ผู้จัดการรายวัน 360 - "ศรีวราห์" เผยทหารรวบมือบึ้ม7จว.ภาคใต้ได้แล้ว1 ราย คุมสอบที่ เรือนจำศาลทหารทุ่งสง ย้ำไม่โยงบีอาร์เอ็น-อาร์เคเค ตร.ขึ้นคัทเอาท์ผู้ต้องหาคดีระเบิด-วางเพลิงในจุดสำคัญ หวังชาวบ้านช่วยล่าตัว
วานนี้ (13 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดีก่อเหตุระเบิดและวางเพลิงในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดว่า เจ้าหน้าที่ทหาร ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในพื้นที่ จ.ตรัง ได้ 1 คน คือ นายอับดุลกอเดร์ สาแล๊ะ อายุ 35 ปี ชาว อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ซึ่งขณะนี้ฝากขังอยู่ที่เรือนจำศาลทหารทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยเจ้าหน้าที่ทหารสามารถควบคุมตัวได้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้สอบปากคำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนคำให้การเบื้องต้น ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ในสำนวน โดยตนจะลงพื้นที่ไปสอบปากคำ นายอับดุลกอเดร์ ด้วยตนเองภายในสัปดาห์นี้ หากมีการซัดทอดก็จะขยายผลไปจนถึงผู้บงการ ส่วนมูลเหตุการก่อความไม่สงบในพื้นที่ 7 จังหวัดนั้นยังไม่ได้สรุป แต่ผู้ต้องหาที่ออกหมายจับส่วนใหญ่มาจาก 3 จังหวัดชายแดนทั้งสิ้น
“นายอับดุลกอเดร์ ถือว่าเป็นคนกลุ่มเดียวกันที่เคยก่อเหตุพื้นที่อื่นๆ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด ในสำนวนคดีพบว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มบีอาร์เอ็นและอาร์เคเค ที่เคยออกมายอมรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุในพื้นที่ 7 จังหวัด” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว
** “ศรีวราห์” เชื่อไม่ขยายวงไปพื้นที่อื่น
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวต่อว่า สำหรับคดีนี้มีผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ประมาณ 20 คน ตำรวจได้ออกหมายจับไปแล้ว 6 คน ได้แก่ 1.นายรุสลัน ใบมะ 2.นายอาหามะ เล็งหะ 3.นายอับดุลกอเดร์ สาแล๊ะ 4.นายอัสมีน กาเด็มมาดี 5.นายฮากีม ดอเลาะ และ 6.นายเสรี แวมามุ ส่วนจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมเมื่อไหร่นั้น ต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานชัดเจนก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า คนร้ายจะมีการขยายพื้นที่ก่อเหตุอีกหรือไม่นั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวตอบว่า ส่วนตัวคิดว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากพื้นที่อื่นๆ ไม่น่าจะเป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้ก่อเหตุ สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่สงบขึ้นหลังจากมีการแต่งตั้ง พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท เป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) คนใหม่นั้น เรื่องนี้ตนไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครศรีธรรมราช จ.พังงา และ จ.ตรัง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำคัทเอาต์ขนาดใหญ่ ซึ่งมีภาพของผู้ต้องหาในคดีความมั่นคงที่ก่อเหตุลองวางเพลิงและระเบิดใน 7 จังหวัดภาคใต้ มาติดตั้งในจุดแยกสำคัญ ทางเข้า-ออกตัวเมือง เพื่อประชาสัมพันธ์ให้มีการแจ้งเบาะแสในการติดตามตัวผู้ต้องหา และเป็นปฏิบัติการเชิงจิตวิทยากดดันเครือข่ายของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ
** “บิ๊กป้อม” สั่งเฝ้าระวังวันฮารีรายอ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ในครั้งต่อไปว่า การพูดคุยยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และจะนัดพูดคุยกันเป็นช่วงๆ โดย พล.อ.อักษรา เกิดผล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าทีมพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ ได้พูดคุยกับคณะใหญ่แล้ว จากนั้นจะนำผลการพูดคุยกับทางกลุ่มขบวนการความไม่สงบมาพูดคุยกับคณะทำงานคณะเล็กของฝ่ายไทย เกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆทั้งการพูดคุยในครั้งต่อไปอย่างไรก็ตาม จากนี้เป็นหน้าที่ของฝ่ายปฏิบัติที่จะไปดำเนินการต่อ
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการสอบถามกรณีที่มีข่าวว่าผู้ก่อเหตุความไม่สงบในประเทศไทย หลบหนีไปอยู่ในประเทศมาเลเซียบ้างหรือไม่ พล.อ.ทวีป กล่าวว่า ได้พูดคุยตั้งแต่ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เดินทางไปร่วมประชุมที่มาเลเซียแล้ว ส่วนรายละเอียดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของ 2 ประเทศ จะต้องประสานความร่วมมือการทำงานกันต่อไป ส่วนเหตุระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งกลุ่มบีอาร์เอ็นยอมรับว่าเป็นผู้คนก่อเหตุนั้น ตนเห็นว่ายังเป็นเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้ เพราะตามปกติเวลาก่อเหตุกลุ่มบีอาร์เอ็น ไม่เคยออกมาประกาศ และในประเทศไทย จะไม่เหมือนกับการก่อเหตุในตะวันออกกลางที่จะประกาศตัวว่าเป็นการกระทำของกลุ่มใด ขณะที่มาตรการป้องกัน พล.อ.ประวิตร สั่งการว่าในช่วงวันสำคัญ เช่น วันฮารีรายอให้ระวังและป้องกันเป็นพิเศษ รวมถึงขณะนี้ยังเป็นช่วงเทศกาล พล.อ.ประวิตรได้สั่งการให้หน่วยการข่าวกรองกำหนดว่าช่วงใด เป็นช่วงที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ซึ่งการดูแลอย่างเข้มงวด จะเน้นเป็นบางสถานที่และช่วงเวลาสำคัญเท่านั้น หากเข้มงวดไปตลอดเจ้าหน้าที่จะเหนื่อย.
วานนี้ (13 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดีก่อเหตุระเบิดและวางเพลิงในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดว่า เจ้าหน้าที่ทหาร ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในพื้นที่ จ.ตรัง ได้ 1 คน คือ นายอับดุลกอเดร์ สาแล๊ะ อายุ 35 ปี ชาว อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ซึ่งขณะนี้ฝากขังอยู่ที่เรือนจำศาลทหารทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยเจ้าหน้าที่ทหารสามารถควบคุมตัวได้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้สอบปากคำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนคำให้การเบื้องต้น ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ในสำนวน โดยตนจะลงพื้นที่ไปสอบปากคำ นายอับดุลกอเดร์ ด้วยตนเองภายในสัปดาห์นี้ หากมีการซัดทอดก็จะขยายผลไปจนถึงผู้บงการ ส่วนมูลเหตุการก่อความไม่สงบในพื้นที่ 7 จังหวัดนั้นยังไม่ได้สรุป แต่ผู้ต้องหาที่ออกหมายจับส่วนใหญ่มาจาก 3 จังหวัดชายแดนทั้งสิ้น
“นายอับดุลกอเดร์ ถือว่าเป็นคนกลุ่มเดียวกันที่เคยก่อเหตุพื้นที่อื่นๆ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด ในสำนวนคดีพบว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มบีอาร์เอ็นและอาร์เคเค ที่เคยออกมายอมรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุในพื้นที่ 7 จังหวัด” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว
** “ศรีวราห์” เชื่อไม่ขยายวงไปพื้นที่อื่น
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวต่อว่า สำหรับคดีนี้มีผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ประมาณ 20 คน ตำรวจได้ออกหมายจับไปแล้ว 6 คน ได้แก่ 1.นายรุสลัน ใบมะ 2.นายอาหามะ เล็งหะ 3.นายอับดุลกอเดร์ สาแล๊ะ 4.นายอัสมีน กาเด็มมาดี 5.นายฮากีม ดอเลาะ และ 6.นายเสรี แวมามุ ส่วนจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมเมื่อไหร่นั้น ต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานชัดเจนก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า คนร้ายจะมีการขยายพื้นที่ก่อเหตุอีกหรือไม่นั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวตอบว่า ส่วนตัวคิดว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากพื้นที่อื่นๆ ไม่น่าจะเป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้ก่อเหตุ สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่สงบขึ้นหลังจากมีการแต่งตั้ง พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท เป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) คนใหม่นั้น เรื่องนี้ตนไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครศรีธรรมราช จ.พังงา และ จ.ตรัง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำคัทเอาต์ขนาดใหญ่ ซึ่งมีภาพของผู้ต้องหาในคดีความมั่นคงที่ก่อเหตุลองวางเพลิงและระเบิดใน 7 จังหวัดภาคใต้ มาติดตั้งในจุดแยกสำคัญ ทางเข้า-ออกตัวเมือง เพื่อประชาสัมพันธ์ให้มีการแจ้งเบาะแสในการติดตามตัวผู้ต้องหา และเป็นปฏิบัติการเชิงจิตวิทยากดดันเครือข่ายของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ
** “บิ๊กป้อม” สั่งเฝ้าระวังวันฮารีรายอ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ในครั้งต่อไปว่า การพูดคุยยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และจะนัดพูดคุยกันเป็นช่วงๆ โดย พล.อ.อักษรา เกิดผล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าทีมพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ ได้พูดคุยกับคณะใหญ่แล้ว จากนั้นจะนำผลการพูดคุยกับทางกลุ่มขบวนการความไม่สงบมาพูดคุยกับคณะทำงานคณะเล็กของฝ่ายไทย เกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆทั้งการพูดคุยในครั้งต่อไปอย่างไรก็ตาม จากนี้เป็นหน้าที่ของฝ่ายปฏิบัติที่จะไปดำเนินการต่อ
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการสอบถามกรณีที่มีข่าวว่าผู้ก่อเหตุความไม่สงบในประเทศไทย หลบหนีไปอยู่ในประเทศมาเลเซียบ้างหรือไม่ พล.อ.ทวีป กล่าวว่า ได้พูดคุยตั้งแต่ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เดินทางไปร่วมประชุมที่มาเลเซียแล้ว ส่วนรายละเอียดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของ 2 ประเทศ จะต้องประสานความร่วมมือการทำงานกันต่อไป ส่วนเหตุระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งกลุ่มบีอาร์เอ็นยอมรับว่าเป็นผู้คนก่อเหตุนั้น ตนเห็นว่ายังเป็นเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้ เพราะตามปกติเวลาก่อเหตุกลุ่มบีอาร์เอ็น ไม่เคยออกมาประกาศ และในประเทศไทย จะไม่เหมือนกับการก่อเหตุในตะวันออกกลางที่จะประกาศตัวว่าเป็นการกระทำของกลุ่มใด ขณะที่มาตรการป้องกัน พล.อ.ประวิตร สั่งการว่าในช่วงวันสำคัญ เช่น วันฮารีรายอให้ระวังและป้องกันเป็นพิเศษ รวมถึงขณะนี้ยังเป็นช่วงเทศกาล พล.อ.ประวิตรได้สั่งการให้หน่วยการข่าวกรองกำหนดว่าช่วงใด เป็นช่วงที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ซึ่งการดูแลอย่างเข้มงวด จะเน้นเป็นบางสถานที่และช่วงเวลาสำคัญเท่านั้น หากเข้มงวดไปตลอดเจ้าหน้าที่จะเหนื่อย.
