xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ระวังทำเกิน นายกฯคนนอกไม่มาตามนัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -สูตรนายกฯคนนอกคงมาตามนัด ถ้าพวกหัวหมู่ไม่รู้มากจนงานใหญ่พังเสียก่อน !

หลังร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับซือแป๋ มีชัย ฤชุพันธุ์ ผ่านประชามติ แถมหนีบคำถามพ่วง ที่“สนช.- สปท.”แท็กทีมชงช้อยส์หวานเจี๊ยบให้“ส.ว.ลากตั้ง”ร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในระยะเปลี่ยนผ่าน 5 ปีแรก ผ่านด่านประชาชนมาหมาดๆ

มาดเข้มๆ ของ“มีชัย”ก่อนหน้า ที่เคยประกาศลั่น ไม่ได้รับงานมาร่างรัฐธรรมนูญปูทางให้ใครบินมานั่งแท่นเป็นนายกฯ คนนอก โดยไม่ต้องเป็น ส.ส.แน่นอน กลับเริ่มอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

ล่าสุดไม่กี่วันก่อน เจ้าตัวให้สัมภาษณ์เสียงอ่อย ชี้โพรงยอมรับว่า“นายกฯคนนอกจะมีได้เพียงแค่ครั้งแรกครั้งเดียว แค่วาระแรกเริ่ม”ระหว่างกระบวนการที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กำลังก้าวสู่ขั้นตอนเข้าอู่ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ขันเกลียวคำถามพ่วงยัดใส่บทเฉพาะกาลให้แนบเนียน พอดิบพอดี ขั้นตอนนี้ กรธ.ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญตรวจงานภายใน 30 วันทำการ

ที่บอกว่า สูตรนายกฯคนนอกมาแน่ เพราะอาการของ“มีชัย”ไปประจวบเหมาะตรงเผง กับอาการคันคะเยอ ของทีมงานก๊วนส.ว.แต่งตั้งหน้าเก่า ที่แปลงร่างขยายสาขา เข้าไปมีตำแหน่ง ทั้งใน สนช. และสปท. กำลังเริ่มอิดออด - หัวหมอ หลังประชามติได้เสียงข้างมากจากมหาชน โดยยืนยัน ควรปรับแก้เนื้อหาบทเฉพาะกาล ตามเจตนารมณ์ที่พี่น้องให้มาแล้ว คือ
 
1. ควรตัดขั้นตอนที่เป็นอำนาจส.ส.ในการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนนอก หรือไม่ออกไป และ 2. ให้ ส.ว.ลากตั้ง 250 คน ได้ร่วมชงรายชื่อคนที่จะมาเป็นนายกฯ แข่งกับส.ส.ได้ด้วย

ใช่ไม่ใช่มิทราบได้

แต่พอนักการเมืองได้ยินเท่านั้น เหมือนรู้ทัน รีบโวยแหลก ทำเยี่ยงนี้ เนื้อหามันไม่เหมือนตอนเอาไปป่าวประกาศกับประชาชนตอนทำประชามตินี่หว่า ตามบท คำถามพ่วงประชามติที่ชงไว้ เสนอถามแค่ว่า“จะให้ส.ว.ลากตั้ง ร่วมโหวตนายกฯ ด้วยในระยะเปลี่ยนผ่าน 5 ปีแรกได้หรือไม่”

เพื่อความเข้าใจ ไม่ให้การตีความ วุ่นวาย ยุ่งเหยิง ขออนุญาตไล่เรียงตามลายลักษณ์อักษรในบทเฉพาะกาลเดิม ของร่างฯ“ซือแป๋”ที่ผ่านประชามติไปนั้น บอกไว้ว่า การเลือกนายกรัฐมนตรี มีอยู่ว่า ถ้าเลือกนายกฯ ตามบัญชีไม่ได้ แล้วเข้ากระบวนการเลือกนายกฯ คนนอก ต้องทำตาม มาตรา 272 ของบทเฉพาะกาล ดังนี้ 1.ใช้เสียงกึ่งหนึ่งของส.ส. หรือเกิน 250 คน เพื่อให้มีการเปิดประชุมรัฐสภา เพื่อขอมติ 2 ใน 3 สำหรับการงดเว้นการเสนอชื่อนายกฯ นอกบัญชี 2. จากนั้น จึงเลือกนายกฯ โดยผู้มีสิทธิเสนอชื่อนายกฯ ยังคงเป็น ส.ส. แม้จะนอกบัญชีก็ตาม และคนเสนอชื่อนายกฯได้ ต้องเป็น ส.ส.เท่านั้น
 
แต่สัญญาณใหม่ถอดด้ามที่ถูกส่งออกมา เรียกว่าได้คืบจะเอาศอกกันเห็นๆ นอกจากขอให้ส.ว.ลากตั้ง ข้ามหัวส.ส. มาร่วมโหวตนายกฯคนนอกได้เลยนั้น ยังจะให้ ส.ว.ลากตั้ง ร่วมแจม ชงชื่อนายกฯ ขึ้นมาแข่งกับ ส.ส.ได้อีก

ปฏิบัติการโยนเผือกร้อนลงกระดานการเมือง โดย 3 หัวหอก “สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย”รองประธาน สนช.คนที่ 1 และสนับสนุนโดย คู่หูตัวจี๊ดของ สปท.อย่าง “เสรี สุวรรณภานนท์- วันชัย สอนศริ”

แต่เอาเถอะ ทำได้หรือไม่ได้ ผิดหลักกฎหมาย ได้คืบจะเอาศอก หรือหมกเม็ด ตามข้อครหาของนักการเมืองหรือไม่ อันนี้ไม่ทราบ

แต่มีคำถามว่า ตอนที่สนช.ในฐานะเจ้าของคำถามพ่วง ลงพื้นที่ชี้แจงกับประชาชนทั่วประเทศ เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนลงคะแนนประชามติ 7 ส.ค.นั้น ท่านบอกประชาชนอย่างครบถ้วน หรือไม่ ว่าความหมายที่แท้จริง หรือเจตนารมณ์คำถามพ่วง เป็นอย่างไร

แจกแจงหรือไม่ว่า หากคำถามพ่วงผ่านฉลุย ส.ว.จะมีสิทธิเสนอชื่อนายกฯ แข่งกับส.ส. และท่านจะข้ามขั้นตอนที่เป็นของส.ส.ไปเลย แล้วให้ส.ว.มาร่วมโหวตนายกฯ เพื่อเอื้อให้เกิดนายกฯคนนอกได้ง่ายๆ ด้วยน้ำมือคนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งได้เลยอย่างที่ชงมาล่าสุด หรือไม่ 

คำตอบล่าสุดที่“รองฯสุรชัย”ออกมาชี้แจงสื่อมวลชน หลังถูกถามประเด็นนี้ ต้องบอกว่า ฟังคำตอบแล้วโคตรเจ็บปวด เพราะท่านรองยอมรับโดยดุษฎี ว่า “การลงพื้นที่ชี้แจง 9 กลุ่มจังหวัด ที่สนช.แบ่งไว้ ให้แต่ละคณะรับผิดชอบกันเอง ไม่ได้มีการกำหนด กะเกณฑ์วิธีการพูด การตอบคำถาม แต่สิ่งที่กำหนดให้เป็นนโยบายต้องปฏิบัติ คือ ห้ามชี้นำ ในที่ประชุมที่พิจารณาการนำเสนอต่อ กรธ. ตนได้นำประเด็นนี้มาซักถามด้วย โดยแต่ละกลุ่มบอกว่า มีทั้งพูด และไม่ได้พูดประเด็นนี้ ”

แล้วทำไม ไม่อธิบายไปในทางเดียวกัน !

ดังนั้น หากตอนนี้ถูกคนนินทาหมาดูถูกว่าหมกเม็ด มันก็สมน้ำหน้าแล้ว ก็เห็นๆ กันอยู่ว่า สินค้าหน้าตู้โชว์เป็นอีกแบบ พอกลับถึงบ้าน แกะกล่องดูสินค้าหน้าตาเป็นอีกแบบ เรื่องของเรื่อง จะคืนก็ไม่ได้ เพราะจ่ายตังไปแล้ว มีลูกค้าที่ไหนเจอแบบนี้แล้วไม่ด่าบ้าง

ยังดีที่ ฟากผู้นำรัฐบาลอย่าง“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”นายกรัฐมนตรี ยังไม่มีท่าทีรับลูก บอกเพียงว่า
 
“แก้ได้หรือ รัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่าอย่างไร เขาเขียนไว้ 2 ขั้นไม่ใช่หรือ ซึ่งจากการศึกษาของผม เรื่องดังกล่าวที่มาของนายกฯ ขั้นที่ 1 ต้องเลือกจาก ส.ส.พรรคละ 3 คน ถ้าไม่ได้ ถึงจะไปขั้นที่ 2 ดังนั้นอยาเอามาปนกัน”

มันก็ยังพอจะเบาใจได้บ้าง แต่ขอเตือนไว้ในฐานะผู้หวังดี ถ้านายกรัฐมนตรีไม่ห้ามปราม หรือ กรธ.ยอมโอนอ่อน ปล่อยกระแสตามน้ำ ให้เหล่าตัวจี๊ดได้ปู้ยี่ปู้ยำบทเฉพาะกาลได้ตามใจชอบ “บิ๊กตู่” เองนั่นแหละจะโคตรปวดขมับ ตกที่นั่งลำบาก

เพราะแว่วๆ เสียงขู่จากฟากการเมืองดักทางไว้แล้วว่า ถ้ามีคนกล้าหักดิบ แก้ไขตามที่ทีมงานตัวจี๊ดเสนอของร้อนมา คงมีคนไปร้องศาลรัฐธรรมนูญตีความแน่ๆว่า มันไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญชั่วคราว และไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านการลงประชามติ

แม้ “พีระศักดิ์ พอจิต”จะออกตัวโต้คำขู่ว่า ไม่ต้องลำบากส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความให้เมื่อยตุ้ม ยังไงๆ พอกระบวนการปรับแก้ของกรธ. เสร็จสิ้นใน 30 วัน ก็ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจการบ้านอยู่ดี

แต่ก็ไม่มีอะไรการันตีได้ว่า งานนี้ จะมีใครห้าวขยับไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ หรือไม่ จะกลายเป็นจุดชนวนแรงต้าน ให้สถานการณ์กลับมาวุ่นวาย หรือไม่จะนายกฯคนนอก หรือคนใน “พล.อ.ประยุทธ์” คือตัวเต็งนัมเบอร์วัน ในตอนนี้อยู่แล้ว  

โปรดฟังคำเตือนอีกครั้งหนึ่งว่า หากยังปล่อยให้ลิ่วล้อจอมเชลียร์ คอยเอาหน้าหวังมามีตำแหน่งใดๆ ในอนาคตแบบประเจิดประเจ้ออย่างนี้ไปเรื่อยๆมันจะเข้าตำราฝรั่งทำเกิน น็อตอาจหลวมหล่นหาย ขบวนรถไฟในฝันพังครืนไม่เป็นท่า !


กำลังโหลดความคิดเห็น