สุราษฎร์ธานี - ที่ปรึกษา สบ 10 นำทีมลงพื้นที่ตรวจสอบตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสิน ปั๊ม ปตท.พุนพิน สุราษฎร์ธานี เพื่อแกะรอยแก๊งยุโรปตะวันออกที่ใช้ระบบมัลแวร์ดูดเงินจากตู้ ATM ของธนาคารออมสินไป จำนวน 12 ล้านบาท เชื่อมีคนไทยร่วมขบวนการแต่การสอบยังโยงไม่ถึง
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (27 ส.ค.) พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา สบ 10 พร้อมทีมงานลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยเข้าตรวจสอบตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสิน ที่ติดตั้งอยู่หน้า บริษัท ก.กิจ ปิโตรเลียม จำกัด ภายใต้ปั๊มน้ำมัน ปตท. ริมถนนสายเอเชีย 41 ม.3 ต.หัวเตย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ห่างจากสนามบินสุราษฎร์ธานี ประมาณ 2 กม. ซึ่งการสอบสวนของพนักงานสอบสวน สภ.พุนพิน พบว่า ตู้เอทีเอ็มแห่งนี้มีภาพวงจรปิดระบุคนร้ายมากดเงิน 2 ครั้ง ในวันที่ 1 ส.ค. 2559 เวลา 00.01 น. และอีกครั้งในเวลาประมาณ 03.00 น. สูญเงินไป จำนวน 320,000 บาท ซึ่งคนร้ายเป็นยุโรปตะวันออกที่เช่ารถ จำนวน 3 คัน คือ รถเก๋งซีวิค รถเก๋งวีออส และรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ส มาจาก จ.ภูเก็ต แต่ไม่เห็นป้ายทะเบียนรถ
ภายหลังตรวจสอบตู้เอทีเอ็มที่ อ.พุนพิน แล้ว พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา สบ 10 กล่าวว่า ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี มีตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสินที่ถูกแฮ็กข้อมูล จำนวน 4 ตู้ คือ อ.พุนพิน 1 ตู้ และที่ อ.ไชยา 3 ตู้ สูญเสียเงินไปทั้งหมดประมาณ 3 ล้านเศษ โดยกลุ่มคนร้ายเป็นชาวยุโรปตะวันออกทั้งหมด ที่ระบุชัดเจนประมาณ 6 คน และมีบางส่วนหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว และมีบางส่วนยังกบดานอยู่ในประเทศ ซึ่งรถจำนวน 3 คันที่เช่ามาเชื่อว่าคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 6 คน ก่อเหตุใน จ.สุราษฎร์ธานี ชุมพร ไล่ไปจนถึงกรุงเทพฯ และเชื่อว่าคนร้ายมีอยู่ประมาณไม่น่าจะเกิน 10 คน โดยพรุ่งนี้จะเดินทางลงไปตรวจสอบที่ จ.ภูเก็ต สถานที่ที่คาดว่าเป็นแหล่งเช่ารถ พร้อมฝากประชาชนช่วยกันสอดส่องดู และระบุว่ามีคนไทยร่วมขบวนการอยู่ด้วยแต่การสอบสวนยังเชื่อมโยงไม่ถึง
