พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ในการเสวนาระหว่างผู้นำ หัวข้อ การพัฒนาประเทศโดยความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Transforming Nations through Creativity and Innovation) ในการประชุมกลยุทธ์นานาชาติทะเลสีคราม (International Conference on Blue Ocean Strategy) ที่ศูนย์การประชุมเมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย โดยมีสาระสำคัญส่วนหนึ่งคือประเทศต่างๆ เผชิญชะตากรรมร่วมกันมากขึ้นจากโลกที่เชื่อมต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสภาวะโลกร้อน ปัญหาหมอกควัน ปัญหาก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ ภายใต้โลกที่ต้องพึ่งพาอาศัยกัน จึงต้องปรับแนวคิดเป็นการคิดนอกกรอบเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่ไม่ได้มุ่งเอาชนะกัน แต่คือการสร้างสรรค์ และออกแบบธุรกิจใหม่
สำหรับประเทศไทย ขณะนี้เผชิญกับความท้าทายหลายประการ อาทิ การขาดแคลนแรงงาน และการเข้าสู่สังคมวัยชรา ประสิทธิภาพของแรงงานไทยที่พัฒนาช้ากว่าเทคโนโลยีการผลิตของโลก และขีดความสามารถในการยกระดับเทคโนโลยีการผลิตในภาพรวม ธุรกิจใหม่ของไทยยังขาดความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ตลาดคู่ค้าสำคัญ เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และจีน เผชิญสภาวะถดถอย การย้ายฐานการผลิตไปสู่ฐานการผลิตที่มีค่าแรงต่ำกว่า ความเหลื่อมล้ำทางสังคม สุขอนามัยของประชาชน ภัยธรรมชาติ และความเสื่อมโทรมของสภาพสิ่งแวดล้อมจากการพัฒนาที่ไม่สมดุล ประเทศไทยจึงอยู่ระหว่างการปฏิรูปประเทศเพื่อวางรากฐานให้ประเทศมีความเข้มแข็ง รองรับกับความท้าทายต่างๆ พัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน บนพื้นฐานของการเติบโตไปด้วยกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าท่ามกลางสภาวะการแข่งขัน ประเทศต่างๆ สามารถที่จะร่วมมือกันเพื่อให้ทะเลสีครามเป็นทะเลที่มีคลื่นสงบมีความมั่งคั่งและความอุดมสมบูรณ์ เป็นทะเลแห่งความหวังและโอกาสผ่านความร่วมมือที่สร้างสรรค์ ได้ด้วยการแสวงหาจุดแข็งของแต่ละประเทศและสนับสนุนกันและกัน ด้านการวิจัยพัฒนาและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยไทยยังมีนโยบาย Thailand + 1 และส่งเสริมความร่วมมือไตรภาคีระหว่างประเทศที่มีรายได้สูง รายได้ปานกลางและรายได้น้อย เพื่อช่วยมิตรประเทศทั้งในและนอกภูมิภาคที่สนใจร่วมมือในการบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งนายกรัฐมนตรี หวังว่าทะเลสีครามแห่งนี้ จะเป็นทะเลแห่งความหวังและโอกาส โดยประเทศไทยประสงค์ที่จะมีส่วนร่วมและบทบาทอย่างแข็งขันเพื่อสร้างทะเลแห่งอนาคตร่วมกัน และเชื่อว่าการประชุมในครั้งนี้จะทำให้ทุกประเทศสามารถเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์
สำหรับประเทศไทย ขณะนี้เผชิญกับความท้าทายหลายประการ อาทิ การขาดแคลนแรงงาน และการเข้าสู่สังคมวัยชรา ประสิทธิภาพของแรงงานไทยที่พัฒนาช้ากว่าเทคโนโลยีการผลิตของโลก และขีดความสามารถในการยกระดับเทคโนโลยีการผลิตในภาพรวม ธุรกิจใหม่ของไทยยังขาดความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ตลาดคู่ค้าสำคัญ เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และจีน เผชิญสภาวะถดถอย การย้ายฐานการผลิตไปสู่ฐานการผลิตที่มีค่าแรงต่ำกว่า ความเหลื่อมล้ำทางสังคม สุขอนามัยของประชาชน ภัยธรรมชาติ และความเสื่อมโทรมของสภาพสิ่งแวดล้อมจากการพัฒนาที่ไม่สมดุล ประเทศไทยจึงอยู่ระหว่างการปฏิรูปประเทศเพื่อวางรากฐานให้ประเทศมีความเข้มแข็ง รองรับกับความท้าทายต่างๆ พัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน บนพื้นฐานของการเติบโตไปด้วยกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าท่ามกลางสภาวะการแข่งขัน ประเทศต่างๆ สามารถที่จะร่วมมือกันเพื่อให้ทะเลสีครามเป็นทะเลที่มีคลื่นสงบมีความมั่งคั่งและความอุดมสมบูรณ์ เป็นทะเลแห่งความหวังและโอกาสผ่านความร่วมมือที่สร้างสรรค์ ได้ด้วยการแสวงหาจุดแข็งของแต่ละประเทศและสนับสนุนกันและกัน ด้านการวิจัยพัฒนาและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยไทยยังมีนโยบาย Thailand + 1 และส่งเสริมความร่วมมือไตรภาคีระหว่างประเทศที่มีรายได้สูง รายได้ปานกลางและรายได้น้อย เพื่อช่วยมิตรประเทศทั้งในและนอกภูมิภาคที่สนใจร่วมมือในการบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งนายกรัฐมนตรี หวังว่าทะเลสีครามแห่งนี้ จะเป็นทะเลแห่งความหวังและโอกาส โดยประเทศไทยประสงค์ที่จะมีส่วนร่วมและบทบาทอย่างแข็งขันเพื่อสร้างทะเลแห่งอนาคตร่วมกัน และเชื่อว่าการประชุมในครั้งนี้จะทำให้ทุกประเทศสามารถเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์