xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

จำคุก 3 ปี “คดีเขาแพง” “แทน เทือกสุบรรณ” เขาคือ “ลูกกตัญญู”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ในที่สุด “ปฏิบัติการเอาคืน” ยุคที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) มีอธิบดีชื่อ “ธาริต เพ็งดิษฐ์” ก็ออกฤทธิ์เอากับ “ตระกูลเทือกสุบรรณ” เข้าจนได้ เมื่อศาลอาญาได้พิพากษาออกมาเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2559

กล่าวคือพิพากษาลงโทษจำคุก นายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. (คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) และ นายบรรเจิด เหล่าปิยะสกุล อดีตเลขานุการส่วนตัวของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ คนละ 3 ปี และให้ลงโทษจำคุก นายพงษ์ชัย ฟ้าทวีพรหรือโกกี้ และนายสามารถ เรืองศรี หรือโกเข็ก คนละ 5 ปี ในคดีการบุกรุกที่ดินของรัฐ และป่าในพื้นที่เขาแพง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 และ ประมวลกฎหมายที่ดิน เนื่องจากออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ

ที่ดินแปลงแรกเป็น น.ส.3 ก.เลขที่ 3301, 3302 และ 3285 หมู่ที่ 6 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เนื้อที่ส่วนที่ออกโดยมิชอบ 31-2-97 ไร่ โดยในส่วนนี้ได้ดำเนินคดีกับนายพงษ์ชัย และนายสามารถ

ที่ดินแปลงที่สองเป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 28109 เฉพาะส่วนที่เกินจากที่ดินตาม น.ส.3 ก.เลขที่ 3301, 3302 และ 3285 มีการรวมแปลงเป็นโฉนดเลขที่ 28109 เป็นเนื้อที่ 14 ไร่ หมู่ที่ 6 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

กล่าวสำหรับจุดเริ่มต้นของการขุดคุ้ยเรื่องที่ดินเขาแพงเกิดขึ้นในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี โดยมีการนำมาเปิดเผยในระหว่างการอภิปรายของพรรคเพื่อไทยในปี 2553

ปมประเด็นในขณะนั้นก็คือ มีการตั้งข้อสงสัยว่าน่าจะออกโฉนดโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และนายสุเทพน่าจะเป็นผู้ครอบครองที่แท้จริงเพียงแต่ใส่ชื่อนายแทน บุตรชายอำพรางไว้ ถือเป็นการปกปิดบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

ในครั้งนั้น นายสุเทพไม่ถูกน็อกกลางสภา เนื่องจากนายจตุพร พรหมพันธุ์ซึ่งอาสาเปิดศึกแทน “เป็ดเหลิม-ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” ไม่สามารถหาหลักฐานมาเชื่อมโยงได้ว่า นายสุเทพเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะที่ดินของนายแทนออก น.ส.3 ก. เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2543 และออกโฉนดในช่วงรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงปี 2548 มิใช่ช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล แม้ว่าตัวละครสำคัญ 3 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้คือ โกกี้และโกเข็ก สองหุ้นส่วนคนสำคัญของ หจก.เรืองปัญญาคอนสตรัคชั่น รวมทั้งนายบรรเจิด เหล่าปิยะสกุล จะมีความสัมพันธ์อันแนบแน่นกับนายสุเทพก็ตาม

จากนั้น คดีนี้ เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นเรื่องเป็นราวในช่วงปี 2555 หลังพรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นรัฐบาล เมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษของนายธาริต “เปลี่ยนสี”จากหน้ามือเป็นหลังมือได้หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาทำ กระทั่งนำไปสู่การที่คณะกรรมการคดีพิเศษได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 2/2555 เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2555 ให้กรณีการบุกรุกที่ดินของรัฐ ป่าในพื้นที่เขาแพง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เป็นคดีพิเศษ และได้รับเป็นคดีพิเศษที่ 63/2555 ก่อนที่ พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 ได้มีคำสั่งฟ้องบุคคลดังกล่าวตามความเห็นของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2556

ขณะที่นายแทน เทือกสุบรรณก็ยืนยันความบริสุทธิ์ และให้ความร่วมมือในการตรวจสอบคดีมาโดยตลอด

หลังต่อสู้กันในศาลมาเป็นเวลาเกือบ 3 ปีเต็ม ในที่สุดศาลอาญาก็มีคำพิพากษาว่า ผิดจริง โดยลงโทษจำคุกและที่ต้องขีดเส้นใต้เอาไว้ก็คือ ไม่รอลงอาญา

ทั้งนี้ ในคำพิพากษา ระบุเอาไว้ชัดเจนว่า “ป่าไม้ เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญและเป็นสมบัติที่ล้ำค่าของชาติ ควรที่ประชาชนจะต้องร่วมกันหวงแหนบำรุงรักษาให้อุดมสมบูรณ์เพื่อประโยชน์ร่วมกัน มิใช่เป็นของส่วนตัวแก่ผู้ใด การกระทำของจำเลยทั้งสี่มีผล กระทบต่อการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของ ดิน น้ำ อากาศ และป่าไม้ ทั้งโดยตรงและทางอ้อม อันเป็นต้นเหตุของความแห้งแล้ง และภัยพิบัติจากน้ำป่าไหลหลาก สภาพความผิดจึง เป็น เรื่องร้ายแรง ไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ และให้จำเลยทั้งสี่ คนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทน และบริวารของจำเลยทั้งสี่ ออกจากที่ดินและป่าไม้ บริเวณที่เกิดเหตุ”

แน่นอน นายแทนย่อมต้องยื่นอุทธรณ์และต่อสู้ต่อไปเพื่อแก้ข้อกล่าวหาอันเป็นเหตุให้ต้องคำพิพากษาจำคุกโดยไม่รอลงอาญา ซึ่งเชื่อว่าจะต้องใช้เวลาอีกพอสมควรกว่าคดีจะขึ้นสู่ศาลฎีกา

กล่าวสำหรับ “แทน เทือกสุบรรณ” นั้น วันนี้ ต้องถือว่าเขาเป็นบุคคลที่สมควรได้รับการยกย่องในฐานะ “ลูกกตัญญู” เพราะหลังโบกมือลาชีวิตนักการโฆษณาในกรุงเทพฯ ก็หันเหชีวิตมาสืบทอดกิจการแทนนายสุเทพผู้เป็นบิดาซึ่งกระโดดไปเล่นการเมืองเต็มตัว โดยบริหารธุรกิจของครอบครัวในนาม บริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม ซึ่งทำฟาร์มกุ้ง และพืชเศรษฐกิจอื่นๆ ทั้งสวนมะพร้าว สวนปาล์ม สวนมะนาว บนเนื้อที่หลายพันไร่

ส่วน “ลุงกำนัน” ผู้เป็นพ่อ งานนี้....ไม่เกี๊ยว....ไม่เกี่ยว....นะจะบอกให้ พ่อแม่พี่น้องและแฟนคลับสบายใจได้!!!!



กำลังโหลดความคิดเห็น