ตร.เผยภาพ “ซีวิค-วีออส-ฟอร์จูนเนอร์” แก๊งฉกเงินออมสินใช้ก่อเหตุ เชื่อบางส่วนยังอยู่ในไทย

 
MGR Online - ชุดคลี่คลายคดีโจรกรรมเงิน ธ.ออมสิน เผยภาพยานพาหนะคนร้ายใช้หลบหนี เชื่อ คนร้ายบางส่วนยังอยู่ในไทย เร่งติดตามรถก่อเหตุ ฮอนด้า ซีวิค โตโยต้า วีออส และ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ยันคืบหน้าไปกว่า 90 เปอร์เซ็นต์



วันนี้ (26 ส.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา (สบ 10) ในฐานะหัวหน้าทีมพนักงานสอบสวน คลี่คลายคดีโจรกรรมเงินจากตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสิน 21 แห่ง กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกว่า 3 ชั่วโมง กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามความคืบในคดีดังกล่าว ว่า ในส่วนของการสืบสวนสอบสวนจากทีมทำงาน และจากธนาคารออมสิน ทำให้เห็นภาพของคนร้ายชัดเจนขึ้น ยังไม่ตัดหลักฐาน หรือข้อมูลใดออก ขณะนี้ทีมสืบสวนพบภาพคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ เป็นคนที่ไปทำการที่ตู้เอทีเอ็ม 8 - 9 คน แต่ในจำนวนนี้ก็เป็นไปได้ว่าจะเป็นบุคลากรก่อเหตุหลายจุดก็ได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบบุคคล หรือระบุชื่อได้ รู้เพียงแต่ว่าเป็นชาวยุโรปตะวันออก เป็นชาวต่างชาติทั้งหมด และรูปพรรณที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศเพื่อนบ้านส่งมาเกือบ 50 คน ยังไม่ใกล้เคียงกับผู้ก่อเหตุกลุ่มนี้ แต่ก็เริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้น

 
พล.ต.อ.ปัญญา กล่าวว่า ขณะนี้พบว่ารถที่ใช้ก่อเหตุในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และ ชุมพร เป็นรถยนต์ 3 คัน ที่ตนอยากให้ช่วยประชาสัมพันธ์กับประชาชน ให้ช่วยตามหารถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค โตโยต้า วีออส และ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ทั้งหมดสีขาว ซึ่งหลังก่อเหตุที่พื้นที่ของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 แล้ว คาดว่า ผู้ก่อเหตุได้นำรถโตโยต้า วีออส ไปก่อเหตุที่จุดอื่นต่อด้วย ส่วนในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ 2 ตู้ และ เพชรบุรี 2 ตู้ ที่ผู้ก่อเหตุสามารถกดเงินสดไปได้ 4 ล้านบาท โดยรถยนต์ที่ใช้ คือ โตโยต้า วีออส ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพผู้ก่อเหตุได้ชัดเจน 2 คน ต่อมาในช่วงวันที่ 27, 29, 30 และ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พบคนร้ายก่อเหตุโจรกรรมตู้ ATM ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 5 ตู้ ได้แก่ พื้นที่ สน.พหลโยธิน 1 ตู้ สน.คลองตัน 2 ตู้ สน.ทองหล่อ 1 ตู้ และ สน.บางนา อีก 1 ตู้ เป็นไปได้ว่านำรถคันเดิมมาใช้ หรืออาจนั่งเครื่องบินมา ในส่วนนี้คนร้ายน่าจะมีประมาณ 4 คน จากการดำเนินการตรวจสอบ เชื่อว่า คืบหน้าไปกว่าร้อยละ 80 - 90

พล.ต.อ.ปัญญา กล่าวด้วยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนในที่ต่าง ๆ จะรับคดีไปดำเนินการ ส่วนการที่จะออกหมายจับหรือไม่ ตนขอให้รออีกสักระยะ เพราะหลักฐานมีเพียงภาพอย่างเดียว จึงยังไม่อยากออกหมายจับ แต่อยากได้พาสปอร์ต หรือ รูปพรรณอื่น ๆ เพิ่มเติมที่จะสามารถยืนยันตัวคนร้ายได้ อีกประเด็นหนึ่ง คือ เชื่อว่า คนร้ายบางส่วนยังอยู่ในประเทศไทย

และในวันพรุ่งนี้ (27 สิงหาคม) ตนจะไปเร่งรัดคดีในเขตกรุงเทพมหานคร โดยจะนัดหมายกันในเวลา 09.30 น. ที่บริเวณปั๊มน้ำมันเชลล์ ซอยวิภาวดี 44 ส่วนในช่วงบ่ายจะเดินทางไปที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีการลงมากดเงินและทิ้งหลักฐานไว้พอสมควร ขณะที่ในวันอาทิตย์จะไปที่จังหวัดภูเก็ต และ พังงา

 
ทั้งนี้ ทีมสืบสวนได้นำภาพถ่ายยานพาหนะที่ผู้ต้องหาใช้ในการหลบหนีภายหลังการก่อเหตุโจรกรรม โดยปรากฏภาพตามรายละเอียดดังนี้ ภาพที่ 1 เป็นภาพบริเวณหน้าตู้ ATM J&P supartmart อ.ท่าฉัตรไชย จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2559 เวลา 17.50 น. เป็นภาพรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีขาว ภาพที่ 2 เป็นภาพจากกล้อง CCTV จุดบ้านหินลูกเดียว อ.ท่าฉัตรไชย จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2559 เวลา 23.15 น. รถเก๋ง Toyota Fortuner สีขาว ภาพที่ 3 เป็นภาพคนร้าย และรถยนต์เก๋ง Toyota vios สีขาว จากกล้องวงจรปิด ของปั๊มน้ำมัน ก.กิจ ปิโตรเลี่ยม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2559 เวลา 00.19 น.