ผู้จัดการรายวัน360-ตำรวจระบุรู้ตัว 1 ในคนร้ายแฮก ATM ธนาคารออมสินแล้ว เป็นชาวรัสเซีย พบตะเวนกดเงินในพื้นที่ภูเก็ต เพชรบุรี จนถึงกรุงเทพฯ จำนวน 13 ครั้ง ได้เงินไปกว่า 3 ล้านบาท ก่อนบินกลับไปรัสเซีย เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา เตรียมสืบหาผู้ร่วมแก๊งต่อ
พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา สบ 10 เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายก่อเหตุแฮกข้อมูลและฉกเงินจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสินในหลายพื้นที่ รวมทั้งจังหวัดภูเก็ต พังงา สุราษฎร์ธานี ว่า มีผู้เกี่ยวข้องจำนวน 3 กลุ่มที่ออกปฏิบัติการตระเวนกดเงินจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสิน และเชื่อว่าน่าจะมีผู้ร่วมขบวนการ 3-7 คน โดยจากการสืบสวนและร่วมกันทำงานของทุกฝ่าย ทำให้ขณะนี้มีความชัดเจนเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุกดเงินในพื้นที่ จ.ภูเก็จ กรุงเทพฯ และเพชรบุรี แล้วจำนวน 1 ราย เชื่อว่าจากพยานหลักฐานที่มีสามารถนำไปสู่การออกหายจับได้
"ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวรัสเซีย พบมีพฤติกรรมกดเงินออกจากตู้เอทีเอ็มต่างๆ จำนวน 13 ครั้ง ได้เงินไปประมาณ 3 ล้านกว่าบาท แต่ขณะนี้ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ทราบชื่อ คือ นาย RUSTAM SHAMBASOV อายุ 29 ปี สัญชาติรัสเซีย ซึ่งจากแนวทางการสืบสวนเชื่อว่า สามารถนำไปสู่การออกหมายจับคนร้ายได้อย่างแน่นอน"
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนทราบรถที่คนร้ายเช่ามาเพื่อใช้ในการกระทำความผิดแล้ว จำนวน 1 คัน จากทั้งหมดที่มีการตรวจพบ 3 คน คือ รถฟอร์จูนเนอร์ ที่เช่าจากร้านในบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ พบขอ้มูลชายชาวตางชาติได้ติดต่อเช่ารถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น ฟอรจูนเนอร์ สีขาว ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้ในขณะที่คนร้ายขับไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ระหว่างวันที่ 27-28 ก.ค.59 โดยตระเวนกดเงินในพื้นที่ จ.ภูเก็ตหลายจุดด้วยกัน
สำหรับการตรวจสอบ พบว่า ผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวเริ่มเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ด้วยสายการบินแอร์ไชน่า เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ต้นทางสนามบินปักกิ่ง และถึงสนามบินภูเก็ต เวลา 00.40 น.วันที่ 14 ก.ค. หลังจากนั้น ผู้ต้องสงสัยได้ลงมือกดเงินจากตู้เอทีเอ็มทันทีตั้งแต่วันที่ 15-17 ก.ค. จากนั้นออกจากภูเก็ตไปดอนเมือง และวันที่ 18 ก.ค. ไปเพชรบุรี ไล่กดเงินวันที่ 21 ก.ค. พอถึงวันที่ 25 ก.ค. เช่ารถไปภูเก็ต และเริ่มกดเงินในพื้นที่ภูเก็ตอีกครั้ง จนถึงวันที่ 28 ก.ค. และบินกลับเข้ากรุงเทพฯ ตะเวนกดเงินในพื้นที่กรุงเทพฯ ช่วงวันที่ 29-31 ก.ค. และออกจากสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ส.ค. ปลายทางมอสโก
พล.ต.อ.ปัญญา กล่าวว่า จากข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับมา ทำให้ทราบข้อมูลผู้ต้องสงสัยที่ชัดเจนแล้ว 1 ราย สิ่งที่ทางเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการต่อ คือ การสืบสวนหารถอีก 2 คัน ที่คนร้ายนำไปใช้ในก่อเหตุ ซึ่งมั่นใจว่าเป็นรถที่เช่าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต คือ รถเก๋งซีวิค และวีออส สีขาว หากได้ข้อมูลการเช่ารถทั้ง 2 คันมา ก็จะทำให้เจ้าหน้าที่มีข้อมูลของคนร้ายมากขึ้นอย่างแน่นอน
พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา สบ 10 เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายก่อเหตุแฮกข้อมูลและฉกเงินจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสินในหลายพื้นที่ รวมทั้งจังหวัดภูเก็ต พังงา สุราษฎร์ธานี ว่า มีผู้เกี่ยวข้องจำนวน 3 กลุ่มที่ออกปฏิบัติการตระเวนกดเงินจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสิน และเชื่อว่าน่าจะมีผู้ร่วมขบวนการ 3-7 คน โดยจากการสืบสวนและร่วมกันทำงานของทุกฝ่าย ทำให้ขณะนี้มีความชัดเจนเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุกดเงินในพื้นที่ จ.ภูเก็จ กรุงเทพฯ และเพชรบุรี แล้วจำนวน 1 ราย เชื่อว่าจากพยานหลักฐานที่มีสามารถนำไปสู่การออกหายจับได้
"ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวรัสเซีย พบมีพฤติกรรมกดเงินออกจากตู้เอทีเอ็มต่างๆ จำนวน 13 ครั้ง ได้เงินไปประมาณ 3 ล้านกว่าบาท แต่ขณะนี้ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ทราบชื่อ คือ นาย RUSTAM SHAMBASOV อายุ 29 ปี สัญชาติรัสเซีย ซึ่งจากแนวทางการสืบสวนเชื่อว่า สามารถนำไปสู่การออกหมายจับคนร้ายได้อย่างแน่นอน"
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนทราบรถที่คนร้ายเช่ามาเพื่อใช้ในการกระทำความผิดแล้ว จำนวน 1 คัน จากทั้งหมดที่มีการตรวจพบ 3 คน คือ รถฟอร์จูนเนอร์ ที่เช่าจากร้านในบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ พบขอ้มูลชายชาวตางชาติได้ติดต่อเช่ารถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น ฟอรจูนเนอร์ สีขาว ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้ในขณะที่คนร้ายขับไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ระหว่างวันที่ 27-28 ก.ค.59 โดยตระเวนกดเงินในพื้นที่ จ.ภูเก็ตหลายจุดด้วยกัน
สำหรับการตรวจสอบ พบว่า ผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวเริ่มเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ด้วยสายการบินแอร์ไชน่า เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ต้นทางสนามบินปักกิ่ง และถึงสนามบินภูเก็ต เวลา 00.40 น.วันที่ 14 ก.ค. หลังจากนั้น ผู้ต้องสงสัยได้ลงมือกดเงินจากตู้เอทีเอ็มทันทีตั้งแต่วันที่ 15-17 ก.ค. จากนั้นออกจากภูเก็ตไปดอนเมือง และวันที่ 18 ก.ค. ไปเพชรบุรี ไล่กดเงินวันที่ 21 ก.ค. พอถึงวันที่ 25 ก.ค. เช่ารถไปภูเก็ต และเริ่มกดเงินในพื้นที่ภูเก็ตอีกครั้ง จนถึงวันที่ 28 ก.ค. และบินกลับเข้ากรุงเทพฯ ตะเวนกดเงินในพื้นที่กรุงเทพฯ ช่วงวันที่ 29-31 ก.ค. และออกจากสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ส.ค. ปลายทางมอสโก
พล.ต.อ.ปัญญา กล่าวว่า จากข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับมา ทำให้ทราบข้อมูลผู้ต้องสงสัยที่ชัดเจนแล้ว 1 ราย สิ่งที่ทางเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการต่อ คือ การสืบสวนหารถอีก 2 คัน ที่คนร้ายนำไปใช้ในก่อเหตุ ซึ่งมั่นใจว่าเป็นรถที่เช่าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต คือ รถเก๋งซีวิค และวีออส สีขาว หากได้ข้อมูลการเช่ารถทั้ง 2 คันมา ก็จะทำให้เจ้าหน้าที่มีข้อมูลของคนร้ายมากขึ้นอย่างแน่นอน