สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน ถึงการบริหารประเทศของรัฐบาล โดยสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,254 คน ระหว่างวันที่ 5-10 ก.ย.ที่ผ่านมา เมื่อถามถึงข่าวการเมืองที่ประชาชนสนใจพบว่า มากที่สุดร้อยละ 83.57 คือการใช้มาตรา 44 ปราบปรามทุจริตข้าราชการและนักการเมือง เพราะเป็นการใช้อำนาจพิเศษ เพื่อแก้ปัญหาที่สำคัญของบ้านเมือง มีความเด็ดขาด แก้ปัญหาได้รวดเร็ว
รองลงมาร้อยละ 74.64 ร่างรัฐธรรมนูญ การจัดตั้งพรรคการเมือง เพราะอยากให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว อยากเห็นรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์ จะได้รู้ทิศทางของการเมืองไทย และร้อยละ 68.42 สถานการณ์ภาคใต้ เกิดเหตุระเบิดในหลายพื้นที่ เพราะเป็นปัญหาที่มีมานาน รู้สึกเป็นห่วงและกังวล ไม่อยากให้มีการสูญเสียเกิดขึ้น อยากให้ภาคใต้สงบสุข
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กับรัฐบาลที่มีนักการเมืองเป็นนายกรัฐมนตรี ประชาชนคิดว่ามีสิ่งใดที่ดีขึ้น แย่ลง และเหมือนเดิม โดยสิ่งที่ดีขึ้นส่วนใหญ่ร้อยละ 78.47 ระบุการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น รองลงมาร้อยละ 72.65 ทำงานเด็ดขาด จริงจัง บ้านเมืองเป็นระเบียบ ไม่มีการชุมนุม และร้อยละ 61.48 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม
ส่วนสิ่งที่แย่ลง ส่วนใหญ่ร้อยละ 76.24 ระบุปัญหาเศรษฐกิจ ราคาพืชผลการเกษตร ขณะที่ร้อยละ 66.59 ระบุสถานการณ์ภาคใต้ ระเบิด การก่อการร้าย และร้อยละ 56.70 ความขัดแย้ง ถูกควบคุมสิทธิเสรีภาพ ส่วนสิ่งที่เหมือนเดิมร้อยละ 80.90 ระบุค่าครองชีพแพง ความเป็นอยู่ลำบาก รองลงมา 79.67 ยังมีความขัดแย้ง ทะเลาะเบาะแว้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่าย และร้อยละ 60.77 ปัญหาอาชญากรรม คุณธรรมจริยธรรมลดลง
ส่วน 5 อันดับรัฐบาลไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่ประชาชนชื่นชอบ อันดับ 1 ร้อยละ 77.59 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เพราะเป็นรัฐบาลทหาร มีความเด็ดขาด จริงจัง มีแผนการทำงานเป็นระยะชัดเจน แก้ปัญหาการทุจริตได้ดี อันดับ 2 ร้อยละ 70.41 รัฐบาลทักษิณ เพราะเศรษฐกิจดี ต่างชาติให้การยอมรับ ประชาชนได้รับความช่วยเหลือ เน้นนโยบายเพื่อประชาชน อันดับ 3 ร้อยละ 63.16 รัฐบาลอภิสิทธิ์ เพราะมีการปฏิรูปการศึกษา มีนโยบายสนับสนุนส่งเสริมการศึกษา นโยบายในการพัฒนาประเทศดี อันดับ 4 ร้อยละ 59.17 รัฐบาลชวน เพราะประเทศมีความก้าวหน้า บ้านเมืองสงบสุข มีความสามัคคีปรองดอง ผู้นำมีความซื่อสัตย์ สุภาพ และอันดับ 5 ร้อยละ 54.39 รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพราะเน้นช่วยเหลือเกษตรกรและคนจน งบประมาณทั่วถึง ขึ้นเงินเดือน มีนโยบายที่เน้นทำเพื่อประชาชน
รองลงมาร้อยละ 74.64 ร่างรัฐธรรมนูญ การจัดตั้งพรรคการเมือง เพราะอยากให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว อยากเห็นรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์ จะได้รู้ทิศทางของการเมืองไทย และร้อยละ 68.42 สถานการณ์ภาคใต้ เกิดเหตุระเบิดในหลายพื้นที่ เพราะเป็นปัญหาที่มีมานาน รู้สึกเป็นห่วงและกังวล ไม่อยากให้มีการสูญเสียเกิดขึ้น อยากให้ภาคใต้สงบสุข
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กับรัฐบาลที่มีนักการเมืองเป็นนายกรัฐมนตรี ประชาชนคิดว่ามีสิ่งใดที่ดีขึ้น แย่ลง และเหมือนเดิม โดยสิ่งที่ดีขึ้นส่วนใหญ่ร้อยละ 78.47 ระบุการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น รองลงมาร้อยละ 72.65 ทำงานเด็ดขาด จริงจัง บ้านเมืองเป็นระเบียบ ไม่มีการชุมนุม และร้อยละ 61.48 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม
ส่วนสิ่งที่แย่ลง ส่วนใหญ่ร้อยละ 76.24 ระบุปัญหาเศรษฐกิจ ราคาพืชผลการเกษตร ขณะที่ร้อยละ 66.59 ระบุสถานการณ์ภาคใต้ ระเบิด การก่อการร้าย และร้อยละ 56.70 ความขัดแย้ง ถูกควบคุมสิทธิเสรีภาพ ส่วนสิ่งที่เหมือนเดิมร้อยละ 80.90 ระบุค่าครองชีพแพง ความเป็นอยู่ลำบาก รองลงมา 79.67 ยังมีความขัดแย้ง ทะเลาะเบาะแว้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่าย และร้อยละ 60.77 ปัญหาอาชญากรรม คุณธรรมจริยธรรมลดลง
ส่วน 5 อันดับรัฐบาลไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่ประชาชนชื่นชอบ อันดับ 1 ร้อยละ 77.59 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เพราะเป็นรัฐบาลทหาร มีความเด็ดขาด จริงจัง มีแผนการทำงานเป็นระยะชัดเจน แก้ปัญหาการทุจริตได้ดี อันดับ 2 ร้อยละ 70.41 รัฐบาลทักษิณ เพราะเศรษฐกิจดี ต่างชาติให้การยอมรับ ประชาชนได้รับความช่วยเหลือ เน้นนโยบายเพื่อประชาชน อันดับ 3 ร้อยละ 63.16 รัฐบาลอภิสิทธิ์ เพราะมีการปฏิรูปการศึกษา มีนโยบายสนับสนุนส่งเสริมการศึกษา นโยบายในการพัฒนาประเทศดี อันดับ 4 ร้อยละ 59.17 รัฐบาลชวน เพราะประเทศมีความก้าวหน้า บ้านเมืองสงบสุข มีความสามัคคีปรองดอง ผู้นำมีความซื่อสัตย์ สุภาพ และอันดับ 5 ร้อยละ 54.39 รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพราะเน้นช่วยเหลือเกษตรกรและคนจน งบประมาณทั่วถึง ขึ้นเงินเดือน มีนโยบายที่เน้นทำเพื่อประชาชน
