ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง"คะแนนนิยมพรรคการเมืองไทย หลังผ่าน 1 เดือนการลงประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญ" โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,156 คน พบว่า
ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 59.9 เห็นว่า การใช้ประชานิยมหาเสียงของพรรคการเมืองแบบที่ผ่านมาในอดีตไม่เหมาะสม เพราะมีแค่กลุ่มคนบางกลุ่มได้รับผลประโยชน์จากประชานิยมนั้น ขณะที่ร้อยละ 32.4 เห็นว่า เหมาะสม เพราะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ส่วนที่เหลือร้อยละ 7.7 ไม่แน่ใจ
เมื่อถามว่าอยากให้มีการใช้ประชานิยมหาเสียงอยู่อีกหรือไม่ในอนาคต ส่วนใหญ่ร้อยละ 64.2 อยากให้มี แต่การใช้ประชานิยมหาเสียง ควรใช้อย่างสร้างสรรค์ โดยในจำนวนนี้อยากให้ใช้ประชานิยมตอบสนองด้านเศรษฐกิจ แก้ปัญหาของแพง ค่าครองชีพมากที่สุด (ร้อยละ 70.8) รองลงมาคือ ด้านการเกษตร สินค้าเกษตร (ร้อยละ 62.1) และด้านการศึกษา (ร้อยละ 59.6) ขณะที่ร้อยละ 31.6 ไม่อยากให้ใช้ประชานิยมหาเสียง มีเพียงร้อยละ 4.2 ไม่แน่ใจ
ส่วนคะแนนนิยมพรรคการเมืองพบว่า คะแนนนิยมพรรคประชาธิปัตย์ อยู่ที่ร้อยละ 16.9 (ลดลงจากผลสำรวจเมื่อเดือน พ.ค.59 ร้อยละ 5.8) รองลงมาคือ พรรคเพื่อไทย ที่มีคะแนนนิยมอยู่ที่ร้อยละ 15.3 (ลดลงร้อยละ 3.8) และพรรคชาติไทยพัฒนา มีคะแนนนิยมอยู่ที่ร้อยละ 1.2 (ลดลงร้อยละ 0.9)
สุดท้ายเมื่อถามว่า “หากวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง จะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป”พบว่า อันดับแรกคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองลงมาคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (ร้อยละ 3.8) และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (ร้อยละ 3.7)
**ปชช.ชอบข่าวม.44ปราบโกง
การบริหารประเทศของรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คนที่ 29 และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งนับได้ว่า เป็นรัฐบาลทหารที่มีความเด็ดขาด จริงจัง และมีนโยบายที่ชัดเจน เน้นด้านความมั่นคงและการปราบปรามการทุจริต มีแนวคิดการทำงานตามโรดแมป ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อ"รัฐบาลไทย" สวนดุสิตโพล ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,254 คน ระหว่างวันที่ 5-10 ก.ย.59 สรุปผลได้ ดังนี้
1. 5 อันดับข่าวการเมือง ที่ประชาชนสนใจ อันดับ 1 การใช้มาตรา 44 ปราบปรามทุจริตข้าราชการและนักการเมือง 83.57% เพราะ เป็นการใช้อำนาจพิเศษเพื่อแก้ปัญหาที่สำคัญของบ้านเมือง มีความเด็ดขาด แก้ปัญหาได้รวดเร็ว ฯลฯ อันดับ 2ร่างรัฐธรรมนูญ การจัดตั้งพรรคการเมือง 74.64% เพราะ อยากให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว อยากเห็นรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์ จะได้รู้ทิศทางของการเมืองไทย ฯลฯ อันดับ 3 สถานการณ์ภาคใต้ เกิดเหตุระเบิดในหลายพื้นที่ 68.42% เพราะ เป็นปัญหาที่มีมานาน รู้สึกเป็นห่วงและกังวล ไม่อยากให้มีการสูญเสียเกิดขึ้น อยากให้ภาคใต้สงบสุข ฯลฯ อันดับ 4 ภารกิจ และการบริหารงานของนายกรัฐมนตรี 67.54% เพราะ ต้องการติดตามข่าวสารบ้านเมือง การทำงาน และผลงานของนายกฯ ชื่นชอบเป็นการส่วนตัว ฯลฯ อันดับ 5 การใช้งบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่าง ๆ 55.66% เพราะ ที่ผ่านมามักมีการทุจริตไม่โปร่งใสเกิดขึ้น แต่ละโครงการต้องลงทุนจำนวนมาก อยากให้ใช้อย่างคุ้มค่า ฯลฯ
2. เมื่อเปรียบเทียบระหว่างรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ กับ รัฐบาลที่มีนักการเมืองเป็นนายกรัฐมนตรี ประชาชนคิดว่ามีสิ่งใดที่ดีขึ้น แย่ลง และเหมือนเดิม
2.1 สิ่งที่ดีขึ้น คือ อันดับ 1การปราบปรามทุจริตคอรัปชั่น 78.47% อันดับ 2 ทำงานเด็ดขาด จริงจัง บ้านเมืองเป็นระเบียบ ไม่มีการชุมนุม72.65% อันดับ 3 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม61.48%
2.2 สิ่งที่แย่ลง คือ อันดับ 1ปัญหาเศรษฐกิจ ราคาพืชผลการเกษตร 76.24% อันดับ 2 สถานการณ์ภาคใต้ ระเบิด การก่อการร้าย66.59% อันดับ 3 ความขัดแย้ง ถูกควบคุมสิทธิเสรีภาพ 56.70%
2.3 สิ่งที่เหมือนเดิม คือ อันดับ 1 ค่าครองชีพแพง ความเป็นอยู่ลำบาก 80.90% อันดับ 2ยังมีความขัดแย้ง ทะเลาะเบาะแว้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่าย79.67% อันดับ 3 ปัญหาอาชญากรรม คุณธรรมจริยธรรมลดลง 60.77%
3. 5 อันดับรัฐบาลไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่ประชาชนชื่นชอบ อันดับ 1รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ 77.59% เพราะ เป็นรัฐบาลทหาร มีความเด็ดขาด จริงจัง มีแผนการทำงานเป็นระยะชัดเจน แก้ปัญหาการทุจริตได้ดี ฯลฯ อันดับ 2 รัฐบาลทักษิณ70.41% เพราะเศรษฐกิจดี ต่างชาติให้การยอมรับ ประชาชนได้รับความช่วยเหลือ เน้นนโยบายเพื่อประชาชน ฯลฯ อันดับ 3รัฐบาลอภิสิทธิ์ 63.16% เพราะ มีการปฏิรูปการศึกษา มีนโยบายสนับสนุนส่งเสริมการศึกษา นโยบายในการพัฒนาประเทศดี ฯลฯ อันดับ 4 รัฐบาลชวน 59.17% เพราะ ประเทศมีความก้าวหน้า บ้านเมืองสงบสุข มีความสามัคคีปรองดอง ผู้นำมีความซื่อสัตย์ สุภาพ ฯลฯ อันดับ 5 รัฐบาลยิ่งลักษณ์ 54.39% เพราะ เน้นช่วยเหลือเกษตรกรและคนจน งบประมาณทั่วถึง ขึ้นเงินเดือน มีนโยบายที่เน้นทำเพื่อประชาชน ฯลฯ
ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 59.9 เห็นว่า การใช้ประชานิยมหาเสียงของพรรคการเมืองแบบที่ผ่านมาในอดีตไม่เหมาะสม เพราะมีแค่กลุ่มคนบางกลุ่มได้รับผลประโยชน์จากประชานิยมนั้น ขณะที่ร้อยละ 32.4 เห็นว่า เหมาะสม เพราะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ส่วนที่เหลือร้อยละ 7.7 ไม่แน่ใจ
เมื่อถามว่าอยากให้มีการใช้ประชานิยมหาเสียงอยู่อีกหรือไม่ในอนาคต ส่วนใหญ่ร้อยละ 64.2 อยากให้มี แต่การใช้ประชานิยมหาเสียง ควรใช้อย่างสร้างสรรค์ โดยในจำนวนนี้อยากให้ใช้ประชานิยมตอบสนองด้านเศรษฐกิจ แก้ปัญหาของแพง ค่าครองชีพมากที่สุด (ร้อยละ 70.8) รองลงมาคือ ด้านการเกษตร สินค้าเกษตร (ร้อยละ 62.1) และด้านการศึกษา (ร้อยละ 59.6) ขณะที่ร้อยละ 31.6 ไม่อยากให้ใช้ประชานิยมหาเสียง มีเพียงร้อยละ 4.2 ไม่แน่ใจ
ส่วนคะแนนนิยมพรรคการเมืองพบว่า คะแนนนิยมพรรคประชาธิปัตย์ อยู่ที่ร้อยละ 16.9 (ลดลงจากผลสำรวจเมื่อเดือน พ.ค.59 ร้อยละ 5.8) รองลงมาคือ พรรคเพื่อไทย ที่มีคะแนนนิยมอยู่ที่ร้อยละ 15.3 (ลดลงร้อยละ 3.8) และพรรคชาติไทยพัฒนา มีคะแนนนิยมอยู่ที่ร้อยละ 1.2 (ลดลงร้อยละ 0.9)
สุดท้ายเมื่อถามว่า “หากวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง จะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป”พบว่า อันดับแรกคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองลงมาคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (ร้อยละ 3.8) และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (ร้อยละ 3.7)
**ปชช.ชอบข่าวม.44ปราบโกง
การบริหารประเทศของรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คนที่ 29 และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งนับได้ว่า เป็นรัฐบาลทหารที่มีความเด็ดขาด จริงจัง และมีนโยบายที่ชัดเจน เน้นด้านความมั่นคงและการปราบปรามการทุจริต มีแนวคิดการทำงานตามโรดแมป ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อ"รัฐบาลไทย" สวนดุสิตโพล ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,254 คน ระหว่างวันที่ 5-10 ก.ย.59 สรุปผลได้ ดังนี้
1. 5 อันดับข่าวการเมือง ที่ประชาชนสนใจ อันดับ 1 การใช้มาตรา 44 ปราบปรามทุจริตข้าราชการและนักการเมือง 83.57% เพราะ เป็นการใช้อำนาจพิเศษเพื่อแก้ปัญหาที่สำคัญของบ้านเมือง มีความเด็ดขาด แก้ปัญหาได้รวดเร็ว ฯลฯ อันดับ 2ร่างรัฐธรรมนูญ การจัดตั้งพรรคการเมือง 74.64% เพราะ อยากให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว อยากเห็นรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์ จะได้รู้ทิศทางของการเมืองไทย ฯลฯ อันดับ 3 สถานการณ์ภาคใต้ เกิดเหตุระเบิดในหลายพื้นที่ 68.42% เพราะ เป็นปัญหาที่มีมานาน รู้สึกเป็นห่วงและกังวล ไม่อยากให้มีการสูญเสียเกิดขึ้น อยากให้ภาคใต้สงบสุข ฯลฯ อันดับ 4 ภารกิจ และการบริหารงานของนายกรัฐมนตรี 67.54% เพราะ ต้องการติดตามข่าวสารบ้านเมือง การทำงาน และผลงานของนายกฯ ชื่นชอบเป็นการส่วนตัว ฯลฯ อันดับ 5 การใช้งบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่าง ๆ 55.66% เพราะ ที่ผ่านมามักมีการทุจริตไม่โปร่งใสเกิดขึ้น แต่ละโครงการต้องลงทุนจำนวนมาก อยากให้ใช้อย่างคุ้มค่า ฯลฯ
2. เมื่อเปรียบเทียบระหว่างรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ กับ รัฐบาลที่มีนักการเมืองเป็นนายกรัฐมนตรี ประชาชนคิดว่ามีสิ่งใดที่ดีขึ้น แย่ลง และเหมือนเดิม
2.1 สิ่งที่ดีขึ้น คือ อันดับ 1การปราบปรามทุจริตคอรัปชั่น 78.47% อันดับ 2 ทำงานเด็ดขาด จริงจัง บ้านเมืองเป็นระเบียบ ไม่มีการชุมนุม72.65% อันดับ 3 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม61.48%
2.2 สิ่งที่แย่ลง คือ อันดับ 1ปัญหาเศรษฐกิจ ราคาพืชผลการเกษตร 76.24% อันดับ 2 สถานการณ์ภาคใต้ ระเบิด การก่อการร้าย66.59% อันดับ 3 ความขัดแย้ง ถูกควบคุมสิทธิเสรีภาพ 56.70%
2.3 สิ่งที่เหมือนเดิม คือ อันดับ 1 ค่าครองชีพแพง ความเป็นอยู่ลำบาก 80.90% อันดับ 2ยังมีความขัดแย้ง ทะเลาะเบาะแว้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่าย79.67% อันดับ 3 ปัญหาอาชญากรรม คุณธรรมจริยธรรมลดลง 60.77%
3. 5 อันดับรัฐบาลไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่ประชาชนชื่นชอบ อันดับ 1รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ 77.59% เพราะ เป็นรัฐบาลทหาร มีความเด็ดขาด จริงจัง มีแผนการทำงานเป็นระยะชัดเจน แก้ปัญหาการทุจริตได้ดี ฯลฯ อันดับ 2 รัฐบาลทักษิณ70.41% เพราะเศรษฐกิจดี ต่างชาติให้การยอมรับ ประชาชนได้รับความช่วยเหลือ เน้นนโยบายเพื่อประชาชน ฯลฯ อันดับ 3รัฐบาลอภิสิทธิ์ 63.16% เพราะ มีการปฏิรูปการศึกษา มีนโยบายสนับสนุนส่งเสริมการศึกษา นโยบายในการพัฒนาประเทศดี ฯลฯ อันดับ 4 รัฐบาลชวน 59.17% เพราะ ประเทศมีความก้าวหน้า บ้านเมืองสงบสุข มีความสามัคคีปรองดอง ผู้นำมีความซื่อสัตย์ สุภาพ ฯลฯ อันดับ 5 รัฐบาลยิ่งลักษณ์ 54.39% เพราะ เน้นช่วยเหลือเกษตรกรและคนจน งบประมาณทั่วถึง ขึ้นเงินเดือน มีนโยบายที่เน้นทำเพื่อประชาชน ฯลฯ