ทุกวันนี้ มันจะไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลย เพราะทุกอย่างต้องการความเป็นอิสระทั้งหมด อย่าลืมว่าระบบราชการจะให้มีความเป็นอิสระทั้งหมดไม่ได้ เพราะต้องทำงานภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ รัฐบาลนี้วางรากฐานในการพัฒนาประเทศภายใต้หลักการมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ทุกคนจะต้องมีส่วนร่วมทั้งตน ประชาชน ข้าราชการทุกหน่วยงาน องค์กรอิสระ องค์กรมหาชน เอ็นจีโอ ประชาสังคม ไม่เช่นนั้นการทำงานก็จะเป็นชิ้นๆ ทำงานตามหน้าที่ แล้วก็จะเกิดการคัดค้านไปไหนไม่ได้ การพัฒนาก็เกิดขึ้นไม่ได้ เราต้องเร่งสร้างความเข้าใจ และขอร้องหน่วยงานที่ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐว่าทำงานของท่านตามอิสระได้ แต่อย่าทำให้ประเทศถอยหลัง ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลงบ้างโดยคงความสมดุลให้ได้ระหว่างสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การเดินนโยบายเศรษฐกิจโดยรวมจะต้องทำให้เกิดเสถียรภาพและเติบโตอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง บูรณาการให้สอดคล้องทางด้านการเงินและการคลังโดยมี รมว.คลัง กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเป็นเครื่องจักร เป็นเฟืองใหญ่สำคัญในเครื่องยนต์ของรัฐบาล เริ่มจากกระทรวง และท้องถิ่น ที่จะต้องมีการจัดระบบกลไกการตรวจสอบไม่ให้เกิดการใช้จ่ายที่สูญเปล่า ซ้ำซ้อน หรือไม่เกิดประสิทธิภาพ

“ต้องไม่ใช่การจัดสรรงบประมาณลงไปเฉพาะพื้นที่ เราต้องดูแลคนทั้ง 70 ล้านคน ต้องคิดอย่างที่ผมคิด แม้จะไม่ง่ายนักแต่ก็ไม่ยากถ้าเราจะช่วยกัน ผมทำงานคนเดียวไม่ได้ การดูแลคนทั้ง 70 ล้านคนไม่ใช่ดูตามคะแนนเสียง ใครรักผมและผมจะให้ง่ายๆ ใครผ่านประชามติแล้วผมจะทำให้ มันไม่ใช่ ยิ่งไม่ผ่านผมก็ยิ่งต้องให้ เกลียดผม ผมก็ต้องทำ ขอเพียงอย่าเกลียดประเทศของตัวเอง”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การสร้างความเข้มแข็งด้านการเงินการคลังนั้น ที่ผ่านมามีทั้งการให้รางวัล การตรวจสอบ ประเมินผลและการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตนไม่ต้องการให้ข้าราชการต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมมากนัก ทุกคนจึงต้องเร่งสร้างความเข้มแข็งให้แก่ตัวเอง ต้องสร้างภูมิคุ้มกัน รัฐบาลมีหน้าที่กำหนดนโยบาย หาวิธีการทำงบประมาณ ทำกฎหมายใหม่ และทั้งหมดขึ้นอยู่กับทุกคน ถ้าเรามีจิตมุ่งมั่นก็จะสามารถทำให้องค์กรมีความโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม ทั้งข้าราชการระดับผู้ใหญ่ ระดับล่าง ต้องถือว่าองค์กรเป็นของทุกคน วันนี้สิ่งที่ยังช้าอยู่มากสำหรับประเทศไทยคือการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การทำงานจะต้องถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ประสิทธิภาพการเงินการคลังในภาพรวมของระบบราชการต้องมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

“ปัญหาที่ผ่านมาอยู่ที่การปฏิบัติ ผมไม่ได้โทษว่าใครบกพร่อง วันนี้ทุกคนต้องต่อเนื่องเชื่อมโยงการทำงานให้ได้ตั้งแต่ระดับบนและมาข้างล่าง ร่วมทุกข์ร่วมสุขในพัฒนาองค์กร และประชาชนทั้งประเทศ ที่สำคัญจะต้องมีการพัฒนาตัวเอง ความจริงทุกคนควรได้รับรางวัล เรื่องความรับผิดทางละเมิด ด้านการตรวจสอบภายในต้องผ่านทั้งหมด ไม่ใช่มีคดีความเต็มไปหมดบางองค์กร และไปๆ มาๆ ก็กลับมาด่าผมว่ารังแกคน รังแกฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ ถามว่าใครมันทำ และทำสมัยไหน ผมก็ต้องมาแก้ทุกเรื่อง ขอให้เข้าใจด้วยว่าผมไม่ได้รังแกใครทั้งสิ้น ก็คนทำผิดมันอยู่ข้างเดียวกันตลอด แล้วจะมาบอกว่าผมรังแกได้อย่างไร กฎหมายเลือกไม่ได้ ใครที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วก็ต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ใครไม่ยอมออกมาต่อสู้ก็มากล่าวหาว่าผมไปรังแกเขา แล้วทำไมไม่เข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมก่อน ไปไหนก็กลับมา ผมไม่ได้ว่าใครนะ”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้การบริหารจัดการภายในถือว่าดีขึ้น แม้ปีแรกอาจสับสนไปบ้าง เพราะตนเข้ามาบริหารประเทศแบบนี้จึงไม่คุ้นกับการทำงาน ถึงวันนี้คุ้นแล้วหรือจำเป็นก็หาทราบได้ ก็ขอให้ทนกับตนไปสักระยะแล้วกัน ขอให้ทุกคนช่วยกันทำสิ่งใหม่ๆ สิ่งเก่าๆ ก็ต้องแก้ไข โดยมองประเทศให้เป็นจุดมุ่งหมายสำคัญ คนที่เป็นข้าราชการก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในฐานะที่เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เงินเดือนน้อยก็จะทำอย่างไรได้เพราะเลือกมาแล้ว ตนก็ได้แค่ตามสิทธิ เริ่มแรกการทำงานได้เงินเดือน 1,950 บาท อยู่มาถึงวันนี้ได้เงินเดือนนายกรัฐมนตรี 75,000 บาท ตามกฎหมาย

“แต่ต่อให้งานหนักกว่านี้ไม่ได้เงินเดือน ผมก็จะอยู่ แต่อยู่ด้วยกลไกประชาธิปไตย ให้สง่างาม แต่จะมาอย่างไรก็ยังไม่รู้เหมือนกัน พอพูดอย่างนี้เดี๋ยวสื่อก็จะไปบอกแล้วว่าเปิดตัว ไม่รู้จะเปิดอะไรกันนักหนา เปิดตัว ปัด ฟุ้ง วันนี้เก็บภาษีเกินเป้าหมายในช่วง 10 เดือน แทนที่จะชมก็บอกว่าเราโว ฟุ้ง อะไรของมันวะ ไอ้คนทำงานแทบตายควรจะชมบ้างเรื่องประสิทธิภาพการเก็บภาษี ไม่ใช่เป็นเพราะว่าเรารีดภาษี สื่อเขียนอย่างนี้อย่าไปเขียนดีกว่า ยืนยันเจ้าหน้าที่เก็บตามกฎหมาย เป็นการพัฒนาระบบการเก็บภาษีซึ่งต้องเริ่มพัฒนา เก็บคนรวยก็ชอบ แต่พอเก็บคนหนีภาษีไม่ชอบ ต้องให้ความเป็นธรรมกันด้วย คนจนไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว ไอ้พวกหนีภาษีนั่นแหละต้องเข้ามา รวมทั้งพวกที่จ่ายภษีไม่ตรง อย่าไปเปิดโอกาสให้เขาทุจริต ผมประกาศไปแล้วว่าในปี 2559 บริษัทใดเสียภาษีไม่ครบ ผมจะสั่งให้ย้อนเก็บภาษีไป 5 ปี ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก ผมสงสารประเทศ ทำงานแทบตายไม่มีเงิน เพราะรายได้ประเทศ ไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย เพราะรัฐบาลมีรายได้มาจากการจัดระบบการเก็บภาษี ไม่ใช่รีดภาษี ทำให้ระบบภาษีให้เป็นธรรม เพื่อเป็นการสนับสนุนให้กับประชาชนที่มีรายได้น้อย เราก็อยากจะช่วยเขา แต่จะเอาเงินที่ไหนไปช่วยเขา”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ให้อะไรไม่ได้เลย เพราะทุกคนเอาหมด เกษตรกรกี่กลุ่ม ไปลงพื้นที่มาขอราคาข้าวมากขึ้น ก็มันขายได้เท่านี้ กลไกตลาดมันเป็นอย่างนี้ เราสู้เต็มที่แล้ว แต่ต้องมาคิดว่า ถ้าไม่ได้กำไร แล้วจะไปปลูกอะไรแทน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ปลูกข้าวไม่ได้ อีกหน่อยก็ไม่มีกิน เราต้องพัฒนาทั้งระบบ ไม่ใช่ใครมาลงทุนแล้วไปไล่เขา ต้องไปตรวจสอบนอมีนีผิดกฎหมาย การเอื้อประโยชน์ให้ถูกต้อง หากตัวเองไม่พัฒนาตัวเอง แล้วไปจำกัดคนอื่นเขา ประเทศก็ไม่มีรายได้ แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาพัฒนาประเทศ ที่ตนพูดวันนี้ ต้องการสื่อไปถึงคนอื่นให้เข้าใจ รัฐบาลไม่มีวัตถุประสงค์ไปเร่งรัดหรือรีดภาษีกับใคร ทำให้ถูกต้อง รัฐบาลทำให้แต่ไม่สนใจกัน เพราะไม่ใช่เรื่องตัวเอง ซึ่งทั้งหมดเราต้องสร้างให้องคาพยพของประเทศ ที่ประกอบด้วยแผนดิน และประชาชนที่มีคุณภาพ

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การพัฒนาพื้นที่ก็ค้านไปทุกเรื่อง พอน้ำท่วม ฝนแล้ง ก็โวยวาย รัฐบาลทำระบบส่งน้ำก็ไม่ได้ บอกทำลายทรัพยากรธรรมชาติ มันมีช่องทาง วิธีการที่ไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ เห็นหลายคนไปให้ข่าวให้กับสื่อว่า หน้าที่มนุษยชนและหน้าที่รักษาทรัพยากรธรรมชาติ เป็นพันธสัญญาโลก แล้วประเทศไทยเป็นอะไรกับเขา คนเหล่านนี้เกิดในประเทศไทยไหม ต้องมีส่วนร่วมในการดูแลคนไทยอื่นๆด้วยหรือไม่ ขอให้คิดแบบนี้ อย่าคิดทำงานแต่ของตัวเอง ไม่ใช่เอาเงินจากต่างประเทศมาทำงาน แล้วก็ต้องตอบแทนเขา แล้วแผ่นดินนี้ล่ะ ตนก็ไม่อยากทะเลาะด้วย รำคาญ ขวางมันทุกเรื่อง เวลาเสียหายไม่เห็นมีใครออกมา ที่ผ่านมาไปอยู่ไหนมา 2 ปีที่แล้วไปอยู่ไหนมา ไอ้หน่วยงานพวกนี้

“จะดาวแดงดาวดินดาวบ้าบอคอแตกอะไรอยู่ไหน วันนี้พยายามทำ มันก็ออกมาค้านอยู่นั่นแหละ ประชาธิปไตยสำคัญที่สุดในโลกอยู่แล้วแหละ เพราะเราเป็นโลกประชาธิปไตย จะไปเป็นอย่างอื่นไหมล่ะ ก็เป็นไม่ได้อีก แต่ช่วงนี้เป็นช่วงที่กำลังปรับเข้าสู่การเป็นประชาธิปไตย ก็ยังต่อต้านกันเยอะแยะไปหมด แต่ถ้าถามว่าแต่ก่อนเป็นอย่างไร ก็บอกว่าดี คดีความที่ออกมาเดี๋ยวจะทำให้ ถ้าผิดก็ต้องดำเนินการ"

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องจำนำข้าวตั้งคณะกรรมการสอบสวนไปก็ต้องสอบไปตามนั้น ตนบอกว่าคณะทำงานนี้มีหน้าที่หาหลักฐานต่างๆ แต่เรื่องกระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องของศาล คณะกรรมการต้องทำให้เร็วให้ทันตามห้วงเวลาของกฎหมาย พอเขาเขียนสรุปมา สื่อก็เอาไปตี นายกฯ สั่งว่าให้เร่งดำเนินการตรวจสอบโดยไม่สนใจกระบวนการยุติธรรม

“ผมจะพูดแบบนี้ได้ไหม ผมเป็นคนเอาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แล้วจะไม่สนใจกฎหมายได้อย่างไร เพราะหน้าที่ในการตัดสินไม่ใช่คณะกรรมการ เขามีหน้าที่แค่รวบรวมความเสียหายแล้วส่งให้ศาลพิจารณา ความหมายของผมคืออย่างนั้น แค่นี้ก็มีคนเอาไปบิดเบือน เพราะคณะกรรมการเขียนคำสรุปมาให้สั้นลง ซึ่งไม่มีความอธิบาย ก็มีคนฉวยโอกาสทุกเรื่องไป”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อยากฝากทุกคนสร้างความเข้าใจ ให้เกิดการยอมรับ ความเชื่อถือ และสร้างศรัทธาของประชาชนต่อพวกเราให้ได้ ไม่ต้องมาสร้างให้กับตน สำหรับตนช่างเถอะ เพราะตนเข้ามา จะดีไม่ดีอย่างไรก็เข้ามาแล้ว ไม่มีใครเขาเชิญตนเข้ามาสักหน่อย แต่เข้ามาแล้วเชิญตนออกตอนนี้ก็ไม่ออก เพราะไม่ได้เชิญตนเข้ามา จะออกตามเวลาที่มีอยู่แล้วไปว่ากันใหม่ ตนต้องการความร่วมมือ ไม่ได้ต้องการการต่อต้าน เมื่อเช้าพยายามไม่โมโห เพราะมีอาจารย์มหาวิทยาลัยมาบอกว่านายกฯ มายุ่งอะไรกับผักตบ ไม่เห็นพัฒนาเรื่องอะไรเลย

“เขาบอกว่าเป็นนายกฯ ที่ไปใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ วันหน้าก็เอาผักตบมาผัดกินแทนผักบุ้งสิ ให้เตี่ยมันไปทำก็แล้วกัน พูดแบบนี้ไม่สร้างสรรค์ แก่จะตายอยู่แล้ว พูดแบบนี้มาจะ 20 ปีอยู่แล้ว ตั้งแต่ตนเด็กๆ มันก็พูดแบบนี้ ปากก็เป็นแบบนี้ แล้วอาจารย์แบบนี้จะสร้างประเทศได้อย่างไร เอาคนออกนอกกรอบ คิดนอกกรอบหมดก็ไม่ต้องมีประเทศ ไปตั้งอิสระโน่น ต่างคนต่างตีกัน มีกำลังของตัวเองก็ว่ากันไปสิ อย่างที่ผ่านมา”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เราต้องร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ และอย่าคิดถึงตัวเอง ตนโตถึงวันนี้ก็ไม่เคยคิดถึงตัวเองว่าจะเป็นอะไรจะได้อะไร ไม่เคยคิด ทำงานอย่างเดียวแล้วเดี๋ยวก็ได้เป็นทุกอย่างเอง ผู้บังคับบัญชาเขาก็เลือกเอง ไม่ต้องไปเอาใจใครมากนัก ไม่ใช่เอาแต่พูด ดีครับผม เหมาะสมครับนาย ใช่ครับพี่ ไอ้พวกนี้ต้องย้ายไปไกลๆ ไม่ใช่ของจริง พอหมดอำนาจวาสนาก็ไปหมด วันหน้ามันก็ไม่อยู่ด้วยแล้ว ที่เขาเคารพ เขาฟังวันนี้เพราะตำแหน่ง ตนมีหัวโขนนายกฯ เขาก็ต้องฟัง จะไม่ฟังได้ไหมล่ะ ถ้าเมื่อไหร่ไม่ได้เป็นนายกฯเขาก็ไม่ฟัง ไปไหนเขาก็ไม่รับ คิดถึงวันหน้า มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ จะได้ไม่ทะเลาะกัน แล้วอย่าคิดว่า สิ่งที่พูดวันนี้เพราะตนผ่านมาแล้ว ตนเป็นแล้วไม่ใช่ เพราะตนไม่คิดว่าตนจะเป็น ไม่ว่าจะเป็น ผบ.ทบ.หรืออะไรก็ตาม ตนก็ขึ้นมาตามลำดับ ถ้าทำงานห่วยก็ไม่ภูมิใจหรอก ใครจะตั้งขึ้นมา

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ฉะนั้นทุกคนต้องทำสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น นำมาพัฒนาและอยู่ในกรอบ กติกา คิดนอกกรอบได้ แต่ก็ต้องนำมาอยู่ในกรอบ ทำให้ถูก และไม่ต้องมาพูดเอาใจ ถ้าทำห่วยจริง 2 ปีที่ผ่านมาช่วยกันมาตลอดอยู่แล้ว และจะช่วยกันทำส่งต่อให้รัฐบาลต่อไปอย่างไร ใครเป็นรัฐบาลก็ช่าง มันมีกลไกของมันอยู่ อย่ามาระแวงกันหนักหนา ไประแวงคนที่ทำให้เสียหาย เวลานี้ออกกฎหมายหลายๆอย่าง เพื่อป้องกันความขัดแย้ง ไม่ให้มาทะเลากันที่หลัง วันนี้มันเละไปหมด รื้ออะไรเจอหมด อย่างเรื่องที่ดิน การทุจริต มีคดีรออยู่ไปหมด ตนก็สื่อสารข้าราชการระดับล่าง ซี 3 ซี 4 ซี 5 โดนหมด แล้วจะให้ตนทำยังไง นั้นคือสิ่งที่ตนเป็นห่วง ท่านต้องดูแลลูกน้องให้ดี อย่าไปคิดว่าทุกคนแล้วต้องรวย มันไม่จำเป็น อย่าให้คนบ่นด่าเวลาไปแล้ว

“ผมเครียด พูดไปก็โมโหขึ้นเรื่อยๆ ต้องแก้ไขปรับปรุงตัวเอง ต้องตื่นตัวเองเสมอ นี่เตือนแล้วยังโมโหทุกเช้าเลย ก่อนนอนก่อนมาทำงานก็เตือนทุกครั้ง พอก้าวออกจากบ้านก็โมโหทันที พอหยิบหนังสือพิมพ์เปิดดูเอาอีกแล้วสืบอำนาจ แต่งตั้ง ผบ.เหล่าทัพ มันก็เรื่องของเขา เกี่ยวอะไรด้วย เขาตั้งใครเป็น ผบ.ทบ.มันเรื่องของเขา แล้วไอ้คนที่ไม่ได้เป็น ผบ.ทบ.มันไม่มีศักดิ์ศรีหรืออย่างไร รอง ผบ.ทบ.ก็เป็นจอมพล เพราะฉะนั้นจะมาแย่งกันไม่ได้อยู่แล้ว เพราะมันเป็นพื้นฐาน ต้องเข้าใจเขา มันทะเลาะกันไม่ได้ อย่าเอาผมไปทะเลาะกับรองนายกฯ หรือใคร บอกไว้เลยชาตินี้ชาติหน้าถ้าเจอกันก็ไม่ทะเลาะ ไม่ต้องมาหวังให้ผมทะเลาะกัน เพราะผมรักทุกคน มีอะไรทุกคนให้เกียรติผมเสมอ ไม่ว่าจะพี่จะน้องจะเพื่อน เพราะผมสวมหัวโขน ทุกคนสวมหัวโขนหมดเพื่อที่จะทำงานให้ประเทศ วันหน้าจะได้เดินยืดอกได้ วันหน้าจะได้ภาคภูมิใจว่าได้ทำอะไรไปบ้าง”












กำลังโหลดความคิดเห็น